· ดัชนีดอลลาร์เมื่อวันพุธ อ่อนค่าลงเล็กน้อยประมาณ 0.05% บริเวณ 97.426 จุด หลังอ่อนค่าลงจากการแข็งค่าของเงินยูโร แต่มีแรงหนุนขึ้นมาบางส่วนจากการประตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนโดย ADP ที่พบว่าในเดือน เม.ย. มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 275,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นอัตราที่มากที่สุดนับตั้งแต่เดือน ก.ค. ปีที่แล้ว มากกว่าคาดการณ์ที่ 180,000 ตำแหน่ง
ขณะที่เช้านี้ดัชนีดอลลาร์ทรงตัวที่ 97.616 จุด หลังจากที่ช่วงเช้าไปทำระดับต่ำสุดแถว 97.149 จุด ทางด้านค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง 1.1200 ดอลลาร์/ยูโร หลังไปทำระดับแข็งค่าที่สุดบริเวณ 1.1265 ดอลลาร์/ยูโร และค่าเงินเยนยังทรงตัว 111.44 เยน/ดอลลาร์ หลังไปทำระดับต่ำสุดที่ 111.03 เยน/ดอลลาร์

· เมื่อวานนี้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯรีบาวน์ขึ้นหลังจากที่ นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด กล่าวว่า เฟดมองว่าการลดลงของเงินเฟ้อเป็นเพียงภาวะชั่วคราว และยังไม่มีความกังวลทางด้านสัญญาณการขยายตัวของเงินเฟ้อ
อัตราผลตอบแทนอายุ 10 ปี อ่อนตัวลงแตะ 2.514% ขณะที่อัตราผลตอบแทนอายุ 30 ปี ปรับลงแตะ 2.919%
· เฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อคืนที่ผ่านมา และยังไม่มีการส่งสัญญาณที่จะเปลี่ยนแปลงนโยบายดอกเบี้ยในเร็วๆนี้แต่อย่างใด แต่ได้แสดงความยินดีกับตัวเลขการจ้างงานและการเติบโตของเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง จึงเชื่อว่าอัตราเงินเฟ้อจะสามารถขยายตัวขึ้นได้ในอนาคต
โดยถ้อยแถลงของนายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด ระบุว่า การดำเนินนโยบายการเงินในปัจจุบันของเฟด ถือว่าเหมาะสมแล้วกับสภาวะเศรษฐกิจ จึงไม่เห็นถึงความจำเป็นจะต้องปรับเพิ่มหรือลดอัตราดอกเบี้ยแต่อย่างใด
ส่วนภาพรวมของเศรษฐกิจสหรัฐฯในปีนี้ เชื่อว่ากำลังดำเนินไปในทิศทางที่สดใส
ขณะที่บรรดาสมาชิกเฟดยังคงมองแนวโน้มที่เป็นไปได้มากที่สุด คือการที่เศรษฐกิจจะอัตราการเติบโตไว้ที่ระดับสูงสุดในรอบ 10 ปีต่อไปได้ และอัตราเงินเฟ้อก็จะเริ่มขยายตัวตามมาในที่สุด
ประชุมของเฟดดูเหมือนไม่ได้รับผลกระทบจากข้อเรียกร้องของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่เพิ่งกล่าวก่อนหน้าการประชุมเฟด 1 วัน โดยเรียกร้องให้เฟดพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 1% เพื่อกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจ
· CNBC รายงานโดยอ้างอิงจากการสัมภาษณ์เสณาธิการประจำทำเนียบขาวว่า “เป็นไปได้” ที่จะเกิดข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ภายในวันศุกร์สัปดาห์หน้า
โดยตัวแทนการเจรจาของสหรัฐฯ นำทีมโดยนายสตีเว่น มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ และนายโรเบิร์ต ไรท์ไฮเซอร์ ตัวแทนการค้า ได้เดินไปยังกรุงปักกิ่ง ประเทศจีนเมื่อวันพุธที่ผ่านมา เพื่อเจรจากับตัวแทนของจีน นำโดยนายหลิว เฮ่อ นายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจจีน และในสัปดาห์หน้า นายหลิว เฮ่อ จะเป็นฝ่ายเดินทางมาเจรจาในกรุงวอชิงตัน ของสหรัฐฯ
· นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ สั่งปลดนายเกวิน วิลเลียมสัน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมอังกฤษ อย่างกระทันหัน เนื่องจาก เนื้อหาการเจรจาระหว่างคณะมนตรีด้านความมั่นคงแห่งชาติเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์โทรคมนาคมของ Huawei ได้รั่วไหลออกไปสู่สาธารณะ
โดยในเดือนที่ผ่านมา สำนักข่าว Telegraph รายงานว่า รัฐบาลอังกฤษมีแนวคิดที่จะอนุญาตให้สามารถใช้อุปกรณ์ของ Huawei ในการก่อสร้างเครือข่าย 5G ในประเทศอังกฤษได้ ซึ่งเป็นแนวคิดที่อาจเกิดความขัดแย้งกับสหรัฐฯ ที่ต้องการกีดกันการใช้งานอุปกรณ์ของ Huawei
· ราคาน้ำมันเมื่อวันพุธปิดปรับตัวลดลง หลังรายงานปริมาณสต็อกน้ำมันสหรัฐฯเพิ่มสูงขึ้นเกินคาดในสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ราคายังมีแรงหนุนบางส่วน จากการคว่ำบาตรน้ำมันเวเนซุเอลา เนื่องจากการยกเว้นให้กับผู้นำเข้ารายใหญ่บางราย ได้ถูกยกเลิกไปโดยสหรัฐฯเมื่อวันที่ 1 พ.ค.
โดยราคาสัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิด -31 เซนต์ ที่ 63.60 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาสัญญาน้ำมันดิบ Brent ปิด -2 เซนต์ ที่ 72.04 เหรียญ/บาร์เรล
