· ค่าเงินยูโรทรงตัวในช่วงต้นตลาดยุโรป หลังผลการเลือกตั้งรัฐสภาอียูมีแนวโน้มที่จะกลายเป็นรัฐสภาที่มีความแตกแยกมากกว่าเดิม โดยพรรคฝ่ายกลางสามารถครองที่นั่งไปได้ 2 ใน 3 จากทั้งหมด จึงจำกัดการเพิ่มขึ้นของพรรคประชานิยมไปบางส่วน
โดยค่าเงินยูโรทรงตัวแถวระดับ 1.1211 ดอลลาร์/ยูโร ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ครึ่ง หลังจากเมื่อวันพฤหัสบดีสัปดาห์ก่อน ลงไปทำระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีที่ 1.11055 ดอลลาร์/ยูโร
ทั้งนี้ ตลาดมีการเคลื่อนไหวที่เบาบางเนื่องจากเป็นวันหยุดของตลาดลอนดอน และตลาดนิวยอร์ก จึงจำกัดการเคลื่อนไหวของค่าเงิน
นักวิเคราะห์จาก MUFG Bank ระบุว่า ในภาพรวมดูเหมือนว่าพรรคฝ่ายสนับสนุนอียูจะยังเป็นฝ่ายมีเสียงข้างมากในบางประเทศ แต่เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของพรรคฝ่ายที่ต่อต้านอียู จึงทำให้ไม่สามารถครองเสียงข้างมากได้อย่างเด็ดขาด ทั้งนี้ ตลาดน่าจะกลับไปให้ความสนใจกับประเด็นสงครามการค้า หลังผ่านการเลือกตั้งของรัฐสภาอียูไป
· ด้านค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับเงินเยนปรับสูงขึ้น 0.15% บริเวณ 109.45 เยน/ดอลลาร์ ท่ามกลางแรงเข้าซื้อเพื่อกำไรในค่าเงินเยน แต่ภาพรวมยังเคลื่อนไหวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือนที่ 109.02 เยน/ดอลลาร์ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน
นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์ยังคงถูกจำกัดเมื่อเทียบกับเงินเยน เนื่องจากการเดินทางเยือนญี่ปุ่นของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีการกดดันญี่ปุ่นให้ลดยอดเกินดุลการค้าร่วมกับสหรัฐฯ
· FXStreet สรุปความคิดเห็นว่า การที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯชะลอตัวก็ดูเหมือนจะสร้างโอกาสให้ค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1.1230 และ 1.1300 ดอลลาร์ได้
· นักวิเคราะห์จาก FXStreet ระบุว่า ค่าเงินเยนมีการปรับอ่อนค่าขึ้นปานกลางในตลาดเอเชียวันนี้ ท่ามกลางรายงานที่ว่า พรรคที่สนับสนุนอียูมีคะแนนเสียงเพิ่มขึ้นในศึกการเลือกตั้งรัฐสภาอียูครั้งล่าสุด
ค่าเงินเยนระดับวันยังมีทิศทางเป็นอ่อนค่าอยู่ และในทางเทคนิคมีโอกาสกลับขึ้นได้แม้จะมีบางช่วงผันผวนในทิศทางแข็งค่า ซึ่งภาพรวมก็ยังดูมีความเสี่ยงที่จะเห็นค่าเงินเยนแข็งค่าได้ต่อ โดยภาพระยะสั้นและกราฟราย 4 ชั่วโมง ยังสะท้อนถึงภาวะแข็งค่าได้มากกว่า ซึ่งสัญญาณทางเทคนิคชี้ถึงโอกาสที่จะเห็นราคาระยะสั้นปรับลงมาเข้าใกล้เขต Oversold จึงอาจเห็นค่าเงินเยนทดสอบระดับ 109 เยน/ดอลลาร์อีกครั้ง ตราบเท่าที่ค่าเงินเยนยังเคลื่อนไหวต่ำกว่าเส้น Fibonacci Retracement 61.8% บริเวณ 109.65 เยน/ดอลลาร์ของภาพรายวันล่าสุด
แนวรับ: 109.00 108.65 108.30
แนวต้าน: 109.65 109.90 110.20
· ราคา Bitcoin ปรับสูงขึ้นทำระดับสูงสุดในรอบมากกว่า 1 ปีที่ 8,937.25 เหรียญ ใกล้ระดับสำคัญ 9,000 เหรียญ ก่อนจะย่อตัวลงมาเคลื่อนไหวบริเวณ 8,788.87 เหรียญ ท่ามกลางปริมาณการเข้าซื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ภาพรวมรายปี ราคา Bitcoin ได้ปรับสูงขึ้นถึง 140%
ความต้องการ Bitcoin ที่กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง มีผลมาจากการที่บรรดาบริษัทชั้นนำทำการทดลองกับสกุลเงินดิจิทัล เพื่อพัฒนาสินค้าใหม่ออกมา อย่าง HTC ของไต้หวันที่กำลังพัฒนาโทรศัพท์มือือที่จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเก็บสะสมเงินดิจิทัลได้ รวมถึง Facebook ที่กำลังพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลของตัวเองอยู่
· รายงานจาก CNBC ระบุว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนดูจะลุกลามกลายเป็นสงครามทางเทคโนโลยีมากขึ้น โดยสหรัฐฯดูจะขยายวงพุ่งเป้าไปยังกลุ่มสินค้าเทคโนโลยีของจีนมากขึ้น นับตั้งแต่ที่ทางสหรัฐฯจะพ่วงบริษัทกล้องวงจรปิดรายใหญ่ของจีนอย่างฮิควิชัน (Hikvision) เพื่อขึ้นบัญชีจำการจำกัดการทำธุรกรรมและการดำเนินธุรกิจกับสหรัฐฯ
The New York Times รายงานว่า บริษัทฮิควิชัน ถือเป็นหนึ่งในบริษัทกล้องวิดีโอวงจรปิดรายใหญ่ที่สุดในโลก หากสหรัฐฯเดินหน้าคว่ำบาตรขึ้นมาจริงๆ บริษัทสหรัฐฯอาจจะต้องขอรับใบอนุญาตจากทางรัฐบาลเพื่อให้สามารถขายอุปกรณ์ของฮิควิชันได้
ขณะที่ The Times ระบุว่า ทีมบริหารของนายทรัมป์น่าจะเล็กเห็นว่าจีนเป็นภัยคุกคามต่อเศรษฐกิจและการเมือง แต่การกระทำดังกล่าวกำลังเพิ่มความกังวลว่าภาคอุตสาหกรรมด้านกล้องวงจรปิดของจีนจะมีราคาที่สูงมากขึ้น
· Tan Min Lan หัวหน้าฝ่ายการลงทุนประจำสถาบัน UBS Global Wealth Management คาดการณ์ว่า ข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนจะยังไม่เกิดขึ้น จนกว่าเศรษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศจะเสียหายไปในระดับหนึ่ง ซึ่งคาดว่าข้อตกลงน่าจะเกิดขึ้นก่อนเข้าสู่ปี 2020
ส่วนในปัจจุบัน มองว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯยังอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง ขณะที่เศรษฐกิจจีน แม้จะได้รับผลกระทบจากการขึ้นภาษี รัฐบาลก็สามารถช่วยเศรษฐกิจกลับมามีสมดุลได้
· ผลการเลือกตั้งรัฐสภาอียูล่าสุด บ่งชี้ว่า รัฐสภามีแนวโน้มจะกลายเป็นรัฐสภาที่มีความแตกแยกสูง เนื่องจากพรรคฝ่ายกลางร่วมที่ประกอบไปด้วยพรรค European People’s Party (EPP) และ Socialist and Democrats (S&D) ไม่สามารถครอบครองเสียงข้างมากได้ โดยสามารถครองครองที่นั่งไปได้ 329 ที่นั่งจากทั้งหมด 751 ที่นั่ง
ขณะที่พรรคฝ่ายต่อต้านการอพยพและการรวมตัวเป็นสหภาพอย่าง พรรค Lega ของอิตาลี กลับมีเสียงสนับสนุนเพิ่มมากขึ้น และสามารถชิงที่นั่งไปได้ถึง 28 ที่นั่ง ซึ่งเป็นสัญญาณว่า การช่วยเหลือของนานาชาติอาจลดน้อยลงในอนาคต
ในฝรั่งเศส พรรคฝ่ายต่อต้านการรวมตัวเป็นสหภาพนำโดยนางมารีน เลอ แปน สามารถชิงที่นั่งในสภาไปได้ 22ที่นั่ง ซึ่งมากกว่าพรรคฝ่ายกลางของนายเอมมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ที่สามารถครองที่นั่งได้ 21 ที่นั่ง
สำหรับอังกฤษ พรรค Brexit ที่เพิ่งก่อตั้งสามารถชิงที่นั่งในสภาไปได้มากกว่าพรรคฝ่ายกลางของอังกฤษ ซึ่งเป็นผลกระทบจากความไม่พึงพอใจต่อความล่าช้าในการดำเนินนโยบาย Brexit จากประชาชนอังกฤษ
· รายงานจากรอยเตอร์ส เปิดเผยถ้อยแถลงของนายคุโรดะ ผู้ว่าการบีโอเจ ในที่ประชุม "Global Economy: ความท้าทายและการดำเนินนโยบาย" โดยเขาระบุว่า ความไม่แน่นอนยังคงอยู่ในระดับสูงสำหรับภาวะเศรษฐกิจโลก และในการประชุม G20 จะมีการหารือถึงความไม่สมดุลทางเศรษฐกิจโลกที่เกิดขึ้น แต่เขาก็ยังไม่ได้ให้รายละเอียดตามหัวข้อในเรื่องการดำเนินนโยบายการเงินว่าจะเป็นเช่นไร
· กระทรวงต่างประเทศแห่งเกาหลีเหนือกล่าวต่อว่า นายจอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงระหว่างประเทศแห่งสหรัฐฯ ว่าเป็น “คนเขลา” ที่บังอาจกล่าวหาว่าการทดสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือเป็นการละเมิดข้อตกลงขององค์การสหประชาชาติ (UN) โดยหากบังคับให้ทางเกาหลีเหนือยกเลิกการพัฒนาขีปนาวุธ ก็เปรียบเสมือนกับการยกเลิกสิทธิในการป้องกันตัวเอง
โดยนายโบลตัน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้กล่าวหาว่า การทดสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือเป็นการละเมิดข้อตกลงของสหประชาชาติอย่างไม่ต้องสงสัย
· การพบกันระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นวันนี้ ทางนายทรัมป์มีการกดดันให้ญี่ปุ่นเร่งปรับดุลการค้าระหว่างทั้ง 2 ประเทศให้มีความสมดุลกัน พร้อมระบุว่ารู้สึกยินดีเกี่ยวกับสถานการณ์ของเกาหลีเหนือ
นอกจากนี้ นายทรัมป์ยังคาดหวังว่าทั้ง 2 ประเทศจะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าร่วมกันในเร็วๆนี้ รวมถึงมีแผนที่จะขยายความร่วมมือกันในด้านการพัฒนาระบบการสำรวจอวกาศ
ทางด้านนายอาเบะ ได้กล่าวยืนยันว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะเร่งผลักดันเจรจาทางการค้าร่วมกัน
หัวหน้านักกลยุทธ์จาก Daiwa Securities กล่าวว่า แม้นายทรัมป์จะทวิตเตอร์ข้อความในเชิงบวกและอาจจะต้องรอที่จะเจรจากับญี่ปุ่นต่อหลังจบเลือกตั้งในเดือนก.ค. แต่ตลาดหุ้นกลับตอบรับในเชิงลบ เนื่องจากทัศนคติของทรัมป์ยังคงมีในเชิงลบต่อภาคยานยนต์ของญี่ปุ่น
· ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้ท่ามกลางกลุ่มโอเปกที่ยังเดินหน้าปรับลดอุปทานน้ำมัน แต่ราคาน้ำมันดิบที่ยังอยู่ต่ำกว่า 70 เหรียญ/บาร์เรล ได้รับแรงกดดันมาจากความกังวลจากภาวะสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน
น้ำมันดิบ Brent ขยับขึ้น 41 เซนต์ หรือ +0.6% ที่ 69.1 เหรียญ/บาร์เรล ทางด้านน้ำมันดิบ WTI ปรับขึ้น 10 เซนต์ หรือ +0.2% ที่ 58.73 เหรียญ/บาร์เรล
รายงานจาก CFTC สะท้อนว่า กลุ่มผู้จัดการกองทุนมีการปรับลดสถานะ Long ในสัญญาน้ำมันดิบลง และสัญญาณเหล่านี้เป็นการสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในระดับต่ำในการเข้าถือครองสถานะของน้ำมัน
· นักวิเคราะห์จาก FXStreet มองว่า ตลาดน้ำมันเคลื่อนไหวต่ำกว่าแนวต้าน 60.9 - 61.4 เหรียญ/บาร์เรล ก็ดูเหมือนจะยังมีโอกาสกลับลงไปทดสอบระดับแนวรับเป้าหมายที่ 54.1 เหรียญ/บาร์เรล