• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 13 ธันวาคม 2562

    13 ธันวาคม 2562 | Economic News


· ค่าเงินปอนด์แข็งค่าทำระดับสูงสุดในรอบหลายปี หลังพรรคอนุรักษ์นิยมแห่งอังกฤษสามารถครอบครองเสียงข้างมากได้อย่างล้นหลามในผลการเลือกตั้งวันนี้ จึงลดความกังวลเกี่ยวกับภาวะ Brexit ที่อาจยืดเยื้อออกไป

โดยค่าเงินปอนด์แข็งค่ากว่า 2% เมื่อเทียบกับดอลลาร์แถว 1.3516 ดอลลาร์/ปอนด์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของเดือน พ.ค. ปี 2018 ก่อนจะย่อตัวลงเล็กน้อยแถว 1.3469 ดอลลาร์/ปอนด์



ด้านค่าเงินในตลาดเอเชียได้รับแรงหนุนจากรายงานข่าวจากแหล่งข่าววงในที่ว่าสหรัฐฯและจีนตกลงที่จะลดภาษีบางส่วน รวมถึงเลื่อนการขึ้นภาษีวันที่ 15 ธ.ค. ออกไป



โดยค่าเงินหยวนนอกประเทศอ่อนค่าแถว 6.9672 หยวน/ดอลลาร์ หลังจากแข็งค่าได้กว่า 1% เมื่อวานนี้ จากความตึงเครียดในสงครามการค้าที่ผ่อนคลายลง



ด้านค่าเงินเยนอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ 0.28% แถว 109.63 เยน/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับอ่อนค่าที่สุดของวันที่ 13 ส.ค.



ค่าเงินยูโรแข็งค่า 0.35% แถว 1.1171 ดอลลาร์/ยูโร เคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดของวันที่ 13 ส.ค.



ด้านดัชนีดอลลาร์อ่อนค่า 0.59% แถว 96.819 จุด เคลื่อนไหวเข้าใกล้ระดับอ่อนค่าที่สุดของเดือน ก.ค. ปีนี้

· นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ และพรรคอนัรักษ์นิยมของเขา สามารถเอาชนะการเลือกตั้งได้ด้วยเสียงข้างมากที่ล้นหลามถึง 74 ที่นั่ง หากผลลัพธ์เป็นไปตาม Exit Poll ล่าสุด ซึ่งจะช่วยให้เขาสามารถผลักดันนโยบาย Brexit ได้อย่างรื่น และดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้อย่างน้อย 5 ปี

ผู้บริหารของ Eurasia Group มีมุมมองว่า ชัยชนะของนายบอริสครั้งนี้ จะช่วยให้เขาสามารถผลักดัน Brexit และนำอังกฤษออกจากอียูได้ตามกำหนดการในวันที่ 31 ม.ค. และหลังจากนั้นเขาจำเป็นต้องตัดสินใจว่าจะให้อังกฤษรักษาความสัมพันธ์ทางการค้าอันดีร่วมกับยุโรปไว้หรือเปลี่ยนแปลงนโยบาย



นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจาก Berenberg มองว่า หากอังกฤษถอนตัวออกอียูตามกำหนดการในวันที่ 31 ม.ค. 2019 จะช่วยลดความไม่แน่นอนในกรณี Brexit ลงไปได้ระดับหนึ่ง แต่ก็ยังมีความเสี่ยงที่อังกฤษอาจจะไม่สามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าร่วมกับอียูภายหลังจากนั้นได้เช่นกัน

· ทางด้านนายเจเรมี คอร์บลิน หัวหน้าพรรคแรงงานฝ่ายค้าน ประกาศจะสละตำแหน่งผู้นำพรรคและจะไม่ลงเลือกตั้งครั้งต่อไป ภายหลังจากผ่านพ้นการเลือกตั้งเมื่อ ที่เขาระบุว่าเป็น “ค่ำคืนที่น่าผิดหวัง”

· นายหวัง อี้ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศแห่งจีน ระบุว่า สหรัฐฯได้ทำลายความเชื่อมั่นระหว่างสหรัฐฯ-จีนที่ร่วมมือกันสร้างขึ้นมาอย่างยากลำบาก ด้วยการเข้าแทรกแซงปัญหาภายในประเทศของจีน อย่างเรื่องของฮ่องกงและชาวอุยกูร์

· นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวแสดงความยินดีให้กับนายบอริส จอห์นสัน นากยรัฐมนตรีอังกฤษ หลังพรรคอนุรักษ์นิยมสามารถคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งมาได้ พร้อมระบุว่า สหรัฐฯและอังกฤษพร้อมที่จะบรรลุข้อตกลงการค้า “ครั้งใหญ่” ร่วมกันแล้ว

· บรรดานักวิเคราะห์จาก Deutsche Bank มีมุมมองว่า ข้อตกลงภายในรัฐสภาอังกฤษที่จะถอนตัวออกจากอียูตามกำหนดการในวันที่ 31 ม.ค. 2020 น่าจะผ่านการลงมติอย่างเร็วที่สุดภายในช่วงสิ้นปีนี้ และคำถามสำคัญถัดไปคือ นายบอริสจะทำตามสัญญาที่จะลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีภายในวันที่ 31 ธ.ค. 2020 หรือไม่ และความสัมพันธ์ระหว่างอังกฤษกับอียูจะห่างเหินกันยิ่งขึ้นหรือคงความสัมพันธ์เอาไว้ ซึ่งชัยชนะในการเลือกตั้งอย่างล้นหลามของพรรคอนุรักษ์นิยมจะช่วยให้เขามีอิสระในการผลักดันนโยบายต่างๆได้ง่ายดายยิ่งขึ้น

· รายงานจาก BBC ระบุว่า สหรัฐฯและจีนเข้าใกล้การบรรลุข้อตกลงการค้าเข้าไปอีกขั้น หลังมีรายงานว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ลงนามในเงื่อนไขของข้อตกลง และข้อตกลงน่าจะมีประกาศออกมาภายในวันนี้หรือเร็วๆนี้ โดยที่สหรัฐฯตกลงที่จะยกเลิกภาษีบางส่วน ขณะที่จีนตกลงที่เข้าเพิ่มการเข้าซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ



· นักวิเคราะห์จาก Danske Bank แนะนำให้จับตาการประกาศยอด Retail Sales เดือน พ.ย. ของสหรัฐฯ ที่จะประกาศภายในคืนนี้ เนื่องจากอาจเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ตลาดมีการเคลื่อนไหวได้

ขณะที่ปัจจัยหลักที่ยังคงต้องจับตา คือการขึ้นภาษีของสหรัฐฯในวันที่ 15 ธ.ค. ว่าจะถูกเลื่อนออกไปตามที่หลายฝ่ายคาดหวังหรือไม่

· แม้ว่าทางสหรัฐฯจะมีรายงานในเชิงบวกเกี่ยวกับการเข้าใกล้ข้อตกลงทางการค้าร่วมกับจีนไปอีกระดับหนึ่ง แต่ยังคงมีไม่มีรายงานอย่างเป็นทางการออกมาจากประเทศจีน จึงทำให้ตลาดเกิดความสงสัยว่าทั้งสองประเทศจะสามารถบรรลุข้อตกลงได้จริงหรือไม่

· ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นในวันนี้ และทำระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน เนื่องจากสหรัฐฯและจีนใกล้ที่จะบรรลุข้อตกลงทางการค้าที่ยืดเยื้อมานานกว่า 18 เดือน จึงทำให้เกิดคำถามใหญ่เกี่ยวกับอุปสงค์ของน้ำมันดิบทั่วโลกตามมา

น้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้น 47 เซนต์ หรือ 0.7% ที่ระดับ 64.67 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย. ที่ผ่านมา



น้ำมันดิบ WTI ปรับเพิ่มขึ้น 34 เซนต์ หรือ 0.6% ที่ระดับ 59.52 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. ที่ผ่านมา


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com