MTS Help Center

บริษัทสหรัฐฯแนวหน้ากว่า 300 บริษัท นำโดย Best Buy, HP ,และ Hallmark Cards พากันส่งตัวแทนขึ้นร้องเรียนต่อสำนักงานตัวแทนการค้าแห่งสหรัฐฯ โดยบริษัทเหล่านี้ต่างมีการร้องเรียนไปในทิศทางเดียวกัน คือการที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ข่มขู่จะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน จะสร้างผลกระทบในทางลบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ มากกว่าที่จะเป็นผลดี

ทั้งนี้ บรรดาบริษัทสหรัฐฯต่างคาดหวังกันว่า การพบกันระหว่างนายทรัมป์ และนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ในที่ประชุม G20 ปลายสัปดาห์นี้ ทั้งสองฝ่ายจะสามารถมีข้อตกลงร่วมกันบางอย่างได้



สำหรับคำร้องเรียนของบริษัทสหรัฐฯ ที่หยิบยกมาเป็นตัวอย่าง มีดังต่อไปนี้ :



ผู้บริหารฝ่ายจัดการสินค้า ของ Best Buy

“สินค้ากลุ่มอุปกรณ์อิเล็คโทรนิคสำหรับผู้บริโภค ไม่ได้เป็นสินค้าโภคภันฑ์ และในกลุ่มสินค้าชั้นนำทั้งหลาย เราไม่สามารถหาวัตถุดิบมาทดแทนนอกเหนือจากแหล่งผลิตในประเทศจีนในระยะสั้นๆได้”

“หากทำการขึ้นภาษีจีน หุ้นของอุตสาหกรรมในสหรัฐฯจะพ่ายแพ้ให้กับคู่แข่งจากต่างประเทศที่ไม่ได้มีฐานการผลิตอยู่ประเทศจีน จึงไม่ได้รับผลกระทบจากต้นทุนที่จะสูงขึ้นจากภาษี”



รองประธานและผู้จัดการทั่วไปจาก HP Inc.

“แม้ว่าทางบริษัทฯจะประสบปัญหาการแข่งขันด้าน IP ในประเทศจีน แต่ทางบริษัทฯไม่เชื่อว่าการขึ้นภาษีเป็นการตอบโต้ที่เหมาะสมเท่าไหร่นัก.... นอกจากนี้ ทางบริษัทฯยังกังวลว่า การขึ้นภาษีอาจไม่สามารถจะช่วยแก้ไขปัญหาการละเมิดลิขสิทธ์ หรือเลวร้ายยิ่งกว่านั้น อาจเป็นการช่วยกระตุ้นให้การละเมิดลิขสิทธ์ขยายตัวมากขึ้นก็เป็นได้

“การขึ้นภาษีจะทำให้ราคาสินค้าสำหรับผู้บริโภคของ HP สูงขึ้นเมื่อเทียบกับสินค้าละเมิดลิขสิทธ์ และก็จะไม่สามารถช่วยกีดกันสินค้าละเมิดลิขสิทธ์เหล่านั้นอาจจากตลาดสหรัฐฯได้ หากพูดอย่างตรงไปตรงมา สำหรับอุตสาหกรรมเครื่องพิมพ์แล้ว การขึ้นภาษีเป็นการทำร้ายผู้บริโภคและเจ้าของลิขสิทธ์อย่าง HP มากกว่าที่จะทำร้ายพวกที่ละเมิดลิขสิทธ์เสียอีก”



ผู้จัดการฝ่ายกิจการภาครัฐจาก Hallmark Cards

“สินค้าบางตัวไม่สามารถผลิตขึ้นในสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็นเพราะปัญหาด้านมูลค่าการผลิตหรือความสามารถในการผลิตก็ตาม และสินค้าเหล่านั้นมีแหล่งผลิตหลักอยู่ในประเทศจีน การเปลี่ยนแปลง supply chain ให้ออกจากประเทศจีนโดยสมบูรณ์จำเป็นต้องใช้เวลา และผลกระทบเบื้องต้นจากการขึ้นภาษี จะเห็นได้อย่างชัดเจนต่อเศรษฐกิจภายในประเทศ”



ที่มา : CNBC