• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 25 กันยายน 2562

    25 กันยายน 2562 | Economic News


· ค่าเงินดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลงจากจำนวนส.ส.พรรคเดโมแครตที่เพิ่มขึ้นต่อการร่วมสนับสนุนถอดถอน นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯออกจากตำแหน่ง ประกอบกับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ออกมาแย่เมื่อวานนี้อันเป็นผลจากความกังวลของสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน



ทั้งนี้ นายทรัมป์ ออกมายอมรับว่าเขามีการระงับเงินช่วยเหลือแก่ยูเครนจำนวน 400 ล้านเหรียญ แต่ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่หาว่ากดดันประธานาธิบดียูเครน เพื่อให้ทำการไต่สวน นายโจ ไบเดน คู่แข่งคนสำคัญที่ลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯสมัยหน้าของเขา



ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลงประมาณ 0.28% ขณะที่ค่าเงินเยนกลับแข็งค่าขึ้นมาประมาณ 0.48%



อย่างไรก็ดี ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่ากลับลงมาทรงตัวที่ 98.388 จุด จากแถว 98.70 จุดเมื่อวานนี้ ในขณะที่ค่าเงินเยนแข็งค่าลงมาบริเวณ 107.1 เยน/ดอลลาร์

· สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯประกาศเริ่มมาตรการไต่สวนไม่ไว้วางใจนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ ภายใต้ข้อกล่าวหาว่านายทรัมป์พยายามเสาะหาความช่วยเหลือจากต่างชาติในการกดดันคู่แข่งทางการเมืองของเขา ซึ่งอาจส่งผลให้นายทรัมป์ถูกปลดออกจากตำแหน่งได้ หรือส่งผลกระทบกับทิศทางการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2020 ได้



โดยนายแนนซี เพโลซี ได้ประกาศกระบวนการไต่สวนหลังจากที่เธอได้หารือกับบรรดาสมาชิกพรรคเดโมแครต และอ้างว่าการกระทำของนายทรัมป์ เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศและผิดหลักรัฐธรรมนูญ



ข้อกล่าวหานายทรัมป์ เกิดขึ้นหลังจากที่มีรายงานว่า นายทรัมป์ได้ติดต่อกับนายโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน เมื่อวันที่ 25 ก.ค. เพื่อขอให้สืบสวนประวัติการทำงานของนายโจ ไบเดน ตัวเต็งเลือกตั้งประธานาธิบดีของพรรคเดโมแครต ที่เคยทำงานให้กับบริษัทขุดเจาะน้ำมัน รวมไปถึงประวัติของนายฮันเตอร์ ไบเดน ลูกชายของเขา



ทางฝั่งรีพับลิกัน หลังการประกาศมาตรการไต่สวน นายเควิน แม็คคาร์ธี หัวหน้าพรรครีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้ประกาศว่าจะไม่ให้การสนับสนุนมาตรการไต่สวนเป็นอันขาด

· ศาลสูงสุดแห่งอังกฤษประกาศว่า การแขวนสภาของนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ให้กลับมาทำงานร่วมกันอีกครั้งเพียงไม่กี่วันก่อนถึงเดดไลน์ Brexit นั้น ผิดกฎหมาย ขณะที่นายบอริส แม้จะยืนยันว่าเขาจะเคารพการตัดสินใจของศาลสูงสุด แต่ยังคงยืนกรานว่าอังกฤษจะถอนตัวออกจากอียูตามกำหนดการเดิมในวันที่ 31 ต.ค. ไม่ว่าจะหาข้อตกลงได้หรือไม่ก็ตาม



ทั้งนี้ ศาลสูงสุดได้ประกาศให้การแขวนสภาถือเป็นโมฆะ ดังนั้นทางสภาอังกฤษทั้งสภาล่างและสภาสูงจะกลับมาทำงานร่วมกันอีกครั้งภายในวันนี้

· รายงานการประชุมของบีโอเจเมื่อวันที่ 29 – 30 ก.ค. ที่ผ่านมา ระบุว่า บรรดาคณะกรรมการมีการพูดคุยกันเกี่ยวกับการตอบสนองต่อปัจจัยเสี่ยงทางเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อ โดยมีคณะกรรม 1 ท่านแสดงความคิดเห็นว่า การที่เฟดและอีซีบีหันมาผ่อนคลายนโยบาย มีความเสี่ยงที่จะกดดันการเติบโตของอัตราเงินเฟ้อญี่ปุ่น โดยเฉพาะจากการแลกเปลี่ยนค่าเงิน ดังนั้นทางบีโอเจจึงควรมีการตอบสนองต่อความเสี่ยงดังกล่าว

· ราคาน้ำมันดิบปิดปรับตัวลงกว่า 2% ไปทำต่ำสุดตั้งแต่ 14 ก.ย. หลังจากที่ถ้อยแถลงของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงสะท้อนถึงความขัดแย้งทางการค้ากับจีน และดูเหมือนสภาวะ Trade War จะเข้าคุกคามอุปสงค์ภาคพลังงาน



น้ำมันดิบ Brent ปิดปรับลง 1.67 เหรียญ หรือคิดเป็น -2.6% ที่ระดับ 63.10 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ปิดปรับลง 1.35 เหรียญ หรือ -2.3% ที่ระดับ 57.29 เหรียญ/บาร์เรล


· ในการประชุม U.N. นั้น นายทรัมป์ ยังคงตำหนิกับการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่ยุติธรรมของจีน ประกอบไปด้วยกำแพงภาษีในตลาดตล่างๆ, การแทรกแซงค่าเงิน และการขโมยทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งเป็นการแสดงความคิดเห็นก่อนหน้าที่จะเกิดการเจรจาทางการค้ากับสหรัฐฯในอีกไม่กี่วันข้างหน้า



อย่างไรก็ดี นายทรัมป์ ได้ทิ้งท้ายว่า ยังคาดหวังจะสามารถหาข้อตกลงฉบับสมบูรณ์กับจีนได้ ซึ่งเป็นข้อตกลงที่ให้ประโยชน์แก่ทั้งสองประเทศ แต่เขาก็ยืนกรานว่าจะไม่ยอมรับข้อตกลงใดๆที่ออกมาเป็น Bad Deal

· นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวหาว่า อิหร่านเป็นพวก “กระหายเลือด” พร้อมเรียกร้องให้บรรดาผู้นำประเทศร่วมมือกันกดดันอิหร่าน จากกรณีที่อิหร่านโจมตีโรงกลั่นน้ำมันของซาอุดิอาระเบีย แต่นายทรัมป์ยังเชื่อว่า ยังมีหนทางสำหรับสันติภาพร่วมกับอิหร่าน



ทั้งนี้ ทางผู้นำของฝรั่งเศสและอังกฤษได้พยายามกดดันผู้นำอิหร่านให้พิจารณาจัดการประชุมร่วมกับนายทรัมป์ โดยนายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส กล่าวว่า หากไม่ดำเนินการเช่นนั้น อิหร่านจะเป็นฝ่ายเสียผลประโยชน์ ขณะที่นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ แนะนำให้ผู้นำอิหร่านเชื่อมั่นและลงมือทำ



อย่างไรก็ตาม ทางนายฮัสซัน โรฮานี ประธานาธิบดีอิหร่าน ยังคงยืนกรานที่จะไม่กลับมาประชุมร่วมกับสหรัฐฯ เว้นเสียแต่ สหรัฐฯกลับเข้าร่วมสนธิสัญญานิวเคลียร์ปี 2015 ที่นายทรัมป์ได้ประกาศถอนตัวออกมาเมื่อปีที่แล้ว รวมถึงผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรที่สหรัฐฯกำลังใช้กับอิหร่าน


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com