• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 30 เมษายน 2562

    30 เมษายน 2562 | SET News

· ดัชนี S&P500 ทำ All-Time High แต่การเพิ่มขึ้นของดัชนีก็ยังเป็นไปอย่างจำกัดท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่เฝ้ารอคอยข้อมูลสำคัญในสัปดาห์นี้ ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ หรือการประกาศผลประชุมเฟด

ดัชนี S&P500 ปิด +0.1% ที่ 2,943.03 จุด ซึ่ง Breakout จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ทำไว้ในเดือนก.ย.ปีที่ผ่านมา อันเป็นผลจากการที่หุ้นกลุ่มการเงินใน S&500 ปิดปรับตัวขึ้นไปกว่า 0.9% โดยทั้งหุ้น Bank of New York Mellon และCitigroup ต่างมีภาพรวมที่ดีที่สุดที่ต่างปรับขึ้นได้กันกว่า 2%


ดัชนี Nasdaq ก็ปิดทำ All-Time High เช่นกันกว่า 0.2% ที่ 8,161.85 จุด ทางด้านดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับขึ้นเพียง 11.06 จุด ที่ 26,554.39 จุด

· ตลาดหุ้นเอเชียเปิดแดนลบในเช้านี้ ท่ามกลางตลาดที่รอดูผลเจรจาของสหรัฐฯและจีนที่จะกลับมาเริ่มขึ้นในช่วงสายวันนี้

ดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้เปิด -0.84% ขณะที่ ASX 200 เปิด -0.56%

นอกจากนี้ กิจกรรมภาคการผลิตของจีนยังออกมาแย่กว่าที่คาดในเดือนเม.ย. โดย PMI ออกมาที่ 50.1 จุด จากคาดการณ์เดิมที่ 50.5 จุด

· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ไว้ที่ระหว่าง 31.85 - 31.95 บาท/ดอลลาร์ โดยตลาดน่าจะจับตาดูเหตุการณ์สำคัญในสัปดาห์นี้ ทั้งการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของสหรัฐฯ, ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ และเงินเฟ้อของไทย

- สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้เตรียมเสนอแพ็คเกจมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงกลางปีให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในวันพรุ่งนี้ โดยมีวงเงินรวมประมาณราวหมื่นกว่าล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวเพิ่มได้ประมาณ 0.1%

- เศรษฐกิจไทยในเดือน มี.ค.62 และไตรมาส 1/62 มีสัญญาณแผ่วลงจากอุปสงค์ภายนอกเป็นสำคัญ เนื่องจากการหดตัวของการส่งออกสินค้าตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและการชะลอตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศ

- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดเฟดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2.25-2.50% ในการประชุมนโยบายการเงินวันที่ 30 เม.ย-1 พ.ค. 2562

ทั้งนี้การส่งสัญญาณผ่อนปรนในการดำเนินโยบายการเงินของเฟด จะช่วยประคองการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในช่วงที่เหลือของปีนี้ แม้ตลาดมองว่ามีความเป็นไปได้มากขึ้นที่เฟดอาจจะพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ในช่วงปลายปี 2562 แต่เฟดคงไม่น่าจะส่งสัญญาณถึงทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินดังกล่าวในระยะอันใกล้เนื่องจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดอาจถูกตลาดตีความถึงแนวโน้มที่เศรษฐกิจสหรัฐฯกำลังเข้าสู่วัฎจักรชะลอตัวในระยะข้างหน้าได้

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com