• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 18 ธันวาคม 2562

    18 ธันวาคม 2562 | SET News

· อ้างอิงจาก J.P. Morgan ระบุว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯมีแนวโน้มจะปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นประวัติการณ์ในปี 2020 ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มฟื้นตัว โดยในปีหน้าอาจเห็นดัชนี S&P500 ปรับขึ้นแตะ 3,400 จุดได้ หรือปรับขึ้น 8% จากระดับปัจจุบัน แม้ว่าประเด็นจาก Trade War อาจเป็นปัจจัยจำกัดได้ในบางช่วง

ขณะที่นักวิเคราะห์ยังมองว่าทิศทางของตลาดหุ้นสหรัฐฯโดยส่วนใหญ่เป็นขาขึ้นโดยน่าจะมีการปรับขึ้นเฉลี่ยแถว 5%


หนึ่งในนักวิเคราะห์ ชี้ว่า วงจรภาคธุรกิจจะเริ่มต้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงต้นปี 2020 และทำให้เทรนตลาดหุ้นสหรัฐฯนั้นเป็นขาขึ้น ขณะที่นักวิเคราะห์บางส่วนคาดหวังว่าจะเห็นการปรับขึ้นได้เกือบทั้งหมด ก่อนเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในช่วง พ.ย. ปีหน้า ซึ่งภาพรวมอาจเห็น S&P500 ปรับขึ้นได้เฉลี่ย 12% และตลอดทั้งปีจะมีอัตราการปรับขึ้นเกือบ 90%

· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้นทำระดับสูงสุดในรอบ 18 เดือน โดยปรับเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 5 วันทำการ ขณะที่ค่าเงินปอนด์อ่อนค่าลงท่ามกลางความไม่แน่นอนในประเด็น Brexit

ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่นเคลื่อนไหวทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. เมื่อปีที่ผ่านมา


สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งได้หนุนดัชนี S&P 500 ปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกัน 4 วันทำการ ภาพรวมรายปีเพิ่มขึ้นได้ 27% ด้านดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 0.19%

· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดปรับตัวลดลง หลังจากข้อมูลการส่งออกลดลงติดต่อกัน 12 เดือน ท่ามกลางสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ส่งผลให้ภาวะความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 4 ขณะที่เหล่านักลงทุนมีการเทขายทำกำไร

โดยดัชนี Nikkei ลดลง 0.55% ที่ระดับ 23,934.43 จุด ด้านภาคอุตสาหกรรมและดูแลสุขภาพปรับลดลง หลังจากที่ปรับตัวสูงขึ้นไปทำจุดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 4 ต.ค.ปี 2018 เมื่อวานนี้

ทั้งนี้ เหล่าเทรดเดอร์ผิดหวัง จากข้อมูลการส่งออกที่ออกมาลดลง จากข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน

ขณะที่เศรษฐกิจที่ดีขึ้นของสหรัฐทำให้เกิดความคาดหวังว่าการส่งออกของญี่ปุ่นจะฟื้นตัวได้ในปีหน้า

· ตลาดหุ้นจีนปิดปรับตัวลดลง หลังจากเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากเหล่านักลงทุนต้องการรายละเอียดที่ชัดเจนเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าเฟสแรกระหว่างสหรัฐฯและจีน

โดยดัชนี Shanghai Composite ลดลง 0.2% ที่ระดับ 3,017.04 จุด หลังจากขึ้นไปแตะระดับสูงุสดเมื่อวานนี้



· ตลาดหุ้นยุโรปเปิดปรับตัวลดลง เนื่องจากเหล่านักลงทุนกลับมากังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนประเด็น Brexit หลังจากที่นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ดูจะสร้างความเป็นไปได้ในกรณี No-Deal โดยอังกฤษมีกำหนดเส้นตายภายในธ.ค. 2020 เพื่อบรรลุข้อตกลงการค้าฉบับใหม่ร่วมกับอียู จึงเปรียบเสมือนการกดดันให้อียูเร่งหาข้อตกลงร่วมกันให้ได้ พร้อมกันนี้ นายจอห์น จะทำการผลักดันร่างกฎหมายไม่ให้ขยายเวลาออกจากอียูเกินสิ้นปี 2020

โดยดัชนี Stoxx600 ลดลง 0.1% ด้านหุ้นกลุ่มทรัพยากรลดลง 0.4% ขณะที่หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น 0.2%

อ้างอิงจากกรุงเทพธุรกิจ

- นายทิตนันท์ มัลลิกะมาส เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แถลงผลการประชุม กนง. ในวันที่ 18 ธันวาคม 2562คณะกรรมการฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 1.25 ต่อปี ในการตัดสินนโยบาย คณะกรรมการฯ ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่า ประมาณการเดิมและต่ำกว่าระดับศักยภาพ จากการส่งออกที่ลดลงซึ่งส่งผลไปสู่การจ้างงานและอุปสงค์ในประเทศ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มต่ำกว่าขอบล่างของกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ ภาวะการเงินโดยรวมยังผ่อนคลาย ซึ่งเป็นผลจากการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายสองครั้งในช่วงที่ผ่านมา ส่วนเสถียรภาพระบบการเงินได้รับ การดูแลไปแล้วบางส่วน แต่ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม คณะกรรมการฯ เห็นว่านโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย มากขึ้นในช่วงที่ผ่านมาจะช่วยสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจและเอื้อให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปกลับสู่ กรอบเป้าหมาย คณะกรรมการฯ จึงเห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในการประชุมครั้งนี้และจะ ประเมินความเสี่ยงต่อระบบเศรษฐกิจในอนาคตเพื่อประกอบการดําเนินนโยบายการเงินที่เหมาะสมในระยะต่อไป

- "ธนาคารแห่งประเทศไทย" หั่น "จีดีพี" ปีนี้เหลือโต 2.5% ปีหน้าโต 2.8% เหตุการส่งออกหดตัวแรงจากพิษสงคราการค้า ขณะที่การลงทุนรัฐและเอกชน ชะลอเกินคาด

คาดว่าการส่งออกสินค้าที่ผ่านมาหดตัวมากกว่าที่ประเมินไว้และมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ช้ากว่าที่คาด ตามปริมาณการค้าโลกที่ อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิชะลอลงจากสภาวะการกีดกันทางการค้า รวมถึงการเปลี่ยน แปลงเชิงโครงสร้างในภาคการผลิตที่มีผลต่อ ความสามารถในการแข่งขันของภาคการส่งออก ทำให้คาดว่าส่งออกปีนี้จะติดลบเพิ่มขึ้นเป็น 3.3%

อ้างอิงจากสำนักข่าว "ข่าวหุ้น"

- คณะกรรรมการกำกับตลาดทุน (ก.ต.ท.) เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการ ก.ต.ท. ครั้งที่ 14/2562 วานนี้มีมติเห็นชอบการแก้ไขหลักเกณฑ์ของบริษัท ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับทองคำ (50 Baht Gold Futures, 10 Baht Gold Futures, Gold-D Futures และ Gold Online Futures) ในช่วงกลางคืน (night session) จากเดิมปิดการซื้อขายเวลา 23.55 น. เป็น 03.00 น. ของวันถัดไป ตามที่ TFEX และ TCH ขอมา โดยการขยายเวลาซื้อขายดังกล่าวจะเริ่มตั้งแต่เมื่อใด ขึ้นอยู่กับแผนงานที่ TFEX จะเป็นผู้กำหนดต่อไป


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com