• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 29 มีนาคม 2562

    29 มีนาคม 2562 | SET News

· ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดปรับตัวสูงขึ้นท่ามกลางเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่กลับมาเริ่มต้นอีกครั้ง แต่ความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวก็ยังคงเป็นอุปสรรคต่อการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้น โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับขึ้น 91.87 จุด ที่ 25,717.46 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิด +0.4% ที่ 2,815.44 จุด และถือเป็นระดับปิดที่ดีที่สุดของไตรมาสแรกนับตั้งแต่ปี 1998 โดยปรับขึ้นได้ 12.3% สำหรับดัชนี Nasdaq ปิด +0.3% ที่ 7,669.17 จุด



· ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงท่ามกลางความกังวลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจและความไม่แน่นอนในการเจรจาการค้า โดยดัชนี Stoxx 600 ปิด -0.11%



โดยกลุ่มนักลงทุนจะจับตาข่าวความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างตัวแทนสหรัฐฯและจีนในวันนี้ โดยรายงานจาก Reuters ระบุว่า การเจรจามีความคืบหน้าในหัวข้อของการบังคับถ่ายทอดเทคโนโลยี ที่เป็น 1 ในปัญหาสำคัญของความขัดแย้งทางการค้า ในการเจรจารอบนี้มากกว่ารอบไหนๆ



แต่ตลาดหุ้นก็ยังถูกกดดันจากการที่เศรษฐกิจโลกมีภาวะชะลอตัว โดยตลาดพันธบัตรมีสัญญาณชะลอตัว อันจะเห็นได้จากตลาดพันธบัตรของสหรัฐฯ หลังจากที่อัตราผลตอบแทนอายุ 10 ปี ยังคงต่ำกว่าการเคลื่อนไหวของผลตอบแทนระยะสั้น 3 เดือนหรือภาวะผกผันที่เกิดขึ้น

· ตลาดหุ้นเอเชียเปิดบวกในช่วงเช้าวันนี้ ท่ามกลางการเจรจาการค้าระหว่งาสหรัฐฯและจีนที่กลับมาเริ่มต้นอีกครั้ง ณ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน โดยดัชนี Nikkei เปิด +0.9% นำโดยหุ้นรายใหญ่อย่าง Softbank ที่เปิด +1.66% ขณะที่ดัชนี Topix เปิด +0.78%

ส่วนดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้ เปิด +0.32% นำโดยหุ้น SK Hynix และ Hyundai ที่เปิด +0.97% และ +0.84% ตามลำดับ

· นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.70-31.95 บาท/ดอลลาร์ ขณะเมื่อวานนี้เงินบาทช่วงบ่ายปรับตัวแข็งค่าขึ้นจากในช่วงเช้า โดยเริ่มย่อตัวกลับมาจากอ่อนค่าตั้งแต่ช่วงบ่าย ซึ่งอาจเป็นผลจากที่นักลงทุนขายดอลลาร์เพื่อทำกำไร อย่างไรก็ดี ช่วงนี้ยังคงต้องติดตามสถานการณ์การเมืองภายในประเทศ โดยเฉพาะการจับขั้วจัดตั้งรัฐบาล หลังจากที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ประกาศผลการนับคะแนนเลือกตั้ง ส.ส.ครบทั่วประเทศครบ 100% อย่างไม่เป็นทางการ


· คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยผลการนับคะแนนเลือกตั้งทั่วประเทศ


อันดับ 1 พรรคพลังประชารัฐ 8,433,137 คะแนน

อันดับ 2 พรรคเพื่อไทย 7,920,630 คะแนน

อันดับ 3 พรรคอนาคตใหม่ 6,265,950 คะแนน

อันดับ 4 พรรคประชาธิปัตย์ 3,947,726 คะแนน

อันดับ 5 พรรคภูมิใจไทย 3,732,883 คะแนน

จากจำนวนผู้มาใช้สิทธิทั้งสิ้น 38.26 ล้านคน คิดเป็น 74.69% ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 51.23 ล้านคน

· ธปท. คาดเศรษฐกิจไทยปีนี้จะเติบโตได้ 3.8-3.9% หากไม่มีความวุ่นวายทางการเมือง หรือการออกมาชุมนุมประท้วง ส่วนการส่งออกคาดโตได้ 3% รวมถึงการลงทุนภาคเอกชนมีทิศทางดีขึ้นต่อเนื่อง พร้อมมองว่าต้องจับตาดูปัจจัยภายนอกประเทศ ทั้งในเรื่องของสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ รวมถึงรอดูความชัดเจนการเรียกเก็บภาษียานยนต์และชิ้นส่วนจากผู้นำเข้าทั่วโลกของสหรัฐฯ ภายในเดือน พ.ค.นี้ หากเกิดขึ้นจริงก็จะส่งกระทบกับไทยได้


· สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า ใน 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2562 (ต.ค.61 - ก.พ.62) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ จำนวน 986,000 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 75,568 ล้านบาท หรือ 8.3% และสูงกว่าคาดการณ์ 22,476 ล้านบาท หรือ 2.3% โดยการจัดเก็บรายได้ทุกหน่วยงานเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ ยกเว้นการจัดเก็บรายได้ของกรมศุลกากร และการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจที่ต่ำกว่าคาดการณ์เล็กน้อย


 

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com