กลยุทธ์ที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ใช้กดดันการค้ากับจีนมาโดยตลอด ก็คือการโจมตีสินค้านำเข้าจากประเทศจีน แต่อาวุธใหม่ที่เขาเพิ่งนำมาใช้เมื่อไม่นานมานี้ คือการทำให้การส่งออกของสหรัฐฯกลายเป็นอาวุธ
ซึ่งก็คือกรณีที่ทีมบริหารของเขาประกาศคว่ำบาตร Huawei ด้วยการจำกัดการขายสินค้าให้กับทาง Huawei และบริษัทที่เกี่ยวข้อง และยังมีบริษัทที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับกล้องวงจรของจีนที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาอีกถึง 5 บริษัท
อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้ประกอบการในสหรัฐฯกลับมีความกังวลต่อการควบคุมการส่งออกมากกว่าการขึ้นภาษี โดยบริษัทรายใหญ่อย่าง General Electric, Google และ Microsoft ต่างออกมาแสดงความกังวลว่า การดำเนินการเช่นนี้จะเป็นการจำกัดการแข่งขันในตลาด ส่งผลให้เทคโนโลยีของสหรัฐฯไม่สามารถพัฒนาไปได้เท่าที่ควร
ยกตัวอย่างเช่น ทาง Microsoft ได้เขียนจดหมายรายงานต่อกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ มีใจความว่า การจำกัดการส่งออกของสหรัฐฯ จะทำให้สหรัฐฯสูญเสียความร่วมมือในการวิจัยและพัฒนาเทคโลยีระหว่างประเทศ และหากรัฐบาลมีการดำเนินงานอย่างไม่เหมาะสม สหรัฐฯก็อาจกลายเป็นผู้เสียผลประโยชน์เสียเอง
ขณะที่ทาง General Electric ได้แสดงความกังวลต่อความสามารถในการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ Artificial intelligence ซึ่งหากดำเนินการผิดพลาด สหรัฐฯอาจล้าหลังในการพัฒนา A.I. ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้หลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่การคำนวนและจ่ายยาให้เหมาะสมกับคนไข้ การวินิจฉัยโรค ตลอดจนการผลิตของเล่นอย่างตุ๊กตาหมีพูดได้
Bill Reinsch อดีตรัฐมนตรีที่ดูแลด้านการนำเข้า-ส่งออกของสหรัฐฯในสมัยรัฐบาลคลินตัน ระบุว่า การกำหนดขอบเขตของการจำกัดการส่งออกเป็นเรื่องที่ปฏิบัติจริงได้ยาก หากผ่อนคลายมากเกินไป เทคโนโลยีอาจยกไปอยู่ในมือของประเทศคู่แข่ง หากคุมเข้มมากเกินไปก็จะกลายเป็นการจำกัดความสามารถในการพัฒนาเทคโนโลยีและการขยายตัวทางเศรษฐกิจเสียเอง
ที่มา: Bloomberg