· ขณะที่ค่าเงินยูโรยังคงมีทิศทางอ่อนค่าท่ามกลางตลาดที่กำลังรอการประชุมของอีซีบีที่จะจัดขึ้นในคืนวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งทางอีซีบียังเผชิญแรงกดดันจากตลาดว่าจะมีวิธีเกื้อหนุนเศรษฐกิจยูโรโซนที่กำลังชะลอตัวลงอย่างไร
ดัชนีดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยประมาณ 0.05% บริเวณ 96.726 จุด หลังขึ้นไปทำระดับสูงสุดที่ 96.816 จุดที่เป็นระดับสูงสุดของวันที่ 19 ก.พ. ในช่วงตลาดที่แล้ว
ค่าเงินยูโรอ่อนค่า 0.1% บริเวณ 1.1326 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากทำรดับต่ำสุดในรอบ 11 วันที่ระดับ 1.1309 ดอลลาร์/ยูโร ไปเมื่อวานนี้
· นักวิเคราะห์จาก Barclays คาดการณ์ว่า จะไม่มีการประกาศสำคัญใดๆออกมาจากการประชุมของอีซีบีวันพฤหัสบดีนี้ แต่ทางอีซีบีน่าจะส่งสัญญาณผ่อนคลายทางนโยบายการเงิน จึงทำให้ค่าเงินยูโรเผชิญกับแรงกดดันในช่วงนี้
ค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับเงินเยนปรับแข็งค่า 0.15% บริเวณ 111.92 เยน/ดอลลาร์ หลังจากที่อ่อนค่าลงเมื่อวานนี้
ด้านค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเรียปรับอ่อนค่าลง 0.2% บริเวณ 0.7077 ดอลลาร์ หลังจากที่แข็งค่าขึ้นได้จากความผ่อนคลายความตึงเครียดสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนเมื่อวานนี้
· รัฐบาลจีนเตรียมออกมาตรการปรับลดอัตราภาษีภายในประเทศ รวมถึงกระตุ้นการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน และขยายการปล่อยเงินกู้ให้กับบริษัทรายย่อย เพื่อเป็นการกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงสู่ระดับต่ำที่สุดในรอบเกือบ 30ปี
ทั้งนี้ ทางรัฐบาลตั้งเป้าหมายการเติบโตของเศรษฐกิจจีนปีนี้ไว้ระหว่าง 6.0 – 6.5% ซึ่งต่ำกว่าการเติบโตของยอด GDP ในปี 2018 ที่ประกาศออกมาที่ 6.6%
นักวิเคราะห์จาก ANZ ระบุว่า การที่รัฐบาลมีการปรับลดเป้าหมายการเติบโตของเศรษฐกิจลง หมายความทางรัฐบาลยอมรับถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจที่น่าจะมีปัจจัยหลักมาจากความตึงเครียดทางการค้าร่วมกับสหรัฐฯ
· นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะเริ่มเปิดฉากสงครามการค้ากับอินเดียเป็นรายต่อไป โดยอาจประกาศแผนยกเลิกสัญญาการค้าแบบให้สิทธิพิเศษกับอินเดีย ที่ทำให้อินเดียมีการส่งออกสู่สหรัฐฯแบบเสรีเป็นมูลค่ากว่า 5.6 พันล้านเหรียญ
ขณะที่ทางอินเดียพยายามบรรเทาผลกระทบที่เกิดจากรายงานข่าวดังกล่าว โดยระบุว่าอินเดียจะหลีกเลี่ยงไม่กล่าวถึงการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ แต่บรรดาฝ่ายค้านในรัฐสภาอินเดียมีแนวโน้มที่จะใช้โอกาสนี้ในการสร้างความอับอายให้กับนายนเรนทระ โมที นายกรัฐมนตรีอินเดีย ก่อนหน้าการเลือกตั้งทั่วไปของอินเดียที่จะเกิดขึ้นภายในปีนี้
ทั้งนี้ นายทรัมป์ได้เคยกล่าวถึงการค้าร่วมกันอินเดียอินเดียว่า สหรัฐฯมียอดขาดดุลทางการค้าร่วมกับอินเดีย เนื่องจากระดับภาษีของอินเดีย ขณะที่การยกเลิกสัญญาการค้าแบบให้สิทธิพิเศษกับอินเดีย อาจจำเป็นต้องใช้เวลาอย่างน้อย 60 วัน หลังจากได้รายงานต่อสภาคคองเกรสและสภาอินเดีย
· ขณะที่ตัวแทนด้านการส่งออกของอินเดียได้ระบุว่า ผลกระทบจากการที่สหรัฐฯจะยกเลิกสัญญาการค้าแบบให้สิทธิพิเศษกับอินเดีย จะเกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัดกับสินค้าในกลุ่มการเกษตร สินค้าทางทะเล และงานประดิษฐ์ที่ส่งออกสู่สหรัฐฯ
· ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง หลังจากที่รัฐบาลจีนประกาศปรับลดเป้าหมายการเติบโตของเศรษฐกิจ ท่ามกลางแนวโน้มความต้องการใช้เชื้อเพลิงที่ลดลง แม้ว่ากลุ่มโอเปกพยายามที่จะปรับลดกำลังการผลิตเพื่อหนุนตลาดก็ตาม
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 0.5% ที่ระดับ 56.31 เหรียญ/บาร์เรล ขณะราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับลง 0.5% เช่นเดียวกัน ที่ระดับ 65.37 เหรียญ/บาร์เรล