• GBP – ทิศทางค่าเงินปอนด์กับการลงมติ Brexit

    12 มีนาคม 2562 | Economic News

ปัจจัยที่สำคัญที่สุดในสัปดาห์นี้คือการลงมติ Brexit ในรัฐสภาอังกฤษที่จะเกิดขึ้นในคืนวันอังคาร วันพุธ และอาจรวมถึงวันพฤหัสบดีด้วย แม้จะไม่มีกำหนดเวลาที่ชัดเจนสำหรับการลงมติ แต่เชื่อว่าการลงมติจะเกิดขึ้นในช่วงดึกตามเวลาประเทศไทย ตามหลังการโต้วาทีในรัฐสภาอังกฤษ


สำหรับการลงมติ มีผลลัพธ์ที่เป็นไปได้อยู่ 2 แบบ แบบแรกคือ รัฐสภามีมติสนับสนุนข้อตกลง Brexit ของนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะทำให้รัฐบาลสามารถผลักดันข้อตกลงให้มีผลบังคับใช้ต่อไป และอังกฤษก็จะถอนตัวออกจากอียูในวันที่ 29 มี.ค. ตามกำหนดการเดิม



ผลที่ตามมากับค่าเงินปอนด์อังกฤษคือการที่ค่าเงินแข็งค่าขึ้นทันที 1-2% เนื่องจากผลลัพธ์ของ Brexit เป็นที่ชัดเจน แต่หลังจากนั้นตลาดจะหันไปให้ความสนใจเกี่ยวกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจอังกฤษภายใต้ข้อตกลงดังกล่าวในอนาคตแทน



อย่างไรก็ตาม อีกผลลัพธ์นึง ซึ่งมีความเป็นไปได้มากที่สุด คือการที่รัฐสภาโหวตปฏิเสธร่างข้อตกลง ซึ่งมีรายงานว่าบรรดาคณะรัฐมนตรีได้แสดงการไม่สนับสนุนไปก่อนแล้ว ขณะที่นายกรัฐมนตรีก็ยังคงล้มเหลวที่จะเรียกเสียงสนับสนุน ดังนั้น การลงมติในคืนวันอังคารจึงมีโอกาสสูงที่จะล้มเหลว



ซึ่งหากการลงมติคืนวันอังคารล้มเหลว รัฐสภาจะมีการลงมติอีกครั้งในวันพุธเพื่อตัดสินใจว่าอังกฤษจะยอมถอนตัวออกจากอียูแบบไม่มีข้อตกลง (No Deal) หรือไม่ ซึ่งก่อนหน้านี้ ตัวนายกฯได้เคยกล่าวว่า “การไม่มีข้อตกลงดีกว่าการมีข้อตกลงที่แย่” ซึ่งหากรัฐสภาลงมติเห็นด้วยที่จะให้อังกฤษถอนตัวแบบ No Deal นั่นก็จะเป็นปัญหาใหญ่สำหรับค่าเงินปอนด์



ทางผู้ว่าธนาคารกลางอังกฤษได้เคยออกมาเตือนว่า หากเกิดกรณี No Deal Brexit อาจเห็นค่าเงินปอนด์อ่อนค่าลงมาได้ถึง 25% แม้ว่าจะไม่เกิดขึ้นในทันที แต่ค่าเงินจะค่อยๆทยอยอ่อนค่าลง ขณะที่ในระยะสั้นๆหรือเพียงไม่กี่นาทีหลังทราบผลการลงมติ เรามีโอกาสที่จะเห็นค่าเงินอ่อนค่าลงได้ถึง 2-4%



การถอนตัวออกไปแบบ No Deal ถูกมองว่าเป็นการกระทำที่ไร้ความรับผิดชอบ ซึ่งบรรดารัฐมนตรีในรัฐสภาอังกฤษต่างก็รู้สึกเช่นนี้ ดังนั้นโอกาสที่รัฐบาลจะสนับสนุน No Deal Brexit จึงมีอยู่ต่ำ และหากการโหวตในคืนวันพุธมีผลออกมาว่าไม่เห็นด้วย การลงมติในคืนวันพฤหัสบดีจะเกี่ยวกับการตัดสินว่าจะขอขยายระยะเวลาของมาตรา 50 หรือเลื่อนกำหนดการถอนตัวเดิมในวันที่ 29 มี.ค. นี้ออกไปหรือไม่



สำหรับด้านค่าเงินยูโร นักวิเคราะห์จาก FX Street ยังคงมองเป้าหมายไว้ที่ 1.10 ดอลลาร์/ยูโร เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจยูโรโซน ต่างบ่งชี้ไปยังทิศทางชะลอตัวตามที่อีซีบีแสดงความกังวล ไม่ว่าจะเป็นอัตราการผลิตภาคอุตสาหกรรมเยอรมนีที่ชะลอตัวลง -0.8% ทำให้ยอดเกินดุลการค้าของเยอรมนีเพิ่มสูงขึ้นเกินคาด



นอกจากนี้ เกี่ยวกับนโยบาย TLTRO 3 หรือแผนปล่อยกู้ราคาถูกให้กับภาคธนาคารที่ทางอีซีบีได้ประกาศออกมาในการประชุมครั้งที่ผ่านมา ทางธนาคารได้ระบุว่าเป็นรูปแบบหนึ่งของการผ่อนคลายทางการเงินเพื่อเตรียมพร้อมกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากกรณี Brexit และการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก



ที่มา: FX Street

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com