• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 24 เมษายน 2562

    24 เมษายน 2562 | Economic News

· ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดรอบ 22 เดือนเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ ท่ามกลางตลาดการเงินที่กลับมาเปิดทำการอีกครั้ง หลังจากช่วงเทศกาล Easter และเหล่าเทรดเดอร์มีการเข้าถือดอลลาร์ก่อนทราบข้อมูลจีดีพีสหรัฐฯวันศุกร์นี้ ซึ่งจะเป็นประมาณการณ์ตัวแรกของจีดีพีไตรมาสแรกของปีนี้



ดัชนีดอลลาร์ปรับขึ้น 0.34% ที่ 97.622 จุด หลังจากพุ่งไป 97.777 จุดเมื่อคืนนี้ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่มิ.ย. ปี 2017 ขณะที่ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงมา 0.33% ที่ 1.1218 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากระหว่างวันมีการร่วงหลุดต่ำกว่า 1.12 ดอลลาร์/ยูโรเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 สัปดาห์



ค่าเงินดอลลาร์เมื่อวานนี้ได้แรงหนุนจากยอดขายบ้านใหม่สหรัฐฯที่ออกมาดีขึ้นในรอบเกือบ 1 ปีครึ่ง ในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสัญญาณบวกตามมาจากข้อมูลยอดค้าปลีก และยอดส่งออกที่ช่วยลดความกังวลต่อภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ



ด้านค่าเงินปอนด์ร่วงลงทำระดับต่ำสุดรอบ 2 เดือน จากความคาดหวังที่ลดลงต่อการเจรจา Brexit ระหว่างนายกฯอังกฤษกับผู้นำพรรคฝ่ายค้าง ส่งผลให้นางเมย์ ยิ่งเผชิญกับแรงกดดันในการให้ลาออกจากตำแหน่ง



· รายงานจาก CNBC ระบุว่า การปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในเวลานี้ เรียกได้ว่า ระดับดอกเบี้ยของเฟดนั้นเป็นระดับสูงสุดในรอบ 11 ปี แม้ว่าเฟดจะมีสัญญาณที่ชัดเจนขึ้นว่าจะมีการชะลอท่าทีคุมเข้มทางการเงิน โดย Effective Fed Funds Rate ของ CNBC ชี้ว่า เป้าหมายการเก็บดอกเบี้ยเงินกู้ของแต่ละธนาคารมีการขยับขึ้นแตะ 2.44% ถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่มี.ค. ปี 2008 และ ณ ปัจจุบันเฟดมีการปรับนโยบายดอกเบี้ยระยะสั้นมาสู่กรอบ 2.25-2.5% และการปรับขึ้นดังกล่าวดูจะเป็นสิ่งที่เฟดนำมาหรือต่อการประชุมในสัปดาห์หน้า

· รายงานจาก CNBC ระบุว่า บรรดานักวิเคราะห์ มองว่า ข้อมูลเศรษฐกิจจีนที่แข็งแกร่งในไตรมาสแรกอาจทำให้บรรดากลุ่มผู้กำหนดนโยบายการเงินชะล่าใจและลดการสนับสนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและนั่นอาจเป็นการดำเนินการที่ผิด ซึ่งโดยภาพรวมเศรษฐกิจจีนแม้จะเริ่มต้นปีในเชิงบวก แต่ภาคการเงินและอสังหาริมทรัพย์ก็ดูจะต้องจับตาต่อความเป็นไปได้ที่จะเกิดความเสี่ยงอย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ นักวิเศรษฐศาสตร์จากสถาบัน Nomura เชื่อว่า น่าจะเห็นการชะลอนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ก็ดูเร็วไปที่ทางการจีนจะถอนนโยบายดังกล่าว แม้ว่าจะมีการจำกัดแนวทางการดำเนินการก็ตาม

· ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นใกล้แตะระดับสูงสุดรอบ 6 เดือน โดยยังฟื้นตัวต่อเนื่องจากการที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ สร้างเซอร์ไพร์สตลาดด้วยมาตรการที่เข้มงวดขึ้นในการให้การส่งออกน้ำมันของอิหร่านเป็นศูนย์

ทีมบริหารของนายทรัมป์ ประกาศเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่าจะไม่ขยายเวลาผ่อนผันต่อบางประเทศในการนำเข้าน้ำมันของอิหร่าน และการตัดสินใจครั้งนี้หมายถึงการห้ามเข้าซื้อน้ำมันและพลังงานใดๆจากทางอิหร่าน มิเช่นนั้น หลัง 1 พ.ค. จะเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรของทางสหรัฐฯ



น้ำมันดิบ WTI ปิดปรับขึ้น 75 เซนต์ ที่ 66.3 เหรียญ/บาร์เรล หรือพุ่งขึ้น 1.1% ทำระดับปิดสูงสุดใหม่ตั้งแต่ 29 ต.ค. หลังช่วงต้นตลากไปทำระดับสูงสุดบริเวณ 66.6 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดระหว่างวันตั้งแต่ 31 ต.ค.



น้ำมันดิบ Brent ปิดปรับขึ้น 53 เซนต์ ที่ 74.57 เหรียญ/บาร์เรล โดยช่วงต้นตลาดไปทำระดับสูงสุดตั้งแต่ 1 พ.ย. ที่ 74.73 เหรียญ/บาร์เรล


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com