MTS Help Center

โดยดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้น 0.6%

ขณะที่ความคาดหวังว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรทั่วโลกจะยังคงอยู่ในระดับต่ำอีกต่อไป ท่ามกลางธนาคารกลางต่างผ่อนคลายนโยบายมากขึ้นจึงช่วยหนุนความต้องการทางสินทรัพย์เสี่ยง

· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเคลื่อนไหวผันผวน ด้านดัชนี Topix ปรับตัวลดลง หลังจากข้อมูลทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่อ่อนแอส่งผลกระทบต่อความกังวลเกี่ยวกับภาวะถดถอยของเศรษฐกิจโลกและกดดันความเชื่อมั่นของเหล่านักลงทุน

โดยดัชนี Nikkei เพิ่มขึ้นเล็กน้อยประมาณ 0.12% ที่ระดับ 20,649.14 จุด ด้านดัชนี Topix ลดลง 0.26% ที่ระดับ 1,506.81 จุด

สถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) เผยข้อมูลดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ หรือ PMIภาคการผลิตที่ออกมาแย่ลงอย่างมากแตะระดับ 49.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี ขณะเดียวกันการร่วงลงต่ำกว่า 50% ถือเป็นสัญญาณหดตัว และข้อมูลดังกล่าวในช่วงประกาศออกมาได้กดดันให้ดาวโจนส์ดิ่งลงมากกว่า 300 จุด

หัวหน้าเจ้าหน้าที่การลงทุนประจำ Libra Investments ระบุว่า ข้อมูล ISM ของสหรัฐฯที่อ่อนแอแสดงให้เห็นว่าภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจมีความเป็นไปได้สูง ขณะที่นักลงทุนทั่วโลกกำลังเตรียมตัวรับมือกับภาวะดังกล่าว

ด้านหุ้นวัฏจักรถูกกดดันเนื่องจากผลิตภัณฑ์โลหะ เหล็ก และเหล็กกล้าอยู่ในกลุ่มที่มีผลการดำเนินงานที่แย่ที่สุด

· หุ้นฮ่องกงพุ่ง 4% หลังมีรายงานว่าร่างกฏหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนอาจถูกยกเลิกอย่างเป็นทางการ

ดัชนี Hang Seng ปรับขึ้นมากกว่า 4% ในช่วงบ่ายวันนี้ หลังมีรายงานว่ารัฐบาลอาจพิจารณายกเลิกร่างกฏหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนซึ่งเป็นต้นเหตุของการชุมนุมประท้วง

โดยนางแครี ลาม ผู้นำรัฐบาลฮ่องกง มีกำหนดจะกล่าวถ้อยแถลงเกี่ยวกับร่างกฏหมายดังกล่าว อย่างเป็นทางการภายวันนี้

· ล่าสุด ดัชนี Hang Seng ปิด +3.9% ที่ระดับ 26,523.23 จุด โดยเผชิญแรงเทขายลงมาเล็กน้อย หลังจากที่ปรับขึ้นมาได้มากกว่า 4% จากข่าวที่ร่างกฏหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนจะถูกยกเลิก

· ตลาดหุ้นจีนปรับตัวสูงขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากข้อมูลภาคบริการของจีนที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง รวมทั้งได้รับแรงหนุนจากฮ่องกงหลังมีรายงานว่ารัฐบาลอาจพิจารณายกเลิกร่างกฏหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนซึ่งเป็นต้นเหตุของการชุมนุมประท้วง

โดยดัชนี Shanghai Composite เพิ่มขึ้น 0.9% ที่ระดับ 2,957.41 จุด

โดยดัชนี Stoxx600 เพิ่มขึ้น 1% ด้านภาคค้าปลีกและภาคธนาคารเพิ่มขึ้น 1.7% เนื่องจากตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก

สำนักข่าวอินโฟเควสท์

- เช้านี้เงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้น จากที่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง เป็นผลจากตัวเลข PMI ออกมาไม่ค่อยดี ในขณะที่ทิศทางเงิน

บาทวันนี้คาดว่าจะยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบ แต่มีแนวโน้มแข็งค่าเช่นเดียวกับสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.55-30.65 บาท/ดอลลาร์

อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 30.6610 บาท/ดอลลาร์

- กรมบัญชีกลางเร่งหน่วยงานราชการเบิกจ่ายงบปี'62 ไฟเขียวก่อหนี้ผูกพันได้ มั่นใจใช้ตามออเดอร์ ครม.เกือบ 100% พบ

งบประจำเบิกแล้ว 93% งบลงทุนแค่ 60% สั่งเตรียมพร้อมใช้งบปี'63 มั่นใจจัดทำล่าช้าไม่ส่งผล เบิกได้ทันตามกรอบเวลา

- สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า สศก.ปรับประมาณการทั้งปีของผลิตภัณฑ์มวลรวมภาคเกษตร (จีดีพี

ภาคเกษตร) เหลือ 2-2.3% จากเดิม 3.0-3.5% และเติบโตน้อยกว่าปีก่อนที่ 4.6% สาเหตุจากสถานการณ์ภัยแล้ง และน้ำท่วมในภาค

เหนือ ภาคอีสาน ส่งผลให้พื้นที่ทางการเกษตรเสียหาย

- นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) เปิดเผยว่า หลังจากที่มีความชัดเจนว่าจะมีการประชุมนัดพิเศษเพื่อเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ เพื่อซักถามข้อเท็จจริงและเสนอแนะปัญหากรณีการถวายสัตย์ปฏิญาณตนและการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในวันที่ 18 ก.ย.กำหนดเวลาเบื้องต้น 09.30-24.00 น.นั้น ได้เตรียมหารือกับตัวแทนวิปรัฐบาล เพื่อซักซ้อมและทำความเข้าใจต่อเวลาและหลักเกณฑ์การอภิปรายตามญัตติ

- นายสมคิด กล่าวต้อนรับคณะนักธุรกิจและสื่อมวลชนตุรกี และเห็นว่าการเดินทางเยือนไทยในครั้งนี้ เป็นโอกาสที่ดีในการรับทราบนโยบายด้านเศรษฐกิจและการลงทุนของไทย ตลอดจนยุทธศาสตร์ของรัฐบาลในโครงการเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และโครงการการลงทุนขนาดใหญ่ของไทย ซึ่งหวังว่าจะมีการลงทุนจากตุรกีในไทยเพิ่มมากขึ้นอีกในอนาคต