• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 19 ธันวาคม 2562

    19 ธันวาคม 2562 | Economic News

· ค่าเงินดอลลาร์ค่อนข้างทรงตัว แม้จะตอบรับข่าวการลงมติไต่สวนนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันนี้ก็ตาม ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าหลังรายงานอัตตาว่างในประเทศที่ออกมาลดน้อยลงผิดคาด

ค่าเงินปอนด์ยังคงเผชิญแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับกรณี Brexit ที่อาจเป็นไปอย่างวุ่นวาย โดยวันนี้เคลื่อนไหวทรงตัวแถว 1.3081 ดอลลาร์/ปอนด์ หลังจากอ่อนค่าลงมากว่า 2% ในช่วงไม่กี่วันมานี้

ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเงินเยนแถว 109.56 เยน/ดอลลาร์ ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ทรงตัวแถว 97.347 จุด ยังเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 6 วันทำการที่ 97.475 จุด ซึ่งขึ้นไปได้เมื่อวาน

· นักวิเคราะห์จาก ANZ มีมุมมองว่า วุฒิสภาสหรัฐฯมีแนวโน้มต่ำที่จะสนับสนุนการลงมติไต่สวนนายทรัมป์ในเดือน ม.ค. ซึ่งความเห็นชอบจากวุฒิสภามีความจำเป็นในการถอนถอนทรัมป์ออกจากตำแหน่ง

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าทำระดับ 0.6883 ดอลลาร์ ก่อนจะย่อตัวลงแถว 0.6883 ดอลลาร์ หลังการประกาศตัวเลขการจ้างงานที่ออกมาแข็งแกร่ง กระแสคาดการณ์ว่าจะมีการปรับดอกเบี้ยลงอีกจึงเริ่มลดน้อยไปลง

ค่าเงินยูโรทรงตัวแถว 1.1126 ดอลลาร์/ยูโร แม้ว่าดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจในเยอรมนีจะประกาศออกมาดีกว่าที่คาดก็ตาม โดยค่าเงินยังเคลื่อนไหวใกล้ระดับต่ำสุดที่ 1.1109 ดอลลาร์/ยูโร





· ค่าเงินเยนทรงตัวที่บริเวณ 109.60 เยน/ดอลลาร์ โดยมีแนวโน้มอ่อนค่าเนื่องจากยังคงถูกกดดันจากนโยบายของบีโอเจ ท่ามกลางข่าวที่ว่าสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯ มีมติโหวตผ่านการไต่สวนนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ดังนั้น นายทรัมป์จึงกลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯคนที่ 3 ที่ถูกไต่สวนอย่างเป็นทางการ

ภาพรวมทางเทคนิค

ค่าเงินเยนมีแนวโน้มจะอ่อนค่าขึ้นในกรอบของสัปดาห์นี้ แต่ก็ยังคงปราศจากทิศทางที่ชัดเจน โดยในกราฟราย 4 ชั่วโมงจะเห็นได้ว่าค่าเงินเยนยังคงยืนได้เหนือเส้นค่าเฉลี่ยราย 20 SMA ขณะที่ Moving Average ยังคงเคลื่อนตัวขึ้นอย่างช้าๆ ในทางเทคนิคก็ยังคงทรงตัวในแดนอ่อนค่า



· หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯได้ลงมติผ่านการไต่สวนนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไปเมื่อช่วงเช้าวันนี้ ทางโฆษกประจำทำเนียบขาวได้ออกมารายงานว่า นายทรัมป์ไม่ได้มีความกังวลกับการลงมติในวุฒิสภาที่น่าจะเกิดขึ้นเดือนหน้า โดยนายทรัมป์ระบุว่า ทางวุฒิสภาน่าจะลงมติปฏิเสธการไต่สวน และคืนความเป็นระเบียบและยุติธรรมให้กับรัฐสภา



· กระทรวงการคลังจีนประกาศยกเว้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ 6 รายการ โดยจะมีผลบังคับใช้ภายในวันที่ 26 ธ.ค. นี้ จนถึงวันที่ 25 ธ.ค. ปี 2020 โดยสินค้าทั้ง 6 รายการนี้เป็นสินค้ากลุ่มใหม่ ซึ่งทางกระทรวงฯยังไม่ได้ระบุว่าเป็นสินค้าประเภทใดและมีมูลค่าการนำเข้ารวมเท่าไหร่

ล่าสุด จีนเปิดเผยแล้วว่าสินค้ากลุ่มดังกล่าว ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าในกลุ่มสารเคมี อย่าง ไวท์ออยล์ โพลีเอทิลีนความเข้มข้นสูง โพลีเอทิลีนความเข้มข้นต่ำ โพลี่โพรพีลีน และ ปิโตรเลียมแว็กซ์


· ธนาคารกลางญี่ปุ่นประกาศคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันนี้ตามคาด พร้อมคงมุมมองในเชิงบวกต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ บ่งชี้ว่าทางธนาคารกลางยังไม่มีแนวคิดที่จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในเร็วๆนี้ แม้กำลังเผชิญความเสี่ยงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก

อย่างไรก็ตาม ทางธนาคารกลางได้เปิดเผยมุมมองที่ไม่ค่อยสดใสสำหรับภาคการผลิต แย่ลงกว่ามุมมองในเดือน ต.ค. ซึ่งน่าจะเป็นผลกระทบมาจากปริมาณอุปสงค์ทั่วโลกอ่อนแอลง รวมถึงสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน

คณะกรรมาธิการธนาคารกลางอังกฤษจะมีการตัดสินใจเรื่องนโยบายดอกเบี้ยในการประชุมวันนี้ โดยถูกคาดการณ์ว่าจะยังคงระดับดอกเบี้ยที่ 0.75% ที่คงระดับดังกล่าวมาตั้งแต่ส.ค. ปี 2018 และคาดว่าจะมีมติ 7-2 ที่จะคงดอกเบี้ยไว้ ขณะที่สมาชิกธนาคารกลางอังกฤษ 2 ราย คาดว่าจะโหวตปรับลดดอกเบี้ยมากกว่า

ทั้งนี้ ความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจและตลาดยังคงมีเพิ่มขึ้น จากแผนการออกจากอียูของนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ที่ดูจะเป็นการสนับสนุนโอกาสเห็นธนาคารกลางอังกฤษทำการปรับลดดอกเบี้ยได้ในช่วงสิ้นปีหน้า

ขณะที่คาดการณ์การคงดอกเบี้ยล่าสุดในวันพุธ ดูจะมีโอกาสขึ้นที่ 76% จากระดับ 30% ของวันศุกร์ที่แล้ว


· ธนาคารกลางสวีเดนประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 0% ผิดคาดการณ์ส่วนใหญ่ จากเดิมที่ใช้อัตราดอกเบี้ยในระดับติดลบมานานถึง 5 ปี จึงเป็นการสวนกระแสธนาคารกลางอื่นๆที่หันมาใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน


· ราคาน้ำมันดิบยังคงอยู่ใกล้ระดับสูงสุดรอบ 3 เดือน ซึ่งยังคงปรับตัวได้ต่อจากที่เริ่มปรับขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว ตอบรับบข่าวข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่ช่วยหนุนตลาดทั่วโลก

น้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้น 8 เซนต์ ที่ระดับ 66.25 เหรียญ/บาร์เรล ในขณะที่ น้ำมันดิบ WTI ปรับขึ้น 4 เซนต์ ที่ระดับ 60.97 เหรียญ/บาร์เรล ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง แม้ว่าจะมีการไต่สวนประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็ไม่ได้ส่งผลต่อตลาดน้ำมันดิบ



· WTI Technical Analysis


วิเคราะห์จาก FX Street ระบุว่า ราคาน้ำมัน WTI ยังคงเคลื่อนไหวไปตามเทรนขาขึ้น และอยู่แถวระดับ 60.90 เหรียญ/บาร์เรล ในช่วงสายวันนี้ โดยเป้าหมายในทิศทางขาขึ้นดูเหมือนจะอยู่ที่ระดับ 63.15 เหรียญ/บาร์เรล โดยมีระดับ 62.60 เหรียญ/บาร์เรล ทำหน้าที่เป็นแนวต้านแรก

อย่างไรก็ตาม สัญญาณ Overbought จากเส้น RSI บ่งชี้ถึงแนวโน้มที่ราคาอาจย่อตัว โดยจะมีแนวรับแรกที่ระดับ 60.60 เหรียญ/บาร์เรล หากหลุดลงมาจะมีแนวรับถัดไปที่ระดับ 59.70 เหรียญ/บาร์เรล และ 58.80 – 58.75 เหรียญ/บาร์เรล ตามลำดับ


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com