เมื่อพิจารณาจากราฟรายวัน จะเห็นได้ว่าการเคลื่อนไหวของราคาตั้งแต่ช่วงกลางเดือน ส.ค. ปีก่อน ได้ก่อตัวเป็นลักษณะ Falling Wedge บ่งชี้ถึง ทิศทางขาลงที่เริ่มอ่อนกำลัง และอาจกลับตัวเป็นขาขึ้น ประกอบกับสัญญาณจากเส้น RSI ที่เคลื่อนไหวแดนบวก ก็เป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนมุมมองว่าค่าเงินยังมีโอกาสกลับตัวเป็นขาขึ้น
อย่างไรก็ตาม โอกาสที่ค่าเงินจะย่อตัวลงต่อในระยะสั้นก็ยังมีมากกว่า ส่วนสัญญาณที่ค่าเงินอาจกลับตัวเป็นขาขึ้นในภาพระยะกลางและยาวนั้น ยังจำเป็นต้องจับตาดูการเคลื่อนไหวของค่าเงินต่อไปเสียก่อน
· นายาโมเตกิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจญี่ปุ่น ระบุว่า การประชุมร่วมกับนายโรเบิร์ต ไลท์ไธเซอร์ ตัวแทนการค้าของสหรัฐฯเมื่อวานนี้ ไม่ได้ถูกหยิบยกประเด็นค่าเงินเพื่อเจรจาทางการค้าตลอดช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมากับทางสหรัฐฯ โดยยังไม่มีข้อเรียกร้องใดๆจากทางสหรัฐฯในการคุมเข้มการนำเข้ารถยนต์ และทั้ง 2 ประเทศก็ยังไม่มีรายละเอียดการหารือใดๆ ในเรื่องเกษตรกรและรถยนต์
· ผลสำรวจโดย Reuters ที่รวบรวมความคิดเห็นของบรรดานักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำกว่า 500 ราย เชื่อว่าวัฏจักรของการคุมเข้มทางการเงินจากธนาคารกลางส่วนใหญ่ได้จบสิ้นลง และเศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ภาวะชะลอตัวท่ามกลางอัตราเงินเฟ้อที่ซบเซา
ผลกระทบของการจบวัฏจักรคุมเข้มทางการเงินจะเห็นได้อย่างชัดเจนในตลาดพันธบัตร ซึ่งอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรสำคัญๆ ต่างพากันปรับร่วงลงต่อเนื่องภายในปีนี้ ขณะที่ตลาดหุ้นปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะดัชนี S&P 500 ที่ทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ไปเมื่อไม่นานมานี้ หลังจากที่ดัชนีเปิดตลาดปีนี้อย่างแข็งแกร่งมากที่สุดในรอบกว่า 3 ทศวรรษ
· สเปนจะมีการจัดเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 28 เม.ย. และผลโหวตอาจสร้างเรื่องประหลาดใจและอาจสร้างความไม่แน่นอนทา
งการเมืองเพิ่มขึ้นในยุโรปได้
ขณะที่ผลสำรวจเมื่อไม่กี่สัปดาห์ ก็มีมมุมองว่านายซานเชส จากพรรคสังคมนิยมอาจได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้งครั้งนี้ แต่ชัยชนะดังกล่าวก็อาจไม่เพียงพอที่จะสามารถจัดตั้งรัฐบาลเดี่ยวได้
อย่างไรก็ดี ไม่ว่าใครจะได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งในครั้งนี้ ทุกสายตาต่างก็จับจ้องและให้ความสำคัญไปยังการสนับสนุนทางเศรษฐกิจและการจ้างงาน ที่ต้องก่อให้เกิดการปฏิรูปเพื่อให้ประเทศพัฒนาศักยภาพด้านการแข่งขันมากยิ่งขึ้น แต่การจัดการกับความเชื่อมั่นทางชาตินิยม อุปสรรค และปัญหาที่ยังไม่ถูกแก้ไข คือ การที่พรรคคาตาลันต้องการขอแยกตัวจากยุโรป
· ในวันน่ี้ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน มีกำหนดการกล่าวแถลงการณ์สำหรับงาน China's Belt and Road Forum เกี่ยวกับแผนปฏิรูปเศรษฐกิจของจีน โดยในส่วนใหญ่มีการมุ่งเน้นถึงประเด็นหลัก Trade War ที่กำลังดำเนินไประหว่างสหรัฐฯและจีน โดยนายสี ระบุว่า จีนจะทำการเพิ่มการป้องกันการละเมิดสินทรัพย์ทางปัญญา และยุติการถ่ายโอนเทคโนโลยีตามอำเภอใจ ที่ถือเป็น 2 ประเด็นหลักในการหารือข้อขัดแย้งทางการค้าในเวลานี้ของทั้ง 2 ประเทศ
นอกจากนี้ จีนจะทำการปรับนโยบายระดับมหพภาคให้มีความแข็งแกร่งที่สอดคล้องกับประเทศเศรษฐกิจหลักใหญ่ๆ เพื่อให้เกิดการกระจายตัวเชิงบวก พร้อมกันนี้ นายสี กล่าวย้ำว่า จีนจะไม่ทำการใช้การลดค่าเงินเพื่อให้ค่าเงินประเทศอื่นแข็งค่า แต่ในการกล่าวถ้อยแถลงวาระนี้ดูเหมือนเขาจะให้รายละเอียดเพียงเล็กน้อยเท่านั้นต่อแผนการพัฒนาเศรษฐกิจ
· รายงานจาก Reuters ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯมีแนวโน้มที่จะขยายตัวได้ในระดับปานกลางในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งอาจช่วยขจัดความกังวลในช่วงต้นเกี่ยวกับภาวะถดถอย แม้ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจจะได้รับอานิสงส์จากปัจจัยขับเคลื่อนชั่วคราวเท่านั้น