• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 6 กันยายน 2562

    6 กันยายน 2562 | SET News
 
· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้นตามการเพิ่มขึ้นของเทรนด์ทั่วโลก เนื่องจากนักลงทุนได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่แข็งแกร่ง จากความหวังเกี่ยวกับการที่สหรัฐฯและจีนมีการพูดคุยกันทางโทรศัพท์ในช่วงเช้าวานนี้และเห็นพ้องกันที่จะจัดประชุมร่วมกันในการหาทางแก้ไขปัญหาทางการค้าในช่วงต้นเดือนต.ค.นี้ ซึ่งถึงทั้ง 2 ประเทศจะมีการยืนยันการร่วมจัดประชุมกันแต่ก็ไม่ได้ยืนยันว่าจะมีการประชุมในเดือนต.ค. เมื่อใด

อย่างไรก็ดี ความต้องการด้านสินทรัพย์เสี่ยงที่เพิ่ีมขึ้นจึงช่วยลดความต้องการด้านสินทรัพย์ปลอดภัยลง อย่างเช่น พันธบัตรรัฐบาลและค่าเงินเยน

ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 0.4% สำหรับภาพรวมรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 2.2% ซึ่งเป็นระดับดีที่สุดนับตั้งแต่กลางเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา

· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดใหม่ในรอบ 1 เดือน เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาดีกว่าที่คาด รวมทั้งข่าวจากความหวังต่อการเจรจาแก้ไขปัญหาทางการค้าของสหรัฐฯและจีนที่ดูจะกลับมาช่วยหนุนการเพิ่มขึ้นของสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก

โดยดัชนี Nikkei เพิ่มขึ้น 0.54% ที่ระดับ 21,199.57 จุด ซึ่งแตะระดับสูงสุดใหม่นับตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. สำหรับภาพรวมรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 2.4% มากที่สุดนับในรอบ 5 เดือน

เทรดเดอร์ที่ Japanese asset manager ระบุว่า แม้ว่าจะมีมุมมองที่ดีขึ้นจากข่าวดังกล่าว แต่ฉันคิดว่าเหล่านักลงทุนมีมุมมองเชิงบวกอย่างเต็มที่ หากดัชนีNikkei สามารถเคลื่อนไหวเหนือระดับเส้นค่าเฉลี่ยราย 200 วันได้ในสัปดาห์หน้า ก็จะมีแนวโน้มที่จะเกิดแรงเข้าซื้อตามมา

· ตลาดหุ้นจีนปรับตัวสูงขึ้น โดยภาพรวมรายสัปดาห์เป็นสัปดาห์ที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ปลายเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากรัฐบาลให้คำมั่นว่าจะช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจ ขณะที่ประเด็นการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนได้เบาบางลงไป

โดยดัชนี Shanghai Composite เพิ่มขึ้น 0.5% ที่ะรดับ 2,999.60 จุด

· ตลาดหุ้นยุโรปเคลื่อนไหวผสมผสาน ท่ามกลางเหล่านักลงทุนที่ให้ความสนใจไปยังประเด็นความไม่แน่นอน Brexit และรอคอยการประกาศข้อมูลทางเศรษฐกิจที่สำคัญในคืนวันนี้

โดยดัชนี Stoxx600 ทรงตัว ท่ามกลางตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่ที่เคลื่อนไหวในแดนบวก

ขณะที่ตลาดให้ความสำคัญไปที่การเจรจาทางการค้าหลังจากที่สหรัฐฯและจีนตกลงที่จะจัดการเจรจาในต้นเดือนต.ค.นี้

สำนักข่าวอินโฟเควสท์

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 30.5650 บาท/ดอลลาร์

-นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างเคลื่อนไหวในแดนบวก เช่นเดียวกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์สที่ปรับตัวขึ้น เนื่องจากช่วงนี้ไม่มีปัจจัยลบ ขณะเดียวกันก็ต้องรอลุ้นผลประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในสัปดาห์หน้า โดยจับตานโยบายการเงินจะส่งสัญญาณในทางไหน และรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯในคืนนี้

- ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ศูนย์ฯประเมินอัตราการขยายตัวทาง

เศรษฐกิจไทยในปี 62 อยู่ในระดับ 3-3.2% จากเดิมที่ประเมินขยายตัวเพียง 2.6% เนื่องจากอานิสงส์มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของ

รัฐบาลและมาตรการซ่อมสร้างผลกระทบจากน้าท่วม โดยอยู่บนข้อสมมุติฐานจากเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจในปีนี้อยู่ในระดับ 100,000-

150,000 ล้านบาท เนื่องจากเงินทั้งสองมาตรการจะลงสู่ระบบได้อย่างรวดเร็วโดยเฉพาะภาคการใช้จ่ายการก่อสร้าง การจ้างงาน และ

การบริโภค

- นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยในงาน"อนาคตเศรษฐกิจไทย เรากำหนดได้" จัดโดยสมาคม

เศรษฐศาสตร์ธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมาว่า ในการประชุมครม.เศรษฐกิจ วันที่ 6 ก.ย.นี้ ที่ประชุมจะหารือเกี่ยวกับ

มาตรการส่งเสริมการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เบื้องต้นแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ การจัดเตรียมสิทธิ

พิเศษเพื่อจูงใจนักลงทุนที่ต้องการย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทย ซึ่งทางบีโอไอจะไปหาช่องทางดึงนักลงทุนมาเป็นรายกลุ่มที่ประเทศ

ไทยต้องการ เช่น กลุ่มดิจิทัล และเทคโนโลยี ส่วนอีกกลุ่มเป็นมาตรการพิเศษเพื่อส่งเสริมให้มีการตั้งสถาบันพัฒนาบุคลากรรองรับ

อุตสาหกรรมไฮเทคด้านต่างๆ ส่วนมาตรการทางด้านการส่งเสริมการส่งออกนั้น กระทรวงพาณิชย์จะนำเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาอีกครั้ง

- รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้ประกาศหลักเกณฑ์การกำกับดูแลสถาบันการเงิน

เฉพาะกิจ 8 แห่ง รวม 30 ฉบับ เริ่มมีผลตั้งแต่ 1 ต.ค. 62 เป็นต้นไป โดยสาระสำคัญเรื่องแรกเป็นบทบาทหน้าที่คณะกรรมการและผู้

บริหารต้องมีธรรมาภิบาล ความเป็นธรรมและความโปร่งใส ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ระมัดระวังรักษาผลประโยชน์ของ

สถาบันการเงินเฉพาะกิจ ไม่แสวงหาประโยชน์ส่วนตน ไม่เลือกปฏิบัติ ไม่เล่นพวกเล่นพ้อง และไม่เข้าไปมีส่วนร่วมหรือมีส่วนเกี่ยวข้องใน

การตัดสินใจในธุรกรรมหรือกิจการใด ๆ ที่ตนเองมีส่วนได้ส่วนเสียไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com