• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 12 กันยายน 2562

    12 กันยายน 2562 | SET News


· ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดปรับตัวสูงขึ้น นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมที่ค่อนข้างอ่อนไหวต่อการขึ้นภาษีสินค้า จากภาวะ Trade War ระหว่างสหรัฐฯและจีน หลังจากที่จีนมีการงดเว้นการเก็บภาษีกลุ่มสินค้าหมวดน้ำมันมะกอกและอื่นๆ ก่อนการเจรจาที่จะเกิดขึ้นในเดือนหน้า


ดัชนี S&P500 ปิดเหนือ 3,000 จุดเป็นครั้งแรกตั้งแต่ 30 ก.ค. โดยปิด +0.72% ที่ระดับ 3,000.93 จุด ขณะที่ดาวโจนส์ปิด +227.61 จุด หรือ +0.85% ที่ระดับ 27,134.04 จุด และดัชนี Nasdaq ปิด +85.52 จุด หรือ +1.06% ที่ 8,169.68 จุด


· ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวสูงขึ้นท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่มองหาสัญญาณจากการประชุมบรรดาธนาคารกลางต่างๆ โดยจีนมีการส่งสัญญาณผ่อนคลายความตึงเครียด Trade War กับสหรัฐฯลงไปบางส่วน จึงเห็นดัชนี Stoxx600 ปิด +0.77% ท่ามกลางหุ้นทรัพยากรที่ปิด +1% ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานและยานยนต์ปิดแดนลบ

· ตลาดหุ้นเอเชียเปิดแดนบวกท่ามกลางความคืบหน้าของ Trade War ในแนวโน้มที่ดีขึ้น ขณะที่ตลาดคาดหวังว่าจะเห็นมาตรการผ่อนคลายทางการเงินจากอีซีบีด้วยการประกาศตัดสินใจปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมวันนี้

ดัชนีนิกเกอิเปิด +0.86% ขณะที่ Topix เปิด +0.55% ทางด้านดัชนี S&P/ASX200 เปิด +0.57% และดัชนี MSCI ที่ไม่รวมญี่ปุ่นเปิด +0.23%


นอกจากนี้ ยังมีถ้อยแถลงล่าสุดของนายทรัมป์ ในเช้าวันนี้ที่จะมีการเลื่อนเก็บภาษีสินค้าจีนมูลค่า 2.5 แสนล้านเหรียญจากวันที่ 1 ต.ค. เป็น 15 ต.ค. แทน ตามข้อเรียกร้องของนายหลิว เฮ่อ รองนายกรัฐมนตรี และเนื่องในโอกาสที่จีนจะฉลองวันชาติครบ 70 ปี


อย่างไรก็ดี การตัดสินใจของนายทรัมป์ มีขึ้นหลังจากที่รัฐบาลจีนประกาศงดเว้นการเก็บสินค้าสหรัฐฯ 16 ประเภทเป็นเวลา 1 ปี เริ่มตั้งแต่ 17 ก.ย. ก่อนเจรจาแบบเผชิญหน้ากันอีกครั้งในช่วงต้นเดือนหน้า



· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- นักบริหารเงิน คาดว่ากรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในวันนี้ระหว่าง 30.55-30.65 บาท/ดอลลาร์ ส่วนเมื่อวานนี้ เงินบาทแข็งค่าน่าจะมาจากตลาดคลายกังวลสงครามการค้าหลังจีนเปิดเผยรายการสินค้าของสหรัฐที่จะได้รับการยกเว้นการเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเติม ซึ่งเป็นเหมือนการส่งสัญญาณเชิงบวกว่าปัญหาสงครามการค้าน่าจะคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้นและส่งผลต่อค่าเงินสกุลตลาดเกิดใหม่ อย่างไรก็ตามยังต้องรอลุ้นผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB)

- ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวลดลงจากเกณฑ์ร้อนแรงมาอยู่ในเกณฑ์ทรงตัว (Neutral) โดยผลสำรวจพบว่าความขัดแย้งทางการค้าระหว่างประเทศเป็นปัจจัยฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด ขณะที่นักลงทุนคาดหวังการผ่อนคลายนโยบายทางการเงินของธนาคารสหรัฐ เป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นนักลงทุน

นักลงทุนมีความกังวลสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศที่ทวีความรุนแรงขึ้นจากการประกาศตอบโต้เพิ่มอัตราภาษีทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนเป็นปัจจัยฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด รองลงมาคือความกังวลผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน และภาวะเศรษฐกิจในประเทศจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว เป็นปัจจัยที่นักลงทุนจับตามอง

สำหรับปัจจัยทางเศรษฐกิจโลกที่ต้องติดตามได้แก่ นโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ ธนาคารกลางของกลุ่มประเทศอียู ที่มีแนวโน้มผ่อนคลายทางการเงินรวมถึงมาตรการ QE จากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ทิศทางการเจรจาทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ แนวโน้ม Brexit ที่มีกำหนดเส้นตายในวันที่ 31 ต.ค.62 เป็นปัจจัยที่นักลงทุนจับตามอง


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com