MTS Help Center

· ค่าเงินสวีเดนอ่อนค่าลงทำระดับต่ำสุดรอบ 17 ปี หลังจากที่ธนาคารกลางสวีเดนเลื่อนการปรับขึ้นดอกเบี้ยออกไป โดย Riksbank มีการเริ่มปรับนโยบายการเงินสู่ภาวะปกติในเดือนธ.ค. ท่ามกลางเศรษฐกิจที่แข็งแก่รง แต่ล่าสุดดูเหมือนจะไปในทางเดียวกับกับยุโรปและแคนาดา โดยมีท่าทีระมัดระวังต่อทิศทางเศรษฐกิจ



ค่าเงินคราวน์อ่อนค่าลงไป 1.4% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 9.55 ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ส.ค. ปี 2002 ขณะที่ภาพรวมรายวันเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโรร่วงลงมากที่สุดตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว



· ค่าเงินยูโรยังคงร่วงลงใกล้ระดับต่ำสุดรอบ 22 เดือน ท่ามกลางแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจเยอรมนีหลังข้อมูลภาคธุรกิจที่ไม่สดใสตอกย้ำความผกผันของเศรษฐกิจยูโรโซนเมื่อเทียบกับสหรัฐฯ ขณะที่เดือนหน้าจะมีการเลือกตั้งของรัฐสภายุโรป ประกอบกับความไม่แน่นอนทางการเมืองในสเปน จึงยิ่งสร้างความผันผวนให้แก่ตลาด



· ประชุมอีซีบีในเดือนมี.ค. ดูจะเลื่อนการปรับขึ้นดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงปี 2020 และจะกระทบต่อค่าเงินยูโร จึงทำให้ภาพรายวันร่วงลงมากที่สุดในรอบกว่า 6 สัปดาห์ หรือร่วงลงไปกว่า 0.6% ไปแตะระดับต่ำสุดรอบ 22 เดือนที่ 1.1141 ดอลลาร์/ยูโร ก่อนจะทรงตัวที่ 1.1154 ดอลลาร์/ยูโร



· ดัชนีดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นไประดับสูงสุดรอบ 23 เดือนที่ 98.189 จุด โดยเมื่อวานนี้มีการอ่อนค่าลงมาเล็กน้อย 0.15% ที่ระดับ 98.027 จุด




· จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์สหรัฐฯปรับขึ้นเกินคาด โดยมีผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2017 โดยมีคนว่างงานเพิ่มขึ้น 37,000 ราย สู่ 230,000 ราย


· นักลงทุนทำการจับตาข้อมูลจีดีพีสหรัฐฯไตรมาสแรกของปีในคืนนี้ อันจะเป็นตัวสะท้อนว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯแข็งแกร่งเพียงใด



· ค่าเงินลีราปรับตัวลงทำระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ต.ค. ปีที่แล้ว หลังธนาคารกลางดูจะชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยหากจำเป็น จึงทำให้กลุ่มนักลงทุนเป็นกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ, การฝืนดำเนินนโยบาย, ภาวะความไม่แน่นอนทางการเมือง ที่ส่งผลกระทบต่อค่าเงินของตุรกี



ค่าเงินลีราเคลื่อนไหวแถว 5.9502 ลีรา/ดอลลาร์ โดยอ่อนค่าไป 1.5% ขณะที่ภาพรวมเดือนที่แล้วอ่อนค่าไป 7% เมื่อเทียบกับดอลลาร์



· บรรดานักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ รวมถึงภาคธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐฯอย่าง J.P. Morgan มีการปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจเกาหลีใต้ปี 2019 หลังจากที่จีดีพีเกาหลีใต้หดตัวลงในไตรมาสแรกสู่ระดับ 0.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนที่ขยายตัวได้ 1.8% และต่ำกว่าที่ผลสำรวจรอยเตอร์สคาดว่าจะขยายตัวได้ 2.5%

และจีดีพีที่น่าผิดหวังในไตรมาสแรกได้ส่งผลให้บรรดานักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ทำการปรับลดคาดการณ์ขยายตัวรายปีของเกาหลีใต้สู่ระดับประมาณ 2.4% จากคาดการณ์เดิม 2.6% ขณะที่ปีที่แล้วเศรษฐกิจเกาหลีใต้ขยายตัวได้ 2.7%

· สเปนกำลังจะจัดการเลือกตั้งทั่วไปขึ้นในวันที่ 28 เม.ย. ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะกลายเป็นประเด็นความความเครียดทางการเมือง และกดดันความเชื่อมั่นในการเมืองของทั้งยูโรโซนได้ ซึ่งการประกาศจะจัดการเลือกตั้งทั่วไปเกิดขึ้นเมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา หลังตัวแทนจากแคว้นคาตาลันเข้าร่วมพรรคฝ่ายกลาง-ขวา และร่วมกันปฏิเสธแผนงบประมาณปี 2019 ของรัฐบาลไป

โดยแบบสำรวจล่าสุด คาดว่าพรรคการเมืองของนายเปโดร แซนเชส นายกรัฐมนตรีสเปนคนปัจจุบัน จะยังเป็นฝ่ายครองเสียงข้างมากจากการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่จะไม่สามารถเรียกคะแนนเสียงได้มากพอที่จะจัดตั้งรัฐบาลเดี่ยวที่มีอำนาจเด็ดขาดได้

· นายทาโร่ อาโซะ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังญี่ปุ่น กล่าวกับนายสตีเว่น มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ โดยระบุว่า ญี่ปุ่นจะไม่ยอมเปิดรับการเจรจาด้านนโยบายทางการเงินร่วมกับสหรัฐฯ หากสหรัฐฯเอาไปหัวข้อดังกล่าวไปพัวพันกับข้อขัดแย้งทางการค้า


นายอาโซะกล่าวกับนายมนูชิน หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้มีการประชุมร่วมกันเมื่อวานนี้ ณ กรุงวอชิงตัน สหรัฐฯ โดยทั้งสองผู้นำได้ตกลงที่จะผลักดันให้เกิดการเจรจาด้านอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างผู้นำด้านการเงินของแต่ละประเทศ

· ยอดการผลิตของอุตสาหกรรมญี่ปุ่นปรับตัวลงในเดือนมี.ค. เป็นครั้งแรกในรอบ 2 เดือน แตะระดับ 0.9% และสต็อกสินค้าที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุดในรอบปี ท่ามกลางปัญหาสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนที่ดูจะเป็นอุปสรรคสำคัญต่อภาคการผลิตภายในญี่ปุ่น โดยส่งผลกดดันต่ออุปสงค์ภายนอกประเทศและกระทบกับภาคการส่งออกของญี่ปุ่น รวมทั้งคุกคามต่อผลประกอบการภาคบริษัทที่อาจกระทบไปถึงค่าใช้จ่าย และทำให้ยากต่อการที่เศรษฐกิจของญ่ปุ่นจะขยายตัวได้ตามเป้า

· นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย กล่าวภายหลังจากที่พบผู้นำเกาหลีเหนือว่า ทางนายคิม จอง อึน ต้องการยุติโครงการอาวุธนิวเคลีย แต่ก็ต้องการการรันตีถึงความปลอดภัยควบคู่ด้วย


โดยเมื่อวานนี้ นายปูติน ยังระบุว่าอีกว่า จะทำการช่วยเตรียมเรื่องของการรับประกันด้านความมั่นคงระหว่างประเทศ

· ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงหลังจากที่มีการซื้อขายในกรอบ หลังจากช่วงต้นตลาดน้ำมันดิบ Brent พุ่งขึ้นไปแตะ 75 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบการซื้อขายเกือบ 6 เดือน จากความกังวลเกี่ยวกับการที่รัสเซียจะมีการลดการนำเข้าน้ำมันจากยุโรปบางส่วน ขณะที่สหรัฐฯเตรียมใช้บทลงโทษที่เข้มงวดขึ้นต่ออิหร่าน

นอกจากนี้ เมื่อวานนี้สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯในสัปดาห์ที่ผ่านที่ออกมาสูงขึ้นมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ในคืนวันศุกร์ ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยกดดันต่อราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯ



น้ำมันดิบ WTI เมื่อวานนี้ปิดอ่อนตัวลง 68 เซนต์ ที่ 65.21 เหรียญ/บาร์เรล หรือลดลง 1% ไปทำระดับสูงสุดของสัปดาห์ที่ 66.6 เหรียญ ขณะที่น้ำมันดิบ Brent ปิดลดลง 22 เซนต์ ที่ 74.35 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่ช่วงต้นตลาดไปทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 75.60 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่ 31 ต.ค.