ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ จะเห็นว่าราคาทองคำได้ปรับลดลงจากระดับสูงสุดที่ 1,556.20 เหรียญ แม้ว่ากราฟรายวันในทางเทคนิคระยะสั้นราคาทองคำจะเคลื่อนไหว Sideways แต่หากดูจากกราฟรายเดือนและรายสัปดาห์ ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นได้นับตั้งแต่ปี 2015 (กราฟรายเดือน)และปี 2018 (กราฟรายสัปดาห์) รวมทั้งปีนี้ราคาทำระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี ภาพรวมระยะยาวจึงยังสามารถมองเห็นเป็นการเคลื่อนไหวในทิศทางขาขึ้น โดยมีแนวรับและแนวต้านสำคัญตามกราฟ

นับตั้งแต่ปี 2015 ราคาทองคำเคลื่อนไหวในแนวโน้มทิศทางขาขึ้น แต่เป็นการเคลื่อนไหวแบบเบาบาง สำหรับกราฟรายเดือนและรายสัปดาห์ภาพรวมของราคาทองคำยังคงอยู่ในทิศทางขาขึ้น
นั่นแสดงให้เห็นว่าแนวโน้มของทองคำในปีใหม่ที่จะมาถึงนั้นมีโอกาสที่จะเคลื่อนไหวในกรอบและมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นได้
เป้าหมายสูงสุดของราคาทองคำอยู่ที่ระดับ 1559.80 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในปีนี้ หากสามารถผ่านระดับดังกล่าวมาได้ ก็จะมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นมาที่ระดับ 1920.70 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในปี 2011 ที่ผ่านมา และมีแนวรับระยะยาวที่ระดับ 1370.00 เหรียญ
ทั้งนี้ จากมุมมองพื้นฐานเหตุผลหลักสำหรับการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในแนวโน้มขาลงและตลาดที่เริ่มอ่อนตัวลงในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ นั่นก็คือ ประเด็นทางการเมืองที่สงบลง สำหรับปีนี้ ปัจจัยที่โดดเด่นที่สุดคงจะหนีไม่พ้นประเด็นสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ซึ่งยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ในปีนี้ แม้ว่าข้อมูลข่าววงในล่าสุดจะเผยว่า สหรัฐฯใกล้บรรลุข้อตกลงเฟสแรกกับจีนแล้วก็ตาม
สำหรับปัจจัยที่ส่งผลต่อตลาดในปี 2020 ที่จะถึงนี้ นั่นคือ การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ รวมถึงความเป็นไปได้อื่นๆ เช่น ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-อิหร่าน ปัญหาทางเศรษฐกิจและการเงินจากหลายประเทศที่ประสบปัญหาเดียวกันในปี
ที่มา: KITCO
