• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 24 กันยายน 2562

    24 กันยายน 2562 | Economic News


· ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโร หลังจากที่ภาคการผลิตและภาคบริการออกมาอ่อนแอและตอกย้ำถึงความกังวลต่อภาวะการเติบโตของเศรษฐกิจยูโรโซน


ผลสำรวจสะท้อนว่า การขยายตัวของภาคธุรกิจในยูโรโซนดูจะไม่ค่อยสดใสนัก อันได้รับผลกระทบจากการหดตัวของกิจกรรมทางธุรกิจในเยอรมนี ท่ามกลางภาคการผลิตที่ชะลอตัวเกินคาด โดยผลสำรวจจากสถาบัน HIS Markit เผยว่า ข้อมูล PMI ของยูโรโซนหดตัวลงแตะ 50.4 จุดในเดือนก.ย. จาก 51.9 ในเดือนส.ค. และทำให้ค่าเงินยูโรปิดร่วงลง 0.25% ที่ระดับ 1.0989 ดอลลาร์/ยูโร


นายมาริโอ ดรากี้ ประธานอีซีบี เมื่อวานนี้ กล่าวว่า เศรษฐกิจยูโรโซนไม่ได้มีสัญญาณใดๆถึงการปรับตัวขึ้น ขณะเดียวกันก็มีสัญญาณขาลงในภาคการผลิตที่ดูจะสร้างความเสี่ยงให้แก่เศรษฐกิจในช่วงที่เหลืออีกด้วย


ดัชนีดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้น 0.16% ที่ระดับ 98.67 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่ 12 ก.ย.


ค่าเงินปอนด์อ่อนค่าลง 0.43% และปิดทำต่ำสุดรอบ 1 สัปดาห์ ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่รอคอยความคืบหน้าถึงการเจรจา Brexit และรอว่าคำวินิจฉัยจากศาลฎีกาว่า นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษทูลความเท็จต่อควีนเอลิซาเบธหรือไม่สำหรับเหตุผลในการปิดสภาในเดือนนี้



· นายมาริโอ ดรากี้ ประธานอีซีบี กล่าวว่า เศรษฐกิจยูโรโซนกำลังเผชิญกับแรงกดดันที่มากกว่าที่เคยคาดไว้เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา การประกาศผ่อนคลายนโยบายของอีซีบีที่เพิ่งประกาศในการประชุมเดือนนี้ จึงถือว่าเหมาะสมแล้ว ขณะที่ประเด็นความไม่แน่นอนทางการเมือง เป็นปัจจัยที่กดดันให้ทางธนาคารไม่สามารถบรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อได้ แม้อัตราว่างงานของยูโรโซนจะอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบทศวรรษก็ตาม


ถ้อยแถลงของนายดรากี้ เกิดขึ้นหลังการประกาศข้อมูลภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีที่ออกมาลดลงมากกว่าที่คาด จึงยิ่งตอกย้ำถึงทิศทางที่เศรษฐกิจยูโรโซนกำลังชะลอตัวลง


การกล่าวรายงานต่อคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจของอียูเมื่อคืนที่ผ่านมา ถือเป็นครั้งสุดท้ายในฐานะประธานอีซีบีของนายดรากี ก่อนที่เขาจะลงตำแหน่งในช่วงปลายเดือน ต.ค.

· เมื่อวานนี้นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีการตั้งคำถามต่อตัวแทนเจรจาการค้าระดับสูงของสหรัฐฯ ในกรณีที่ทางการจีนเลื่อนแผนการชมพื้นที่เกษตรของสหรัฐฯหลังจากที่ร่วมเจรจาการค้ากันในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยที่เขาต้องการให้จีนเข้าซื้อสินค้าเกษตรของสหรัฐฯเพิ่มมากขึ้น ขณะที่นายมนูชิน ตอบว่า การเลื่อนการเยี่ยมชมตามคำขอของทีมบริหารสหรัฐฯมีขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงความสับสนในช่วงระหว่างการเจรจา ส่วนกรณีความต้องการของนายทรัมป์นั้น นายมนูชิน ระบุว่าพวกเราต่างก็ต้องการให้จีนเข้าซื้อสินค้าเกษตรเพิ่ม และพวกเขาก็ให้คำมั่นที่จะดำเนินการดังกล่าว รวมทั้งกำลังดำเนินการด้วย

นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า อาจมีการกลับมาเจรจาการค้ากับรองนายกรัฐมนตรีจีนใหม่อีกครั้งในสัปดาห์หน้าที่กรุงวอชิงตัน ร่วมด้วยนายโรเบิร์ต ไลท์ไธเซอร์ ตัวแทนเจรจาการค้าสหรัฐฯ

· รายงานจากรอยเตอร์ส ระบุว่า จีนมีการนำเข้าถั่วเหลืองสหรัฐฯผ่านเรือบรรทุกสินค้า 10 ลำ หลังเสร็จสิ้นการเจรจาระดับ Deputy Level ในสัปดาห์ที่แล้ว ท่ามกลางภาวะความกังวลหลังทางการจีนยกเลิกการเดินทางเยือนฟาร์มเกษตรของสหรัฐฯ

อย่างไรก็ดี รายงานจาก Pacific Northwest Export ระบุว่า มีข้อตกลงการขนส่งสินค้าเกษตรดังกล่าวประมาณ 600,000 ตันทางเรือในช่วงเดือนต.ค. - ธ.ค. ขณะที่ข่าวการนำเข้าถั่วเหลืองที่เพิ่มขึ้นล่าสุดได้ส่งผลต่อสัญญาซื้อขายถั่วเหลืองสหรัฐฯในตลาด Chicago Board of Trade ให้ดีดตัวขึ้นไป 1.5% และมีการเข้าซื้อด้วยวอลลุมซื้อขายที่มากที่สุดตั้งแต่ 12 ก.ย.

· นายเจมส์ บุลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวว่า การที่สหรัฐฯจะมีความขัดแย้งทางการค้าร่วมกับจีนมากขึ้นนั้นเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากทางจีนไม่สามารถดำเนินการตามสัญญาที่ให้ไว้เมื่อคราวที่จีนเข้าร่วมองค์การการค้าโลก (WTO)

โดยสัญญาดังกล่าวคือ 1) การที่จีนให้สัญญาจะดำเนินการตามกฏระเบียบของ WTO ไม่ใช่แค่ตามกฏที่บัญญัติไว้ แต่รวมถึงจิตวิญญาณของ WTO และ 2) การที่จีนจะค่อยๆเปลี่ยนแปลงการปกครองไปสู่รูปแบบของประชาธิปไตย ซึ่งทั้ง 2 อย่างนี้ นายบุลลาร์ดยังคงไม่เห็นว่าจะเกิดขึ้นแต่อย่างใด

· นางคริสติน ลาการ์ด ว่าที่ประธานอีซีบีคนใหม่ กล่าวว่า ปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนถือเป็นภัยร้ายครั้งใหญ่ที่เข้าคุกคามการเติบโตทางเศรษฐกิจโลก

ทั้งนี้ นางลาการ์ด ได้รับตำแหน่งผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟตั้งแต่ปี 2011 และกำลังจะมาดำรงตำแหน่งแทนนายมาริโอ ดรากี้ ในวันที่ 1 พ.ย.นี้ โดยเธอมีความเห็นว่า การเก็บภาษีระหว่างกันของสหรัฐฯและจีนดูจะส่งผลให้เศรษฐกิจโลกในปี 2020 จะสูญเสียการขยายตัวลงไปมากถึง 0.8% ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างสูง ประกอบกับจะส่งผลให้การจ้างงานลดน้อยลง รวมทั้งกระทบต่อภาคธุรกิจ ภาคการลงทุน และสร้างความไม่แน่นอนไปทั่ว จึงถือเป็นภัยร้ายต่อเศรษฐกิจโลก

· ความพยายามหาข้อสรุปข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ-ญี่ปุ่นหยุดชะงักลงในช่วงนาทีสุดท้าย เนื่องจากไม่สามารถตกลงกันเกี่ยวกับการรับรองว่าทีมบริหารของประธานาธิบดีสหรัฐฯจะไม่ขึ้นภาษีรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ที่ผลิตขึ้นในญี่ปุ่น

ทั้งนี้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ถูกคาดการณ์ว่า ทั้งสองจะมีการร่วมลงนามในข้อตกลงการค้าภายในสัปดาห์นี้ ณ การประชุม U.N. ที่จะจัดขึ้นในกรุงนิวยอร์กของสหรัฐฯ โดยข้อตกลงการค้าดังกล่าวจะมาช่วยให้ญี่ปุ่นเข้าถึงสินค้าการเกษตรของสหรัฐฯมากขึ้นรวมถึงปรับลดภาษีสินค้าอุตสาหกรรมของแต่ละฝ่าย

· นายเจเรมี คอร์บลิน หัวหน้าพรรค Labour ฝ่ายค้านในรัฐสภาอังกฤษ ได้รับเสียงสนับสนุนอย่างเป็นเอกฉันท์จากภายในพรรค เกี่ยวกับนโยบาย Brexit ของเขาที่จะผลักดันให้อังกฤษคงอยู่ในอียูต่อไป

อย่างไรก็ตาม การที่นายคอร์บลินจะสามารถผลักดันนโยบาย Brexit ได้นั้น จำเป็นต้องเอาชนะการเลือกตั้งให้ได้ก่อน ซึ่ง ณ ปัจจุบัน ยังไม่มีความชัดเจนว่าทิศทางการเมืองของอังกฤษจะเป็นเช่นไร

· นายไมเคิล บาร์เนีย ตัวแทนการเจรจา Brexit จากอียู มีความเห็นว่า โอกาสหาข้อตกลง Brexit ร่วมกับอังกฤษได้นั้นเป็นไปได้ยาก หากนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ยังคงเรียกร้องให้อียูยกเลิกข้อเรียกร้องเกี่ยวกับชายแดนของไอร์แลนด์เหนือ

ทั้งนี้ ความหวังที่จะเห็นข้อตกลง Brexit เริ่มสดใสขึ้น หลังจากนายฌอง คล็อด จุงเกอร์ ประธานคณะกรรมการอียู กล่าวว่า ข้อตกลงดังกล่าวมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น แต่ล่าสุด ความหวังดังกล่าวเริ่มหม่นหมองลงอีกครั้ง หลังนายบาร์เนียยืนยันว่าทางอียูไม่สนับสนุนให้ยกเลิกนโยบายชายแดนของไอร์แลนด์ เพื่อป้องกันไม่ให้การควบคุมชายแดนไอร์แลนด์กลับไปสู่รูปแบบคุมเข้มอีกครั้ง

· อังกฤษ, เยอรมนี และฝรั่งเศส เข้าร่วมสนับสนุนสหรัฐฯ พร้อมตำหนิอิหร่านที่ทำการโจมตีโรงกลั่นน้ำมันสำคัญของซาอุดิอาระเบีย พร้อมเรียกร้องให้ซาอุดิอาระเบียเห็นพ้องต่อการเจรจาชาติมหาอำนาจรอบใหม่เกี่ยวกับเรื่องโครงการอาวุธนิวเคลียร์, มิสไซน์ และความมั่งคงในภูมิภาค

· น้ำมันดิบปิดปรับตัวขึ้นประมาณ 1% หลังจากที่มีสภาวะการซื้อขายที่ผันผวนในตลาด ท่ามกลางเหล่าเทรดเดอร์ที่จับตาว่าซาอุดิอาระเบียจะสามารถฟื้นฟูกำลังการผลิตได้อย่างเต็มรูปแบบหรือไม่หลังจากที่โดนโจมตีโรงกลั่นน้ำมันสำคัญของประเทศไปเมื่อวันที่ 14 ก.ย. ที่ผ่านมา

น้ำมันดิบ Brent ปิดปรับขึ้น 49 เซนต์ หรือ +0.8% ที่ 64.77 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ปิดปรับขึ้น 55 เซนต์ หรือ +1% ที่ระดับ 58.64 เหรียญ/บาร์เรล

· นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และผู้นำเกาหลีใต้เข้าร่วมประชุมกันที่กรุงนิวยอร์กเมื่อวานนี้ เพื่อหารือถึงแผนที่จะกลับมาเริ่มต้นเจรจากันอีกครั้งระหว่างสหรัฐฯและเกาหลีเหนือ หลังจากที่การเจรจากับทางเกาหลีเหนือหยุดชะงักไปหลังจากที่การพบกันระหว่างผู้นำสหรัฐฯและเกาหลีเหนือยังคงล้มเหลวในการประชุมเมื่อเดือนก.พ. ขณะที่เกาหลีเหนือนั้นยังคงมีท่าทีแสดงความตั้งใจที่จะกลับมาเจรจากับสหรัฐฯในเดือนก.ย. แต่ก็ยังไม่มีการกำหนดวันและสถานที่ใดๆ


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com