• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 24 ธันวาคม 2562

    24 ธันวาคม 2562 | Gold News
    

· ราคาทองคำปรับตัวขึ้นทำระดับสูงสุดในรอบกว่าหนึ่งเดือนครึ่ง ท่ามกลางข้อมูลเศรษฐกิจที่เบาบางของสหรัฐฯ ประกอบกับความกังวลเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่ช่วยสนับสนุนความต้องการทองคำในฐานะ Safe-Haven

ราคาทองคำตลาดโลกปรับขึ้นกวา่ 0.3% ที่ 1,490 เหรียญ ไปทำระดับสูงสุดวันนี้บริเวณ 1,491.79 เหรียญ ซึ่งเป็นสูงสุดตั้งแต่ 7 พ.ย. ในขณะที่ Gold Futures ขยับขึ้นมาเคลื่อนไหว 1,494.8 เหรียญ

· ข้อมูลยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนสหรัฐฯที่ออกมาแย่กว่าคาดเมื่อวานนี้ ประกอบกับยอดขนส่งทางเรือที่ออกมาแย่ลง ได้สะท้อนต่อภาวะการลงทุนภาคธุรกิจที่ดูจะส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจสหรัฐฯไตรมาสที่ 4/2019

· นักกลยุทธ์การตลาดจาก AxiTrader กล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ออกมาแย่กว่าที่คาด ประกอบกับความกังวลเรื่องภาษีการค้า ณ ปัจจุบัน ดูจะส่งผลกดดันเศรษฐกิจสหรัฐฯในช่วงเข้าสู่ปี 2020 ท่ามกลางเศรษฐกิจแคนาดาที่ดูจะได้รับผลพวงและจีดีพีออกมาแย่เหนือความคาดหมาย โดยหดตัว 0.1% ในเดือนต.ค. เป็นเดือนแรกที่ปรับตัวลงมานับตั้งแต่ก.พ.

· กลุ่มนักลงทุนกำลังรอความคืบหน้าของข้อตกลงเฟสแรกระหว่างสหรัฐฯและจีน

· นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่า ยังมีความไม่ชัดเจน 100% ที่ข้อตกลงเฟสแรกจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ เพราะก็ยังไม่มีการลงนามระหว่างกัน และเราไม่รู้ถึงรายละเอียดของเฟดต่อไปที่จะตามมา

· นักวิเคราะห์จาก Kitco เผยว่า แม้ว่าราคาทองคำจะไม่ได้แกว่งตัวมากนักในช่วงเทศกาล แต่ก็ดูเหมือนในช่วงเทศกาลระหว่าง ธ.ค. - ม.ค.นี้จะเห็นถึงความต้องการทองคำเพิ่มขึ้นมากกว่าในช่วง 2-3 ปีทีผ่านมา โดยแนะจับตาไปยังเทศกาลดิวาลีของอินเดีย และตรุษจีน

และถึงแม้ว่าราคาทองคำ ณ ปัจจุบันในทางเทคนิคสามารถยืนได้เหนือ 1,482.4 เหรียญ และเส้นค่าเฉลี่ยราย 50 วันบริเวณ 1,480.4 เหรียญ ก็ดูจะทำให้ภาพของทองคำค่อนข้างดี และตราบที่ราคาทองคำยังยืนได้เหนือเส้นค่าเฉลี่ยดังกล่าว ก็จะบ่งชี้เป็นภาวะขาขึ้นในทองคำอยู่ ซึ่งบริเวณดังกล่าวก็ถือเป็นระดับแนวรับ ณ ปัจจุบันด้วย

ขณะที่แนวต้านด้านบนของทองคำดูจะอยู่ต่ำกว่า 1,500 เหรียญ โดยที่ระดับสำคัญทางเทคนิค 2 ตัวบ่งชี้ว่า เส้นค่าเฉลี่ย MA ราย 100 วันอยู่ที่ 1,497.4 เหรียญ ขณะที่เส้น Fibonacci Retracement 23.6% อยู่ที่ 1,496.1 เหรียญ ซึ่งหากราคาทองคำผ่าน 2 ระดับดังกล่าว และยืนได้เหนือระดับสำคัญทางจิตวิทยาที่ 1,500 เหรียญได้ ก็ดูจะเป็นการตอกย้ำการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องของทองคำได้ โดยเราน่าจะเห็นการเคลื่อนไหวของทองคำได้ตั้งแต่ช่วง ธ.ค. - ม.ค. ที่ราคาจะเริ่มต้นฟื้นตัวตั้งแต่ช่วงเทศกาลคริสต์มาส และปีใหม่

· รายงานจาก Kitco ระบุว่า มุมมองของบรรดานักวิเคราะห์และนักเศรษฐศาสตร์มีความเห็นว่า "เฟด" และ "อีซีบี" น่าจะเลือกคงดอกเบี้ยในปี 2020

ทุกๆการเปลี่ยนแปลงใดๆจากเฟดและอีซีบี ก็ดูเหมือนจะส่งผลกระทบต่อราคาทองคำ เมื่อเทียบกับบรรดาธนาคารกลางอื่นๆ โดยนโยบายผ่อนคลายทางการเงินจะนำมาซึ่งความเป็นไปได้ของการปรับตัวสูงขึ้นของเงินเฟ้อ และ "ทองคำ" ก็มักจะถูกเข้าซื้อเพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ ขณะเดียวกันการเคลื่อนไหวของสองธนาคารชั้นนำก็จะส่งผลกระทบต่อค่าเงินยูโรและดอลลาร์ ที่จะมีผลต่อการเคลื่อนไหวของทองคำด้วยนั่นเอง

ภาพรวมเฟดตัดสินใจคงดอกเบี้ยไว้ในการประชุมเดือนธ.ค. หลังจากที่ได้ทำการปรับลดดอกเบี้ยไปแล้ว 3 ครั้งในปีนี้ ครั้งละ 0.25% ขณะที่ Fed Dot-Plot ชี้ว่าสมาชิกเฟดส่วนใหญ่ ณ ขณะนี้มีความคิดไปในทางเดียวกันว่าน่าจะไม่มีการปรับลดดอกเบี้ยเพิ่มปี 2020

นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจาก Capital Economics คาดว่า น่าจะเห็นเฟดยังคงดอกเบี้ยในอนาคต เว้นแต่ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงใดๆเกิดขึ้นกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ

นักวิเคราะห์จาก Nomura Global Economics กล่าวว่า บรรดาสมาชิกเฟดก็ดูจะเห็นพ้องต่อการที่เศรษฐกิจสหรัฐฯมีการขยายตัวดังนั้น เฟดน่าจะไม่ทำการเปลี่ยนแปลงนโยบายดอกเบี้ยใดๆจนถึงการเลือกตั้งปี 2020

นักวิเคราะห์จาก TD Securities และ Commerzbank เห็นต่าง โดยคาดว่าน่าจะเห็นเฟดลดดอกเบี้ยได้ในดือนหน้า

นักกลยุทธ์การตลาดจาก Bannockburn Global Forex ก็มีมุมมองในทางเดียวกันว่า เฟดน่าจะทำการปรับลดดอกเบี้ยได้ 2 ครั้งก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยในช่วงสิ้นสุด Q1 หรือ Q2 ของปีหน้า น่าจะเห็นทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐฯอ่อนแอและจะนำไปสู่การเห็นเฟดตัดสินใจปรับลดดอกเบี้ยในช่วงต้น Q2/2020

สถาบันการเงินอย่าง Nomura ระบุว่า อาจเห็นเฟดปรับลดดอกเบี้ยได้ 1 ครั้งในปีหน้า ขณะที่ CME FedWatch มองความเป็นไปได้ 51.5% ที่เฟดจะคงดอกเบี้ย 1.5-1.75% ขณะที่มีโอกาส 34.6% ที่มองว่าจะเห็นเฟดลดดอกเบี้ยลง 1-1.25% และอีก 11.6% มองโอกาสที่จะเห็นเฟดขึ้นดอกเบี้ยแตะ 2.3%

· รายงานจาก FXStreet ระบุว่า ในปี 2020 คาดว่า เฟดจะไม่ทำการปรับลดดอกเบี้ยเพิ่ม จึงมีความกังวลว่าปีหน้าอาจเป็นปีที่ยากสำหรับการปรับขึ้นของราคาทองคำได้ โดยจะเห็นได้จากการที่บรรดาสมาชิกเฟดมีการส่งสัญญาณถึงการสิ้นสุดวงจรการผ่อนคลายทางการเงิน และไม่มีแนวโน้มจะเริ่มปรับขึ้นดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ด้วย ซึ่งเฟดดูเหมือนจะตั้งใจให้เงินเฟ้อปรับตัวขึ้นก่อนจะพิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ยตามมา

· ขณะที่ราคาทองคำร่วงลงจากที่ยืนเหนือ 1,550 เหรียญในช่วงเดือนก.ย. ลงมาแถว 1,440 เหรียญในเดือนพ.ย. ได้จากสัญญาณบ่งชี้ที่เฟดชะลอการปรับลดดอกเบี้ย

· นักวิเคราะห์จาก FXStreet วิเคราะห์่า ราคาทองคำมีการฟอร์มตัวเป็นแบบชายธง (Flag Pattern) โดยจะเห็นได้ว่าราคาทองคำมีการฟื้นตัวจากต่ำสุดในช่วงเม.ย. บริเวณ 1,265 เหรียญ จึงมีโอกาสที่จะเห็นทองคำไปหาเป้าหมายระยะยาวที่ 1,850 เหรียญได้ และหากทองคำสามารถปรับตัวขึ้นมาเหนือระดับแนวต้านสำคัญที่เป็นสูงสุดเดิมเมื่อเดือนก.ย.ปีนี้ที่ 1,557 เหรียญได้ ก็มีโอกาสทดสอบแนวต้านสำคัญทางจิตวิทยาบริเวณ 1,600 เหรียญได้


แต่หากทองคำกลับหลุดต่ำกว่าระดับต่ำสุดของเดือนพ.ย.ที่ 1,445 เหรียญ ก็มีโอกาสลงลึกกลับมาแถว 1,400 - 1,300 เหรียญได้

· ราคาซิลเวอร์ปรับขึ้น 0.7% ที่ 17.54 เหรียญ หลังจากที่ไปทำสูงสุดเมื่อ 7 พ.ย. ที่ 17.57 เหรียญในช่วงต้นตลาด ทางด้านพลาเดียมปรับลง 0.1% ที่ 1,874.48 เหรียญ และแพลทินัมทรงตัวที่ 935.89 เหรียญโดยประมาณ

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com