• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 26 กันยายน 2562

    26 กันยายน 2562 | Economic News


· ดัชนีดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นมาแตะ 99.037 จุด จากแถว 98.7 จุดวานนี้ ในขณะที่ค่าเงินเยนอ่อนค่าขึ้นแตะ 107.69 เยน/ดอลลาร์ จากแถวระดับ 107.5 จุด

· เมื่อวานนี้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าว่า ข้อตกลงที่จะยุติความยืดเยื้อของสงครามการค้าสหรัฐฯและจีนในรอบกว่า 15 เดือนอาจเกิดขึ้นได้เร็วกว่าที่หลายฝ่ายคาดหวังไว้ ซึ่งจีนกำลังมีการเพิ่มกำลังการเข้าซื้อสินค้าเกษตรสหรัฐฯครั้งใหญ่ อันรวมไปถึงเนื้อวัวและเนื้อหมูด้วย

ทั้งนี้ ถ้อยแถลงของนายทรัมป์ เกิดขึ้นหลังจากที่ทำข้อตกลงจำกัดการค้ากับผู้นำญี่ปุ่นสำหรับ และถือเป็นโอกาสดีที่มองว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงกับทางจีนได้

· นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ร่วมลงนามข้อจำกัดทางการค้า ที่จะนำมาสู่การปรับลดภาษีสำหรับสินค้าเกษตรของสหรัฐฯ, เครื่องจักรญี่ปุ่น และสินค้าอื่นๆ รวมทั้งเพื่อหลีกเลี่ยงภัยคุกคามจากการขึ้นภาษีรถยนต์สหรัฐฯ

นอกจากนี้ นายทรัมป์ เผยว่าข้อตกลงดังกล่าวจะเปิดกว้างต่อตลาดญี่ปุ่นให้มีมูลค่าสูงขึ้นที่ 7 พันล้านเหรียญของสินค้าสหรัฐฯรายปี ซึ่งทางญี่ปุ่นเองก็จะมีการปรับลดภาษีสินค้าสหรัฐฯ ประเภท เนื้อวัว เนื้อหมู และชีส

· สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯลงมติด้วยคะแนน 421 ต่อ 0 เสียง ให้นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ส่งมอบเอกสารลับที่เกี่ยวข้องกับการพูดคุยกับผู้นำยูเครนแก่สภาคองเกรส ซึ่งเอกสารดังกล่าวเกี่ยวข้องกับไต่สวนนายทรัมป์กรณีต้องสงสัยว่า พยายามเสาะหาความช่วยเหลือจากต่างชาติ เพื่อกดดันคู่แข่งทางการเมือง

เอกสารลับที่สรุปการเจรจาระหว่างนายทรัมป์และผู้นำยูเครน อาจเป็นชนวนสร้างความตึงเครียดทางการเมืองภายในยูเครน เนื่องจากทางพรรคเดโมแครตของสหรัฐฯอาจต้องการให้สหรัฐฯยกเลิกการสนับสนุนแก่ยูเครน และอาจรวมไปถึงการสร้างความไม่พอใจให้กับฝรั่งเศสและเยอรมนี เนื่องจากผู้นำยูเครนมีการกล่าววิพากษ์วิจารณ์ไว้ในเอกสาร

· นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เตือน กระบวนการไต่สวน อาจทำให้สหรัฐฯเสียโอกาสในการลงนามข้อตกลงทางการค้าร่วมกับเม็กซิโกและแคนาดา และจะทำให้ค่าเงินเปโซของเม็กซิโกอ่อนค่าลง และนักลงทุนเลี่ยงการถือครองสินทรัพย์เสี่ยง

ทั้งนี้ นายทรัมป์ได้อ้างถึงนายโรเบิร์ต ไรท์ไฮเซอร์ ตัวแทนการค้าแห่งสหรัฐฯ ที่เชื่อมั่นว่าข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯ-แคนาดา-เม็กซิโก เป็นข้อตกลงที่ดีมาก และจะได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา แต่พวกเดโมแครตอาจทำลายความมุ่งมั่นดังกล่าวลงได้

· นายเจมส์ บุลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ แสดงความคิดเห็นต่อกรณีไต่สวนนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยไม่คิดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินนโยบายใดๆของเฟด เพราะถึงแม้การดำเนินนโยบายการเงินของเฟดจะพิจารณาจากความไม่แน่นอนทางการเมืองที่เกิดขึ้นร่วมด้วย แต่เหตุการณ์นี้ก็ไม่ได้สร้างความรู้สึกแตกต่างอะไรให้แก่เขา

· นายโรเบิร์ต เคพแลนด์ ประธานเฟดสาขาดัลลัส กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ยุคที่เปราะบาง แต่โอกาสที่เศรษฐกิจสหรัฐฯจะเข้าสู่สภาวะถดถอยนั้นก็ยังอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ โดยจะเห็นได้ว่าภาคการอุปโภคบริโภคก็ยังแข็งแกร่ง ควบคู่กับภาคครัวเรือนที่ได้รับอานิสงส์จากอัตราว่างงานในระดับต่ำ


· นายชาร์ล อีวานส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโก กล่าวสนับสนุนการปรับลดดอกเบี้ยของเฟดจำนวน 2 ครั้งในปีนี้ พร้อมระบุว่า ณ ขณะนี้เฟดดำเนินการได้อย่างเหมาะสมต่อการพิจารณาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ และดูเหมือนการปรับลดดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นทั้ง 2 ครั้งจะใช้ได้ผลที่จะเห็นเงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมาย 2% และป้องกันเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะขาลง


อย่างไรก็ดี ถ้อยแถลงของสมาชิกเฟดก็ยังไม่ชัดเจนว่าจะมีการเกิดการปรับลดดอกเบี้ยอีกหนึ่งครั้งในปีนี้หรือไม่ หลังจากที่เฟดได้ปรับลดดอกเบี้ยไปแล้วจำนวน 2 ครั้งในปีนี้

· รายงานจากสำนักข่าวรอยเตอร์ส ระบุว่า นางคริสตาลินา จอร์เจียวา นักเศรษฐศาสตร์ชาวบัลแกเรีย ยืนยันที่จะมารับตำแหน่งผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟคนต่อไป ซึ่งถือเป็นตัวแทนผู้นำจากประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่เป็นคนแรกที่ได้รับตำแหน่งผู้นำไอเอ็มเอฟเป็นระยะเวลา 5 ปี เริ่ม 1 ต.ค.นี้

· นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ มีการท้าทายบรรดา ส.ส. ในรัฐสภาหลังจากที่รัฐสภาอังกฤษกลับมาดำเนินงานเมื่อวานนี้ โดยท้าทายว่า หากไม่สามารถผลักดันให้เกิดการลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาลเพื่อล้มรัฐบาลของเขาได้ ก็ขอให้หลีกทางไป เพื่อให้รัฐบาลสามารถดำเนินนโยบาย Brexit ต่อไปได้

· รายงานจากสถาบัน Ifo ระบุว่า คาดการณ์ยอดส่งอออกของเยอรมนีในเดือนก.ย.นี้จะออกมาแตะระดับต่ำสุดตั้งแต่ปี 2009 อันเป็นผลจากอุปสงค์จากต่างประเทศ และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับ Brexit ที่ดูจะฉุดให้เศรษฐกิจเยอรมนีเข้าสู่ภาวะถดถอย

· รายงาน Beige Book ของจีน สะท้อนให้เห็นถึงภาวะเศรษฐกิจจีนที่มีท่าทีชะลอตัวลงในไตรมาสที่ 3 จากระดับหนี้สินที่สูงขึ้น ประกอบกับข้อมูลเศรษฐกิจหลายอย่างออกมาอย่างน่าผิดหวัง ไม่ว่าจะเป็นกำไร ผลประกอบการ ผลผลิต ยอดขาย และการเติบโตในภาคแรงงาน รวมทั้งอุปสงค์และข้อมูลส่งออกด้วย

· ผลสำรวจจากธนาคารกลางเกาหลีใต้หรือ BOK คาดว่าข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภคหรือเงินเฟ้อเกาหลีใต้จะทำระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริงก็มีโอกาสจะเห็นธนาคารกลางเกาหลีปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนต.ค.

คาดการณ์ค่ากลางของเงินเฟ้อในช่วง 12 เดือน ปรับลดลงมาที่ระดับ 1.8% ในเดือนก.ย. จากเดิมที่ระดับ 2.0% ในเดือนส.ค. ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่มีการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวเป็นครั้งแรกในเดือนก.พ. ปี 2002

· ราคาน้ำมันดิบปิดปรับตัวลงกว่า 1% โดยเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 หลังจากที่เมื่อคืนนี้ข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯออกมาสูงขึ้นกว่าที่คาดประกอบกับซาอุดิอาระเบียมีการฟื้นฟูกำลังการผลิตน้ำมันได้เร็วกว่าที่คาด

นอกจากนี้ การแข็งค่าของดอลลาร์ก็ดูจะเป็นอีกปัจจัยที่เข้ากดดันสัญญาน้ำมันดิบด้วยเช่นกัน หลังจากที่กลุ่มผู้นำเดโมแครตมีการเริ่มกระบวนการไต่สวนนายทรัมป์อย่างเป็นทางการ


น้ำมันดิบ Brent ปิดปรับลง 71 เซนต์ หรือ -1.1% ที่ระดับ 62.39 เหรียญ/บาร์เรล ในขณะที่น้ำมันดิบ WTI ปิดปรับลง 80 เซนต์ หรือ -1.4% ที่ระดับ 56.49 เหรียญ/บาร์เรล


· รายงานจาก EIA เผยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯพุ่งขึ้นเกินคาด 2.4 ล้านบาร์เรล จากที่กลุ่มนักวิเคราะห์คาดหวังว่าจะเห็นข้อมูลออกมาลดลง 249,000 บาร์เรล


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com