• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 26 พฤศจิกายน 2562

    26 พฤศจิกายน 2562 | Economic News

· ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าทำระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์เมื่อเทียบกับเงินเยน จากข่าวการเจรจาผ่านทางโทรศัพท์ระหว่างผู้นำการเจรจาของทั้งสหรัฐฯและจีน ขณะที่ค่าเงินหยวนแข็งค่าจากความหวังว่าจะเห็นทั้งสองประเทศร่วมลงนามในข้อตกลงเฟสแรกเร็วๆนี้

โดยค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าทำระดับสูงสุดเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 109.205 เยน/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ ก่อนเริ่มทรงตัวแถว 109.01 เยน/ดอลลาร์ หรือปรับขึ้นมาได้ 0.1% จากช่วงตลาดก่อนหน้า



ขณะที่ค่าเงินหยวนแข็งค่าแถว 7.240 หยวน/ดอลลาร์ หรือปรับขึ้นมาได้ 0.15% จากช่วงตลาดก่อนหน้า



นักวิเคราะห์จาก MUFG Bank เตือนว่า ความคืบหน้าล่าสุดการเจรจาในวันนี้ ไม่ได้หมายความว่าทั้งสองบรรลุข้อตกลงแล้วแต่อย่างใด เพียงแค่ตกลงที่จะดำเนินการเจรจาต่อเท่านั้น ซึ่งนักลงทุนบางส่วนดูเหมือนจะตั้งความหวังไว้สูงเกินไป



นักวิเคราะห์จาก Daiwa Securities มองว่า ค่าเงินดอลลาร์มีแนวโน้มที่จะแข็งค่าไปถึงระดับ 109.50 เยน/ดอลลาร์ หากมีสัญญานเชิงบวกมาจากการเจรจา ส่วนในช่วงสัปดาห์ต่อๆไป ประเด็นสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อตลาดน่าจะวนเวียนอยู่กับเรื่องของการเจรจาเป็นหลัก



ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงแถว 1.1008 ดอลลาร์/ยูโร ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ที่ 1.10035 ดอลลาร์/ยูโร ที่ลงไปเมื่อวาน



ค่าเงินปอนด์เคลื่อนไหวแถว 1.2894 ดอลลาร์/ปอนด์ ท่ามกลางแรงหนุนจากความคาดหวังว่าพรรค Conservatives ของอังกฤษจะชนะการเลือกตั้งในวันที่ 12 ธ.ค. และภาวะยืดเยื้อของรัฐสภาก็จะจบสิ้นลงในที่สุด

· ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวสูงขึ้นใกล้ระดับสูงสุดรอบ 2 สัปดาห์บริเวณ 98.3 จุด โดยที่ดัชนีเคลื่อนไหวผ่านแนวต้าน 98 จุดขึ้นมาได้ แม้ไม่มีความคืบหน้าอะไรใหม่ๆของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนสำหรับข้อตกลงเฟสแรก หรือปัญหาขัดแย้งใดๆพิ่มเติม ขณะที่คืนนี้ Conference Board จะเผย ความเชื่อมั่นผู้บริโภค, ยอดขายบ้านใหม่ รวมทั้ง Trade Balance

นักวิเคราะห์จาก FXStreet กล่าวว่า ตลาดยังคงปราศจากประเด็นข่าวที่ชัดเจน และกลุ่มนักลงทุนมีการปรับสถานะเป็น Wait-and-See เพื่อรอความชัดเจนจากปัจจัยต่างๆของสหรัฐฯ รวมทั้งเฟดตลอดจนการเมืองสหรัฐฯ และการเคลื่อนไหวของดัชนีดอลลาร์บริเวณ 92.28 จุด จะมีแนวรับอยู่ที่ 98.06 จุด (เส้นค่าเฉลี่ย SMA-100วัน) และแนวรับถัดไปอยู่ที่ 97.68 จุด (ต่ำสุดเมื่อ 18 พ.ย.) และแนวรับสุดท้ายที่ 97.58 จุด (เส้นค่าเฉลี่ย SMA-200วัน) ในทางกลับกันหากดัชนี Breakout จากระดับสูงสุดของเดือนท่ี่ทำไว้เมื่อ 13 พ.ย. บริเวณ 98.45 จุด ก็จะเปิดโอกาสให้เราเห็นดัชนีดอลลาร์ปรับขึ้นไปที่สูงสุดเดิมเมื่อวันที่ 8 ต.ค. บริเวณ 99.25 จุดได้ และอาจปรับขึ้นไปทดสอบ 99.67 จุด ซึ่งเป็นสูงสุดเดิมของ 1 ต.ค. ได้

· มูลค่าบิทคอยน์ปรับลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือนที่ 6,558.14 เหรียญ หลังจากรัฐบาลจีนเร่งเดินหน้ากำจัดผู้ให้บริการซื้อขายที่ผิดกฏหมาย ก่อนที่มูลค่าจะฟื้นตัวขึ้นมาเคลื่อนไหวแถว 7,150.79 เหรียญ

ตรงกันข้ามกับการเคลื่อนไหวเมื่อเดือนก่อน ที่มูลค่าบิทคอยน์ปรับสูงขึ้นเหนือระดับ 10,000 เหรียญ หลังจากผู้นำจีนส่งสัญญาณว่าการพัฒนาระบบ Blockchain ในประเทศมีความคืบหน้าที่ดี

· หลังจากที่มีรายงานว่า ผู้นำการเจรจาการค้าของทั้งสหรัฐฯและจีนกำลังมีการเจรจาผ่านทางโทรศัพท์ในช่วงสายวันนี้ เกี่ยวกับปัญหาสำคัญของความขัดแย้งทางการค้า

ล่าสุดรายงานจากกระทรวงพาณิชย์จีน ระบุว่าทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาดังกล่าว พร้อมตกลงที่จะรักษาการติดต่อสื่อสารอย่างใกล้ชิดเพื่อร่วมมือกันแก้ไขปัญหาที่ยังตกค้างอยู่ และเพื่อให้สามารถบรรลุข้อตกลงในเฟสแรกได้

· นักวิเคราะห์จาก FXStreet มองว่า หลังจากที่ นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟดส่งสัญญาณถึงแนวโน้มที่จะคงดอกเบี้ย ก็ดูจส่งผลให้ตลาดมีแรงขายในดอลลาร์มาบ้าง และทำให้ค่าเงินยูโรยุติการอ่อนค่าที่มีมาอย่างต่อเนื่อง 4 วันทำการ

อย่างไรก็ดี การอ่อนตัวของข้อมูลเศรษฐกิจยูโรโซนและประเด็นการค้าก็ดูจะเป็นปัจจัยที่จำกัดการปรับขึ้นของค่าเงินยูโรเมื่อเทียบกับดอลลาร์ในเวลานี้

· กระทรวงการต่างประเทศของจีน ส่งจดหมายเชิญนายเทอร์รี บรานสตัด เอกอัคราชทูตสหรัฐฯ เพื่อประท้วงเกี่ยวกับการผ่านร่างกฎหมายว่าด้วยประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนในฮ่องกงเมื่อวานนี้ โดยระบุว่าร่างกฏหมายเป็นการขัดขวางการเมืองภายในของจีน พร้อมเรียกร้องให้สหรัฐฯแก้ไขในสิ่งที่ทำผิดพลาดและเลิกเข้ามายุ่งเกี่ยวกับปัญหาภายในประเทศ

· รายงานจาก Reuters ระบุว่า นักวิเคราะห์บางส่วนมีมุมมองว่า นอกจากตลาดจะได้รับแรงหนุนจากมุมมองที่ดีต่อโอกาสบรรลุข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนแล้ว ยังมีแรงหนุนจากกระแสคาดการณ์ว่าทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจโลกจะเริ่มกลับมามีกำลังมากขึ้น จากการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิจของธนาคารกลางต่างๆอีกด้วย

สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่ตลาดกำลังเผชิญ คือเรื่องของแนวโน้มที่ผลประกอบการในภาพรวมรายปีมีแนวโน้มจะปรับลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2016 และประเด็นการไต่สวนประธานาธิบดีทรัมป์

· นายสเตฟเฟน โรชจ์ อาจารย์ประจำ Yale University มองว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายที่บรรดาบริษัทสหรัฐฯจะถอนตัวออกจากประเทศจีนและกลับไปตั้งรากฐานในบ้านเกิด เนื่องจากสิ่งใดที่ “ยากที่จะก่อตั้งขึ้น” ก็ย่อมที่จะ “ยากที่จะถูกถอดถอน”

ในทางกลับกัน ทางผู้ประกอบการสหรัฐฯพยายามปรับเปลี่ยนกลยุทธ์มาเป็นการกระจายฐานการผลิตออกสู่ประเทศอื่นๆ นอกเหนือจากประเทศจีน นับตั้งแต่สงครามการค้าเริ่มต้นขึ้นเมื่อปีก่อน

· ราคาน้ำมันดิบในวันนี้ทรงตัว โดยได้รับแรงหนุนจากความหวังว่าสหรัฐฯและจีนสองมหาอำนาจทางเศรษฐกิจจะมีข้อตกลงการค้าได้ในเร็วๆนี้

ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับลดลง 1 เซนต์ ที่ระดับ 63.64 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่เมื่อวานเพิ่ม 0.4%



ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับลดลง 5 เซนต์ ที่ระดับ 57.96 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่เมื่อวานเพิ่มขึ้น 0.4%



กระทรวงพาณิชย์ของจีน เผยการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ผ่านทางโทรศัพท์เมื่อเช้านี้ ว่าทั้งฝ่ายพยายามที่จะทำข้อตกลงการค้าใน “เฟสหนึ่ง” อย่างเต็มที่ หลังจากที่สงครามการค้ายืดเยื้อเป็นเวลากว่า 16 เดือน


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com