• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 2 ธันวาคม 2562

    2 ธันวาคม 2562 | Economic News



 · ดัชนีดอลลาร์ปิดตลาดคืนวันศุกร์อ่อนค่าลง 0.12% บริเวณ 98.253 จุด ขณะที่ตลาดยังคงจับตาการเจรจาข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน

ดัชนีดอลลาร์ในช่วงต้นตลาดแข็งค่าทำระดับสูงสุดที่ 98.544 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของวันที่ 15 ต.ค. ก่อนที่จะปิดตลาดอ่อนค่าลง เนื่องจากค่าเงินยูโรและค่าเงินปอนด์ที่แข็งค่า สำหรับภาพรวมรายสัปดาห์ ดัชนีดอลลาร์แข็งค่า 0.9% ซึ่งถือว่ามากที่สุดนับตั้งแต่เดือน มิ.ย. ปีนี้

ค่าเงินยูโรแข็งค่า 0.09% หลังข้อมูลเงินเฟ้อของยูโรโซนในเดือน พ.ย. ประกาศออกมาขยายตัวได้ดีกว่าที่คาดไว้ แต่อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยรายปียังคงเคลื่อนไหวในระดับที่ต่ำกว่าคาดการณ์ของอีซีบี

ด้านค่าเงินปอนด์แข็งค่า 0.2% แถว 1.2937 ดอลลาร์/ปอนด์ แต่ในภาพรวมค่อนข้างที่จะทรงตัวแถว 1.29 ดอลลาร์/ปอนด์ โดยตลาดยังคงเฝ้ารอการเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษในวันที่ 12 ธ.ค. ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าค่าเงินน่าจะทรงตัวไปจนถึงวันเลือกตั้

นักวิเคราะห์จาก Klarity FX มีมุมมองว่า ภาพรวมตลาดค่อนข้างเงียบเหงาและเต็มไปด้วยความไม่มั่นใจ นับตั้งแต่การลงนามในร่างกฏหมายสนับสนุนการประท้วงในฮ่องกง และน่าเสียดายที่ดัชนีดอลลาร์ไม่สามารถยืนเหนือระดับ 98.45 จุดได้ เพราะมองว่าหากยืนเหนือได้ จะมีโอกาสแข็งค่าต่อในสัปดาห์นี้


· รายงานหนังสือพิมพ์ Global Times ของประเทศจีน ระบุว่า รัฐบาลจีนยังยืนยันให้สหรัฐฯทำการยกเลิกภาษีที่เคยขึ้นกับประเทศจีนเพื่อแลกกับการลงนามในข้อตกลงเฟสแรก พร้อมระบุว่าการยกเลิกภาษีที่มีกำหนดการไว้ในวันที่ 15 ธ.ค. เพียงอย่างเดียว ไม่ถือว่าสอดคล้องกับข้อเรียกร้องของรัฐบาลจีน

· ผู้ว่าธนาคารกลางจีนยืนยันว่าจะไม่ปรับการดำเนินนโยบายการเงินมาเป็นผ่อนคลาย และจะรักษาการดำเนินนโยบายแบบปกติต่อไป เนื่องจากอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจยังอยู่ระดับเป้าหมาย และอัตราเงินเฟ้อยังไม่ขยับขึ้นมากนัก แม้ธนาคารกลางอื่นๆทั่วโลกจะเริ่มหันมาผ่อนคลายนโยบายการเงินและลดดอกเบี้ยเข้าใกล้ระดับ 0% ก็ตาม

· นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ยืนยันว่า หากพรรคอนุรักษ์นิยมของเขาสามารถครองเสียงข้างมากได้ในการเลือกตั้งวันที่ 12 ธ.ค. รัฐบาลจะผลักดันให้ Brexit เกิดขึ้นอย่างช้าที่สุดในวันที่ 31 ม.ค. ปี 2020 พร้อมระบุว่า ไม่มีเหตุผลที่จะต้องขยายเวลาไปมากกว่านี้แล้ว

· การประท้วงในฮ่องกงยังคงดำเนินต่อไปเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยกลุ่มชุมนุมมีการเดินขบวนไปยังสถานกงสุลของสหรัฐฯในย่านจิมซาจุ่ย (Tsim Sha Tsui) เพื่อแสดง “ความขอบคุณ” สหรัฐฯที่ให้การสนับสนุนประชาธิปไตยในฮ่องกง ขณะที่กองกำลังตำรวจได้ใช้แก๊สน้ำตาเพื่อสลายการชุมนุม


· นักวิเคราะห์จากสถาบัน Lowy Institute มีมุมมองว่า การที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯลงนามในร่างกฏหมายสนับสนุนประชาธิปไตยในฮ่องกง จะทำให้เศรษฐกิจของทั้งสหรัฐฯ จีน และฮ่องกง ได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะในกรณีที่ฮ่องกงสูญเสียความน่าเชื่อถือในฐานะศูนย์กลางทางการการเงินของทวีปเอเชีย

· ราคาน้ำมันปรับลดลงในคืนวันศุกร์ หลังนายกรัฐมนตรีอิรักประกาศลาออกจากตำแหน่ง ท่ามกลางการประท้วงอย่างรุนแรงในประเทศ ซึ่งตลาดมองว่าการลาออกของนายกฯจะทำให้กระแสการผลิตน้ำมันกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง จึงเป็นปัจจัยที่กดดันราคาน้ำมันลง

โดยราคาสัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลงมากกว่า 4% ที่ระดับ 55.17 เหรียญ/บาร์เรล ภาพรวมรายสัปดาห์ลดลงไป 4.1% แต่ภาพรวมรายเดือนปรับสูงขึ้นได้ 2.1%

ขณะที่ราคาสัญญาน้ำมันดิบ Brent ปิดลดลง 1.44 เหรียญ ที่ระดับ 62.43 เหรียญ/บาร์เรล ภาพรวมรายเดือนปรับสูงขึ้นได้ 6% มากที่สุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย. ปีนี้

รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของอิรัก กล่าวว่า กลุ่มโอเปกและพันธมิตรอาจพิจารณาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลงอีก 400,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 1.6 ล้านบาร์เรล/วัน เพื่อสนับสนุนความสมดุลในตลาดน้ำมัน
 
บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com