• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 23 พฤษภาคม 2562

    23 พฤษภาคม 2562 | Economic News


· ค่าเงินดอลลาร์ทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดรอบ 1 เดือน ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน รวมทั้งรายงานประชุมเฟดช่วงต้นเดือนที่ถึงเฟดจะยังคงดอกเบี้ย แต่ก็มีสัญญาณเพียงเล็กน้อยที่จะเปลี่ยนแปลงแนวทางการดำเนินนโยบาย เนื่องจากตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง จึงไม่ไดส่งผลกระทบใดต่อตลาดมากนัก



ในวันพุธที่ผ่านมา นายเจมส์ บุลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ แสดงความคิดเห็นว่า มีสัญญาณการอ่อนตัวของเงินเฟ้อที่อาจทำให้เฟดต้องกลับมาพิจารณาเรื่องการปรับลดดอกเบี้ย นอกเสียจากการเติบโตทางเศรษฐกิจจะยังแข็งแกร่งอย่างในทุกวันนี้



ดัชนีดอลลาร์ทรงตัวที่ 98.043 จุด หลังไปทำระดับสูงสุดรอบ 1 เดือน ที่ 98.134 จุด ขณะที่ค่าเงินยูโรทรงตัวบริเวณ 1.116 ดอลลาร์/ยูโร ก่อนทราบถ้อยแถลงของประธานอีซีบี โดยบลูมเบิร์ก อ้างอิงถึงถ้อยแถลงของ นายดรากี้ ที่มีการกล่าวเตือนว่าท่าทีตึงเครียดทางการค้าเป็นปัจจัยเสี่ยง และเสี่ยงที่จะทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจยูโรโซนถดถอย จึงอาจทำให้อีซีบีไม่สามารถปรับนโยบายการเงินตามแผนที่วางไว้ได้ในช่วงก่อนหน้า

· รายงานการประชุมเฟดเดือน พ.ค. ที่เปิดเผยเมื่อคืนนี้ แสดงให้เห็นว่า เฟดมีแนวคิดที่จะคงท่าที “อดทน” ต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปอีกสักระยะ ขณะที่บรรดาสมาชิกเฟดมีคาดการณ์กันว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯยังสามารถคงทิศทางเติบโตต่อไปได้ตลอดปีนี้ แต่เนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังเผชิญความเสี่ยงจากภาวะ Brexit และ Trade war รวมถึงอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯที่ยังชะลอตัว จึงตัดสินใจที่จะไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยและจับตาดูท่าทีของเศรษฐกิจไปก่อน

อย่างไรก็ตาม แม้รายงานการประชุมเฟดจะส่งสัญญาณว่าเฟดจะไม่มีการปรับอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ ตลาดก็ยังคงคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 1 ครั้งภายในช่วงปลายปีนี้ โดยอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงถึง 1%

· กลุ่มนักลงทุนจับตาประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน หลังจากที่สหรัฐฯที่มากระงับมาตรการคว่ำบาตรบริษัท Huawei เป็นการชั่วคราว ขณะที่ล่าสุดสหรัฐฯอาจจะทำการคว่ำบาตรเพิ่มต่อบริษัทกล้องวิดีโอวงจรปิด จึงยิ่งเพิ่มความกังวลต่อภาคเทคโนโลยีที่อาจกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของสงครามการค้าครั้งนี้

รายงานจาก The South China Morning Post กล่าวว่า จีนอาจกลับมาพิจารณาถึงความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับสหรัฐฯทั้งหมด และจีนอาจพิจารณาลดการเข้าซื้อแก๊สธรรมชาติจากสหรัฐฯด้วย

* นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน กล่าวว่า สถานการณ์ทางการค้าระหว่างประเทศเริ่มที่จะซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ จึงขอให้ประชาชนจีนเตรียมพร้อมรับมือกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก ท่ามกลางสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนที่ส่งสัญญาณย่ำแย่ลง จากกรณีที่สหรัฐฯประกาศคว่ำบาตร Huawei



ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังคงไม่มีกำหนดการเจรจาในรอบต่อไป นับตั้งแต่ที่การเจรจาวันที่ 10 พ.ค. จบลงอย่างไม่มีข้อตกลง และทางสหรัฐฯได้ประกาศขึ้นภาษีสินค้าจีนเป็นมูลค่า 2 แสนล้านเหรียญ และข่มขู่จะขึ้นภาษีสำหรับสินค้าทุกกลุ่มที่ยังไม่ถูกขึ้นภาษี



· รายงานจาก CNBC ระบุว่า รัฐบาลสหรัฐฯกำลังดำเนินการกดดันเกาหลีใต้ให้ระงับการใช้งานสินค้าของ Huawei ซึ่งเป็นสัญญาณว่าสหรัฐฯกำลังพยายามเรียกร้องประเทศพันธมิตรให้ร่วมมือกับสหรัฐฯในการคว่ำบาตร Huawei อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานว่าทางรัฐบาลเกาหลีใต้ตอบรับกับข้อเรียกร้องของสหรัฐฯอย่างไร

· CNEX บริษัทผู้ผลิตไมโครชิปที่ได้รับการสนับสนุนจาก Microsoft และ Dell ได้ยื่นเรื่องฟ้องร้องต่อบริษัท Huawei และนายเอริค ซู (Eric Xu) รองประธานของ Huawei ในข้อหาพยายามลักลอบโจรกรรมข้อมูลที่เป็นความลับทางการค้า โดยจะมีการไต่สวนภายในศาลยุติธรรมในรัฐเท็กซัสของสหรัฐฯในวันที่ 3 มิ.ย.นี้

· บริษัท Panasonic ของญี่ปุ่น ประกาศระงับการส่งสินค้าให้กับ Huawei ของจีน เพื่อตอบรับมาตรการคว่ำบาตร Huawei ของสหรัฐฯ แม้ทาง Panasonic จะไม่มีแหล่งผลิตอยู่ในสหรัฐฯก็ตาม แต่เนื่องจากสินค้าของ Panasonic กว่า 25% เป็นสินค้าที่มีส่วนประกอบหรือเป็นเทคโนโลยีของสหรัฐฯ

· สำหรับสถานการณ์ในยุโรป นางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษคว้าน้ำเหลวในการหารือร่วมกับหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านก่อนการเลือกตั้งรัฐสภายุโรป ดังนั้น บรรดาส.ส.อังกฤษอาจกลับมาพิจารณษว่าจะโหวตลงประชามติครั้งที่สองหรือไม่ เว้นแต่เธอจะได้รับแรงสนับสนุนจากข้อตกลงการถอนตัวออกจากอียู


อย่างไรก็ดี โฆษกพรรคแรงงาน แสดงความเห็นโจมตีนายกฯอังกฤษ โดยให้เธอยอมรับความพ่ายแพ้ที่จะตามมาในการโหวตข้อตกลง Brexit ครั้งที่ 4 ของเธอ และประเด็นดังกล่าวส่งผลให้ค่าเงินปอนด์ร่วงลงต่อ

· ราคาน้ำมันดิบอ่อนตัวลงจากสต็อกน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นเกินคาด ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่วิตกกังวลต่อภาวะสงครามการค้าที่ยาวนานระหว่างสหรัฐฯและจีนที่จะเป็นปัจจัยสกัดกั้นต่ออุปสงค์น้ำมัน โดยน้ำมันดิบ WTI ปิดปรับลง 1.71 เหรียญ หรือ -2.7% เป็นระดับปิดต่ำสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์ที่ 61.39 เหรียญ/บาร์เรล ทางด้านน้ำมันดิบ Brent ปิดปรับลง 1.19 เหรียญ หรือ -1.7% ที่ระดับ 70.99 เหรียญ/บาร์เรล

กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ (EIA) เผยรายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯพุ่งขึ้นเกินคาด 4.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งถือเป็นรายสัปดาห์ที่มีการเพิ่มมากที่สุดตั้งแต่ก.ค. ปี 2017


* อินเดียจะเริ่มนับคะแนนเสียงเลือกตั้งภายในวันพฤหัสบดีนี้ ท่ามกลางโพลสำรวจส่วนใหญ่ที่คาดการณ์ว่า พรรค NDA ของนายนเรนทระ โมธี นายกรัฐมนตรีอินเดียคนปัจจุบัน จะสามารถครอบครองที่นั่งในสภาได้มากกว่า 272 ที่นั่ง จึงอาจเป็นฝ่ายที่ครองเสียงข้างมากในสภาและสามารถก่อตั้งรัฐบาลได้เป็นสมัยที่ 2



บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com