• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 11 ธันวาคม 2562

    11 ธันวาคม 2562 | SET News
  

· ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดปรับตัวลงเล็กน้อย และยังคงเคลื่อนไหวไม่ห่างจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่กำลังรอคอยข่าวเพิ่มเติมว่าสหรัฐฯจะตัดสินใจทำการขึ้นภาษีสินค้าจีนในวันที่ 15 ธ.ค.นี้หรือไม่ โดยดัชนีดาวโจนส์เมื่อคืนนี้ปิด -27.88 จุด หรือ คิดเป็น -0.1% ที่ระดับ 27,881.72 จุด หลังจากที่วันก่อนปิด 105.45 จุด ทางด้านดัชนี S&P500 เมื่อวานนี้ปิด -0.11% ที่ 3,132.52 จุด และ Nasdaq ปิด -0.07% ที่ 8,616.18 จุด

ภาพรวมดัชนี S&P500 ปีนี้ปรับขึ้นมาแล้วประมาณ 25% อันเป็นผลลจากการที่เฟดเดินหน้าปรับลดดอกเบี้ยลงมาแล้วถึง 3 ครั้ง จึงช่วยหนุนผลประกอบการภาคบริษัท และการฟื้นตัวของกลุ่มนักลงทุนต่อข้อตกลงการค้ามากขึ้น

รายงานล่าสุดจาก WSJ ที่ระบุว่า อาจมีการเลื่อนภาษี 15 ธ.ค.นี้ดูจะช่วยหนุนตลาดและทำให้ข้อตกลงทางการค้าขั้นต้นดูมีความเป็นไปได้ในเชิงบวกมากขึ้น และประเด็นนี้อาจทำให้ตลาดกลับทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้

· ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงแม้จะมีรายงานอาจเห็นการเลื่อนภาษี 15 ธ.ค.นี้ เนื่องจากตลาดยังคงมองถึงความไม่แน่นอนและรอคอยผลเลือกตั้งอังกฤษในวันพรุ่งนี้ โดยดัชนี Stoxx 600 ปิด -0.3% ท่ามกลางหุ้นเทเลคอมส์ที่ปิด -0.8%

· ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยท่ามกลางตลาดที่รอคอยการประชุมของเฟดในเรื่องดอกเบี้ย โดยดัชนีนิกเกอิ และ Topix เปิดปรับขึ้นเพียงเล็กน้อย ขณะที่ดัชนี Kospi ปิด -0.15% ทางด้าน S&P/ASX200 ปิดปรับขึ้น 0.3%

· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ระหว่าง 30.25-30.35 บาท/ดอลลาร์ โดยค่าเงินบาทน่าจะเป็นการเคลื่อนไหวตามแรงซื้อแรงขายทั่วไป เพราะภาพใหญ่ตลาดน่าจะยังรอการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯและ จีน เนื่องจากใกล้ถึงกำหนดเส้นตายมาตรการภาษีของสหรัฐที่เรียกเก็บกับสินค้าจีนจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 15 ธ.ค.นี้แล้ว

สำหรับปัจจัยอื่นๆ ที่น่าสนใจสัปดาห์นี้จะมีการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด), การเลือกตั้งอังกฤษ และการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB)

- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด ได้คาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในปี 63 ว่าจะขยายตัวที่ 2.7% โดยมีกรอบประมาณการ 2.5%-3% ซึ่งหวังแรงหนุนจากภาครัฐเป็นตัวขับเคลื่อน บนเงื่อนไขสำคัญ คือรัฐบาลต้องเร่งผลักดันร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี 63 รวมถึงการเบิกจ่ายงบประมาณ

ขณะที่ ภาคการส่งออกปีหน้า คาดว่าจะหดตัวต่อเนื่องมาอยูที่ -1% เนื่องจากตลาดส่งออกหลักยังมีทิศทางชะลอตัว ปัญหา สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนจะยังสามารถบรรลุข้อตกลงได้ในอนาคตอันใกล้ และเงินบาทยังคงมีทิศทางแข็งค่า โดยเฉพาะใน ช่วงไตรมาส 1/63 ที่คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะลดดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติม ซึ่งจะกดดันให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯยังอ่อนค่า และทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่าอยู่ และมีโอกาสที่ค่าเงินบาทในสิ้นปีนี้มีโอกาสหลุด 30 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยปีหน้า มองค่าเงินบาทเฉลี่ย อยู่ที่ 30 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ

- ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ดัชนีดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการ Startup (SSI) ประจำไตรมาส 3 ปี 62 อยู่ที่ระดับ 51.85 สูงกว่าค่ากลางที่ระดับ 50 แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการ Startup ยังมีความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์ทางธุรกิจโดยรวม

- บริษัท ไลน์ คอร์ป ผู้ให้บริการแอปพลิเคชันรับ-ส่งข้อความ ได้เริ่มให้บริการใหม่ในวันนี้ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถโอนเงินไปยังบัญชีธนาคารต่างๆ ผ่านทางแพลตฟอร์การชำระเงินของไลน์บนสมาร์ทโฟน ซึ่งนับเป็นการให้บริการครั้งแรกในญี่ปุ่น ท่ามกลางการแข่งขันด้านการบริการที่สูงมากในขณะนี้

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com