• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 13 พฤษภาคม 2562

    13 พฤษภาคม 2562 | Economic News


· ค่าเงินเยนปรับแข็งค่าขึ้นในฐานะ Safe-Haven ขณะที่ค่าเงินหยวนและออสเตรเลียดอลลาร์อ่อนค่าลงในช่วงต้นตลาดต่อวันนี้ จากกรณีความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนรอบใหม่



ขณะที่ผู้นำสหรัฐฯและผู้นำจีนมีแนวโน้มจะพบกันในการประชุม G20 ณ ประเทศญี่ปุ่นในช่วงสิ้นเดือนมิ.ย. และอาจมีการหารือถึงประเด็นข้อขัดแย้งทางการค้า



เงินเยนแข็งค่าลง 0.3% ที่ 109.65 เยน/ดอลลาร์ ใกล้ระดับแข็งค่ามากที่สุดที่ทำไว้ในสัปดาห์ที่แล้วบริเวณ 109.47 เยน/ดอลลาร์



ค่าเงินหยวนอ่อนค่าลง 0.3% ที่ระดับ 6.866 หยวน/ดอลลาร์ และมีการเคลื่อนไหวใกล้ระดับอ่อนค่ามากที่สุดรอบ 4 เดือน ด้านค่าเงินยูโรทรงตัวที่ 1.1234 ดอลลาร์/ยูโร



สำหรับดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.5% ที่ระดับ 97.283 จุด



· รายงานจาก BBC ระบุว่า ในปีที่แล้วนายทรัมป์มีการขึ้นภาษีสินค้าจีน 10% มูลค่า 2 แสนล้านเหรียญต่อสินค้าประเภทปลา, กระเป๋า เสื้อผ้า และรองเท้า ขณะที่ในสัปดาห์ที่แล้วมีการขู่ขึ้นภาษีอีกจาก 10% สู่ระดับ 25% มูลค่า 2 แสนล้านเหรียญต่อสินค้าของจีนหลังจากที่จีนมีการทำลายข้อตกลงกับสหรัฐฯตามคำกล่าวอ้างของนายทรัมป์ และนายทรัมป์ก็จะเริ่มการขึ้นภาษีสินค้าอื่นๆอีกราว 3.25 แสนล้านเหรียญด้วยการขึ้นภาษี 25% เร็วๆนี้ และนั่นยิ่งตอกย้ำความกังวลว่า Trade War จะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของทั้งสองประเทศ รวมทั้งเศรษฐกิจโลก

· การเจรจาระหว่างสหรัฐฯและจีนดูเหมือนจะไม่สามารถดำเนินต่อไปได้ เนื่องจากจีนยังคงยืนกรานปฏิเสธข้อเรียกร้องของสหรัฐฯที่ให้จีนเปลี่ยนแปลงกฎหมายการค้าของตนให้สอดคล้องกับจุดมุ่งหมายของสหรัฐฯ โดยจีนได้ตอบโต้สหรัฐฯว่าจะไม่มีดำเนินการใดๆที่ให้จีนเป็นฝ่ายเสียผลประโยชน์


ทางด้านนายแลรี่ คุดโลว์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า จีนต้องดำเนินการตามที่สหรัฐฯเรียกร้องเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายสามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกัน แต่ทางจีนยังคงมีท่าทีไม่เต็มใจที่จะเปลี่ยนแปลงกฎหมายการค้าของตน จึงเป็นสาเหตุให้การเจรจาไม่คืบหน้า นอกจากนี้ ยังได้ยืนยันว่านโยบายภาษีจะมีผลต่อไปในขณะที่ทั้ง 2 ฝ่ายยังอยู่ในระหว่างการเจรจา



· นายคุดโลว์ยังได้ระบุอีกว่า มีความเป็นไปได้สูงที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน จะพบกันอีกครั้งระหว่างการประชุม G-20 ที่จะขึ้นในเดือนมิ.ย. ณ ประเทศญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม การพบกันดังกล่าวไม่ได้มีกำหนดการที่แน่ชัดแต่อย่างใด แค่มีความเป็นไปได้สูงเท่านั้น



· รัฐบาลจีนยืนยันว่ายังคงเปิดกว้างต่อการเจรจาร่วมกับสหรัฐฯ แต่ไม่ยอมจำนนต่อข้อเรียกร้องใดๆที่ทำให้จีนเป็นฝ่ายเสียผลประโยชน์เสียเอง

· รัฐมนตรีในสภาอิสราเอลกล่าวเตือนว่า มีความเป็นไปได้ที่อิหร่านอาจตัดสินใจโจมตีอิสราเอลทั้งทางตรงหรือทางอ้อม หากความขัดแย้งระหว่างอิหร่านและสหรัฐฯขยายตัวรุนแรงขึ้น


ทั้งนี้ เป็นเพราะว่ารัฐบาลของนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เป็นผู้ให้การสนับสนุนนโยบายกดดันอิหร่านทั้งทางเศรษฐกิจและทางกำลังทหารของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกอบกับการที่อิหร่านและอิสราเอลมีความขัดแย้งที่รุนแรงมาเนิ่นนานแล้ว

· ราคาน้ำมันดิบปิดเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยจากภาวะอุปทานตึงตัวในตลาดโลกและการคาดหวังว่าอุปสงค์การกลั่นน้ำมันจะเพิ่มขึ้นเพื่อชดเชยความตึงเครียดทางการค้าที่เกิดขึ้นครั้งใหม่ระหว่างสหรัฐฯและจีน โดยน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 4 เซนต์ ที่ 61.66 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่ช่วงต้นไปทำ High ที่ 62.49 เหรียญ หรือคิดเป็น -0.5%

ด้านน้ำมันดิบ Brent ปิดปรับขึ้น 23 เซนต์ ที่ 70.62 เหรียญ/บาร์เรล หลังไปทำระดับสูงสุดที่ 71.23 เหรียญ/บาร์เรล





บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com