• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 8 มีนาคม 2562

    8 มีนาคม 2562 | Economic News

· ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ หลังจากที่อีซีบีทำการหั่นคาดการณ์เศรษฐกิจปีนี้ลงสู่ระดับ 1.1% จากเดิมในเดือนธ.ค.ที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 1.7% โดยนายดรากี้ ประธานอีซีบี ระบุว่า ความไม่แน่นอนจากปัจจัยทางการเมือง ตลอดจนนโยบายกีดกันทางการค้า รวมทั้งความผันผวนในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ได้ส่งผลต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ



นอกจากนี้ การที่อังกฤษจะออกจากอียูก็ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน ขณะเดียวกันก็ยังมีความกังวลต่อความเป็นไปได้ที่จะเห็นเศรษฐกิจจีนชะลอตัว และจะกระทบต่อยอดส่งออกของประเทศในยูโรโซน ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดในภูมิภาคโดยเฉพาะภาคการผลิตที่มีการอ่อนตัวของเยอรมนี ซึ่งถือเป็นประเทศเศรษฐกิจหลักของภูมิภาค



สำหรับคาดการณ์เงินเฟ้อ อีซีบีการหั่นคาดการณ์เงินเฟ้อปีนี้ลงสู่ระดับ 1.2% จากคาดการณ์เดิมที่ 1.6% แต่ก็มีมุมมองเชิงบวกว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่จะช่วยให้เงินเฟ้อขยับใกล้เป้าหมายได้มากขึ้นแม้ว่าจะยังต่ำกว่า 2% ก็ตาม



ขณะเดียวกัน ทางอีซีบีมีการเปิดเผยโครงการปล่อยเงินกู้ครั้งใหม่เพื่อช่วยเหลือภาคธนาคารในยูโรโซนสำหรับการปล่อยสินเชื่อ โดยจะมีการปล่อยเงินกู้รีไฟแนนซ์ระยะยาวรายไตรมาสครั้งที่ 3 (TLTRO-III) โดยเริ่มต้นในช่วงเดือนก.ย.นี้ และจะสิ้นสุดในช่วงประมาณมี.ค. ปี 2021 และเงินกู้แต่ละงวดจะมีอายุ 2 ปี และอีซีบีมีการปรับลดกรอบเวลาการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในปีนี้ออกไปก่อน



· เช้านี้ค่าเงินยูโรยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับต่ำสุดรอบ 21 เดือนเมื่อเทียบดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนรอคอยข้อมูลจ้างงานสหรัฐฯคืนนี้ โดยค่าเงินยูโรทรงตัวที่ 1.1197 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากที่เมื่อคืนร่วงลงกว่า 1% ไปทำ Low ที่ระดับ 1.1176 ดอลลาร์/ยูโร ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ มิ.ย. 2017 จุด และส่งผลให้สัปดาห์นี้ดูจะอ่อนค่าไปกว่า 1.5% ในสัปดาห์นี้



· ดัชนีดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้น 0.49% ที่ระดับ 97.35 จุด ทางด้านค่าเงินปอนด์ก็ยังคงร่วงลงแตะ 1.3091 ดอลลาร์/ปอนด์ ท่ามกลางแหล่งข่าวของอังกฤษและอียูที่มองว่ามีโอกาสเห็นการออกจาก Brexit โดยปราศจากข้อตกลงใดๆ



· นางลาเอล เบรนนาร์ด สมาชิกบอร์ดบริหารของเฟด คาดการณ์ว่า เฟดจะมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่น้อยลง หากเศรษฐกิจสหรัฐฯยังคงมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวต่อไปดังเดิม พร้อมระบุว่า ปัจจัยเสี่ยงที่กำลังเกิดต่อเศรษฐกิจ คือการที่บรรดาผู้บริโภคมีการใช้จ่ายที่น้อยลง และวิธีการป้องกันความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจที่ดีที่สุด คือการดำเนินนโยบายดอกเบี้ยอย่างระมัดระวัง



· บริษัท Huawei Technologies Co Ltd ยื่นฟ้องร้องรัฐบาลสหรัฐฯ ในกรณีที่รัฐบาลออกกฏหมายห้ามไม่ให้หน่วยงานรัฐสามารถดำเนินธุรกิจร่วมกับบริษัทที่ใช้อุปกรณ์ของ Huawei เป็นส่วนประกอบสำคัญของระบบได้ โดยการฟ้องร้องถูกยื่นเรื่องขึ้นที่ศาลยุติธรรมในรัฐเท็กซัสของสหรัฐฯ



· ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นท่ามกลางปริมาณการซื้อขายปานกลาง ท่ามกลางตลาดที่ยังมีแรงสนับสนุนจากการที่โอเปกปรับลดภาวะอุปทานน้ำมันในตลาด ขณะที่สหรัฐฯมีการคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันของเวเนซุเอลา และอิหร่าน



น้ำมันดิบ WTI ปิดปรับขึ้น 44 เซนต์ ที่ระดับ 56.66 เหรียญ/บาร์เรล หลังไปทำ High บริเวณ 56.99 เหรียญ/บาร์เรล ทางด้านราคาน้ำมันดิบ Brent ปิดปรับขึ้น 32 เซนต์ ที่ระดับ 66.31 เหรียญ/บาร์เรล หลังช่วงต้นตลาดไปทำระดับสูงสุดที่ 67 เหรียญ/บาร์เรล



· รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศแห่งเยอรมนี ระบุว่าอียูจะจับตาความคืบหน้าเกี่ยวกับประเด็นทางการเมืองของเวเนซุเอลาอย่างใกล้ชิด และยังมีความเป็นไปได้ที่อียูจะเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรเวเนซุเอลาหากเห็นว่าเหมาะสม



· รายงานจากรอยเตอร์ส ระบุว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯเปิดกว้างต่อการเจรจากับทางเกาหลีเหนือเรื่องปลดอาวุธนิวเคลียร์ แม้ว่าจะมีรายงานเกี่ยวกับการที่เกาหลีเหนือจัดกิจกรรมเกี่ยวกับโครงการมิสไซน์ก็ตาม


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com