• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 8 ตุลาคม 2562

    8 ตุลาคม 2562 | Economic News



· ค่าเงินดอลลาร์เปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ โดยที่ตลาดรอคอยการเจรจาสหรัฐฯและจีนในสัปดาห์นี้ เพื่อดูว่าความยืดเยื้อของ Trade War ระหว่างสหรัฐฯและจีน จะเป็นไปในทิศทางทางใด ท่ามกลางโอกาสในการบรรลุข้อตกลงระหว่างกันที่ยังเป็นไปในระดับต่ำ


ภาพรวมความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงอ่อนตัวลงเมื่อวานนี้ หลังจากที่ทางสำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า เจ้าหน้าที่จีนไม่ยอมรับข้อตกลงเป็นวงกว้างของนายทรัมป์ และผู้แทนเจรจาระดับสูงจะมีการเข้าพบกันในวันพฤหัสบดีและวันฬศุกร์นี้


ดัชนีดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้น 0.17% ที่ระดับ 98.98 จุด


ค่าเงินเยนอ่อนค่าขึ้นมาบริเวณ 107.3 เยน/ดอลลาร์ ในขณะที่ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงมาที่ 1.0971 ดอลลาร์/ยูโร

· เมื่อวานนี้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงความต้องการที่จะเห็ฯเฟดเดินหน้าปรับลดดอกเบี้ยต่อเ เนื่องจากยังคงขาดสัญญาณการขยายตัวของเงินเฟ้อ

· เจ้าหน้าที่ตัวแทนการเจรจาการค้าของจีนประมาณ 30 คน นำโดยนายเหลียว หมิง รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการคลังของจีน ได้เดินทางมายังสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) เมื่อวานนี้เพื่อทำการเจรจาการค้าเป็นเวลา 2 วัน เกี่ยวกับการบังคับถ่ายโอนเทคโนโลยี, การขโมยสิทธิทรัพย์สินทางปัญญา, การตั้งกำแพงการค้าที่ไม่ใช่ภาษี รวมทั้งประเด็นในด้านการเกษตรและภาคบริการ และการบังคับใช้มาตรการต่างๆตามข้อตกลง

ทั้งนี้ การเจรจาของเจ้าหน้าที่การค้าจากทั้งสองฝ่ายเป็นไปอย่างตึงเครียด โดยไม่มีฝ่ายใดส่งสัญญาณการประนีประนอม


อย่างไรก็ดี จะมีการเจรจาระดับสูงของตัวแทนการค้าสหรัฐฯและจีนต่อในวันที่ 10 – 11 ต.ค.นี้ ณ กรุงวอชิงตัน โดยนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน จะเป็นผู้นำคณะเจรจาการค้าของจีน ขณะที่สหรัฐฯจะนำโดย นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ และนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ


· สำนักข่าวรอยเตอร์ส ระบุว่า เจ้าหน้าที่จีนไม่ต้องการทำข้อตกลงการค้าในวงกว้างตามที่นายทรัมป์ต้องการ โดยนายหลิว เหอ กล่าวว่า ข้อเสนอของเขาต่อทางสหรัฐฯจะไม่รวมถึงคำมั่นสัญญาของรัฐบาลจีนในการปฏิรูปนโยบายอุตสาหกรรม หรือการให้เงินอุดหนุนของภาครัฐ

· ผลสำรวจของสมาคมความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ NABE หรือ National Association for Business Economics กล่าวว่า ความเสี่ยงของภาวะถดถอยมีเพิ่มมากขึ้น และดูจะเข้าคุกคามเศรษฐกิจสหรัฐฯ อันเนื่องจากสงครามการค้าจากทีมบริหารของนายทรัมป์ ในลักษณะการกีดกันทางการค้า ที่ดูจะทำให้เกิดความไม่แน่นอนทางการค้าไปทั่ว รวมทั้งฉุดรั้งให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัว และถือเป็นความเสี่ยงขาลงครั้งสำคัญต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ

และสถาบัน NABE ยังคาดว่า จากประเด็นข้างต้นมีโอกาสจะเห็นเฟดคงดอกเบี้ยไปก่อน แต่ผลสำรวจอีก 40% ก็คาดว่าน่าจะเห็นเฟดลดดอกเบี้ยได้อีก 1 ครั้งในปีนี้

· รายงานจาก CNBC ระบุว่า นายทรัมป์ เรียกข้อตกลงทางการค้าครั้งใหม่ของเขากับทางญี่ปุ่นว่าเป็นชัยชนะที่น่าอัศจรรย์สำหรับเกษตรกรสหรัฐฯ แต่นักวิเคราะห์หลายฝ่ายกลับไม่คิดเห็นเช่นนั้น ซึ่งจะเห็นได้ว่า เนย ซึ่งเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ประเภท Daily Products ของสหรัฐฯ ที่ดูจะไม่ได้เข้าถึงตลาดญี่ปุ่นที่มีกลุ่มผู้บริโภคชาวญี่ปุ่น 127 ล้านคน ภายใต้ข้อตกลงใหม่ที่ทางผู้นำสหรัฐฯและญี่ปุ่นร่วมลงนามกันเมื่อ 25 ก.ย.

ในขณะที่ส่วนที่จะเพิ่มขั้นในข้อตกลงครั้งนี้คือประเภท เนื้อวัว, เนื้อสัตว์ และการส่งออกไวน์ เพื่อให้เทียบเทียมคู่แข่งทางข้อตกลง TPP อย่างออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ และแคนาดา ที่ต่างมีกำแพงภาษีในระดับเท่ากัน

· รายงานจากรอยเตอร์ส ระบุว่า สำหรับข้อตกลงการค้าสหรัฐฯ-ญี่ปุ่น ดูจะนำไปสู่การที่ญี่ปุ่นจะลดภาษีสินค้าประเภทเนื้อหมูและเนื้อวัวของสหรัฐฯลงกว่า 2 พันล้านเหรียญ ซึ่งจะเทียบเทียงกับข้อตกลง TPP

· นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทวิตเตอร์ข้อความโดยระบุว่า สหรัฐฯจะทำลายเศรษฐกิจของตุรกี หากทางการตุรกีมีการใช้กำลังทางทหารโจมตีบริเวณตอนเหนือของซีเรียจนเกินขอบเขต

ซึ่งการทวิตเตอร์ข้อความดังกล่าว มีขึ้นหลังจากที่บรรดาแกนนำของแพรรเดโมแครต และรีพับลิกัน รวมทั้งผู้นำจากรัฐสภาออกมาโจมตีนายทรัมป์ ที่มีคำสั่งถอนกำลังทหารสหรัฐฯจากทางตอนเหนือของซีเรีย ก่อนที่กองทัพตุรกีจะโจมตีกองกำลังกำลังชาวเคิร์ดในพื้นที่ดังกล่าว

· รายงานจากรอยเตอร์ส ระบุว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีการกล่าวเตือน นายเทยิปต์ เออโดกัน ประธานาธิบดีตุรกี ว่ากำลังก่อปัญหาใหญ่ หากว่าทำให้สมาชิกภาคธุรกิจด้านบริการของสหรัฐฯที่เป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ซีเรียได้รับผลกระทบจากการคุกคาม

· ข้อมูลค่าใช้จ่ายภาคครัวเรือนของญี่ปุ่นปรับขึ้น 1% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบจากช่วงต้นปี แต่ก็ขยายตัวได้น้อยกว่าที่คาดการณ์ที่ 1.2%

· กลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงยังคงก่อเหตุจลาจลในคืนนี้ เป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน โดยมีการทำลายทรัพย์สินของร้านค้า และปิดกั้นถนน รวมทั้งมีการวางเพลิงสถานีรถไฟใต้ดิน (MTR) หลายแห่ง โดยที่กลุ่มผู้ประท้วงยังคงใส่หน้ากากปิดบังใบหน้า แม้มีการออกกฎหมายห้ามสวมหน้ากากในที่ชุมนุม

ทางด้านตำรวจได้เตือนให้กลุ่มผู้ชุมนุมหยุดการกระทำที่ผิดกฎหมาย และย้ำว่าตำรวจจะรักษากฎหมายอย่างเคร่งครัด และจะมีการนำตัวผู้กระทำความผิดเข้ารับโทษตามกฎหมาย

· ทหารจีนที่ประจำการในฮ่องกงได้ส่งคำเตือนไปยังกลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงเมื่อวานนี้ หลังจากที่มีผู้ยิงแสงเลเซอร์เข้าไปยังค่ายทหารของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (PLA) ในเขตเกาลูน

· ราคาน้ำมันดิบปิดเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ท่ามกลางการเจรจาการค้าสหรัฐฯและจีน โดยน้ำมันดิบ Brent ปิดปรับขึ้น 13 เซนต์ หรือ +0.2% ที่ระดับ 58.5 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ WTI ปิดปรับลง -0.1% ที่ 52.75 เหรียญ/บาร์เรล



บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com