• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 26 กันยายน 2562

    26 กันยายน 2562 | SET News
· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้น และสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เนื่องจากมุมมองเชิงบวกสำหรับการแก้ปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่จางหายไปอย่างรวดเร็ว

ด้านดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 0.1%

โดยตลาดหุ้นเอเชียเริ่มกลับมาสดใสหลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า ข้อตกลงที่จะยุติความยืดเยื้อของสงครามการค้าสหรัฐฯและจีนในรอบกว่า 15 เดือนอาจเกิดขึ้นได้เร็วกว่าที่หลายฝ่ายคาดหวังไว้ ซึ่งจีนกำลังมีการเพิ่มกำลังการเข้าซื้อสินค้าเกษตรสหรัฐฯครั้งใหญ่ อันรวมไปถึงเนื้อวัวและเนื้อหมูด้วย

อย่างไรก็ดี มุมมองในเชิงบวกเริ่มจางลงและหุ้นจีนร่วงลง 0.35% เนื่องจากนายทรัมป์มีข้อความซ้ำ ๆ เกี่ยวกับการเจรจาการค้าส่งผลให้นักลงทุนลดความสนใจลง ขณะที่ราคาตั๋วเงินคลังและทองคำปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณว่านักลงทุนบางส่วนต้องการสินทรัพย์ที่ปลอดภัยเนื่องจากความเสี่ยงที่เกิดจากสงครามการค้าและความไม่แน่นอนทางการเมือง

· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมา เนื่องจากเหล่านักลงทุนให้ความสนใจไปยังถ้อยแถลงเมื่อวานนี้ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า ข้อตกลงที่จะยุติความยืดเยื้อของสงครามการค้าสหรัฐฯและจีนในรอบกว่า 15 เดือนอาจเกิดขึ้นได้เร็วกว่าที่หลายฝ่ายคาดหวังไว้

โดยดัชนี Nikkei เพิ่มขึ้น 0.1% ที่ระดับ 22,048.24 จุด ขณะที่ดัชนี Topix เพิ่มขึ้น 1.0% ที่ระดับ 1,635.88 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรายวันนับตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมา

· ตลาดหุ้นจีนปิดแดนลบท่ามกลางสัญญาณผสมผสานจากการเจรจาข้อตกลงการค้าระหว่งาสหรัฐฯ-จีน ทำให้ตลาดเกิดความไม่แน่ใจว่าจะมีความคืบหน้าในการเจรจาระดับสูงที่จะจัดขึ้นช่วงต้นเดือน ต.ค. หรือไม่

โดยดัชนี blue-chip CSI300 ปิด -0.8% ที่ระดับ 3,841.14 จุด ขณะที่ดัชนีShanghai Composite ปิด -0.9% ที่ระดับ 2,929.09 จุด 


· ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย ท่ามกลางความหวังที่ว่าสหรัฐฯและจีนอาจจะสามารถแก้ไขปัญหาการค้าที่ยืดเยื้อได้

โดยดัชนี Stoxx600 เพิ่มขึ้น 0.4% ด้านหุ้นเทคโนโลยีเพิ่มขึ้น 1% ขณะที่หุ้นภาคธนาคารลดลง 0.4% ท่ามกลางตลาดหุ้นภูมิภาคที่เคลื่อนไหวในแดนบวก

ทั้งนี้ เหล่าเทรดเดอร์ให้ความสนใจไปยังถ้อยแถลงของนายทรัมป์ ที่กล่าวว่า ข้อตกลงที่จะยุติความยืดเยื้อของสงครามการค้าสหรัฐฯและจีนในรอบกว่า 15 เดือนอาจเกิดขึ้นได้เร็วกว่าที่หลายฝ่ายคาดหวังไว้

· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง กล่าวถึงกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มองว่ามาตรการชิมช็อปใช้ อาจไม่ได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปีได้มากนักว่า มาตรการดังกล่าวยังเพิ่งเริ่มต้น ดังนั้นต้องรอประเมินผลที่จะมีต่อเศรษฐกิจไทยในปีนี้ก่อนว่าจะออกมาอย่างไร ทั้งนี้ ยอมรับว่าเศรษฐกิจโลกในขณะนี้มีปัญหา ส่งผลกระทบต่อหลายประเทศและหลายกลุ่มอุตสาหกรรม โดยเฉพาะภาคการส่งออก ซึ่งขณะนี้หน่วยงานที่รับผิดชอบกำลังเร่งดำเนินการแก้ไข

อย่างไรก็ดี รมว.คลัง มองว่ายังไม่มีความจำเป็นที่รัฐบาลจะต้องออกชุดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยขณะนี้ กระทรวงการคลังได้มีการประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจในภาพรวมทุกสัปดาห์ ถ้ามีความจำเป็นจริงๆ จึงจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com