· ค่าเงินยูโรปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดรอบ 2 สัปดาห์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ผันผวนจากระดับสูงสุดเมื่อไม่นานมานี้ หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวลงและเข้ากดดันดอลลาร์ ท่ามกลางตลาดการเงินที่ปิดทำการในวัน Independence Day ของสหรัฐฯ
ค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้นมาที่ 1.1286 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากที่ช่วงต้นอ่อนค่าไปรับข่าวการที่ นางคริสติน ลาร์การ์ด ผอ.ไอเอ็มเอฟ จะมานั่งเก้าอี้ประธานอีซีบีคนต่อไป ที่มีแนวโน้มจะดำเนินนโยบายแบบผ่อนปรนทางการเงิน ทางด้านดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลงมาแถว 96.734 จุด
· ภาพรวมตลาดให้ความสนใจไปยังข้อมูลจ้างงานสหรัฐฯคืนนี้ ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากระดับ 75,000 ตำแหน่ง มาเป็นประมาณ 160,000 ตำแหน่ง
· รายงานจาก CNBC ระบุว่า ทางเวียดนามและอียู มีการลงนามข้อตกลงการค้าเสรีร่วมกัน โดยเป็นข้อตกลงที่มีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เคยลงนามกับประเทศกำลังพัฒนา ที่มีการเจรจายาวนานกว่า 3 ปี 6 เดือน
รายละเอียดของข้อตกลงฉบับดังกล่าว จะยกเลิกการตั้งกำแพงภาษี 99% ที่มีต่อสินค้าประเภทต่างๆจากเวียดนาม แต่จะมีสินค้าบางประเภทที่จะทยอยลดกำแพงภาษีในกรอบระยะเวลา 10 ปี เช่นเดียวกับสินค้าด้านการเกษตรที่จะมีการกำหนดการยกเว้นภาษีแบบโควตา
อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงฉบับนี้จะต้องได้รับการรับรองจากสภายุโรป ซึ่งมีกระแสทักท้วงจากสมาชิกสภายุโรปบางส่วน ที่แสดงความกังวลต่อปัญหาสิทธิมนุษยชนในเวียดนาม ขณะเดียวกันเมื่อไม่นานมานี้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯก็มีการส่งสัญญาณถึงการที่เวียดนามอาจเป็นเป้าหมายต่อไปที่จะถูกขึ้นกำแพงภาษี เนื่องจากมีบริษัทสหรัฐฯมากมายย้ายไปเวียดนาม แต่เวียดนามกลับฉวยโอกาสเอาเปรียบสหรัฐฯยิ่งกว่าที่จีนเคยทำ ดังนั้นข้อตกลงฉบับใหม่ของเวียดนามกับทางอียูก็ดูจะกลายเป็นเครื่องกันกระแทกทางเศรษฐกิจอีกประการหนึ่งได้
· รายงานจาก Reuters ระบุว่า ราคาน้ำมันปิดปรับตัวลงตอบรับกับข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบและความกังวลเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจโลก โดยน้ำมันดิบBrent ปิดปรับลง 63.23 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ปิดปรับลง 56.69 เหรียญ/บาร์เรล