· ในกราฟราย 4 ช.ม. จะเห็นได้ว่า ค่าเงิน EUR/USD เริ่มที่จะมีแรงหนุนในทิศทางขาขึ้น หลังจากที่ผ่านแนวต้าน 1.1325 และเส้นค่าเฉลี่ยราย 100 วันมาได้
อย่างไรก็ตาม ทิศทางขาขึ้นถูกจำกัดโดยแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1.1420 และยังมีเส้นแนวต้านของเทรนขาลงระยะยาวที่บริเวณ 1.1408 ในกราฟเดียวกันอีกด้วย
โดยหลังจากที่ค่าเงินไม่สามารถผ่านเหนือแนวต้านไปได้ จึงเริ่มเคลื่อนไหวแบบสะสมพลังต่ำกว่าระดับ 1.1420 โดยมีแนวรับที่ 1.1340 และ 1.1325 ในทางกลับกัน หากค่าเงินปรับขึ้นเหนือระดับ 1.1420 ได้สำเร็จ จะเปิดโอกาสให้ค่าเงินขึ้นต่อได้ถึงบริเวณ 1.1450 และ 1.1500
· Goldman Sachs คาดการณ์ว่า การพบกันระหว่างผู้นำสหรัฐฯและจีนในช่วงปลายเดือนนี้ ทั้งสองประเทศน่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงด้านการค้าบางอย่างได้ แต่ภาษีน่าจะยังคงถูกคงเอาไว้อย่างน้อยจนถึงปี 2020
สำหรับแผนการดำเนินการเจรจาระหว่างทั้ง 2 ประเทศ Goldman Sachs คาดการณ์ไว้ 3 ขั้นตอนด้วยกัน คือ
ขั้นตอนแรก ตัวแทนการเจรจาของทั้งสองฝ่ายมีแนวโน้มสูงที่จะจัดการเจรจาขึ้นในช่วงสัปดาห์ต่อๆไป เพื่อพยายามหาความเข้าใจและจุดยืนร่วมกัน
อันดับต่อไป หากการเจรจาในขั้นแรกเป็นไปอย่างราบรื่น ก็น่าจะลงเอยด้วยพบกันระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ภายในช่วงปลายเดือน มี.ค. นี้ ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง ทาง Goldman Sachs คาดการณ์โอกาส 75% ที่จะมีการประกาศเกี่ยวกับข้อตกลงทางการค้าขึ้น
ขั้นตอนต่อไป คือการผลักดันให้ข้อตกลงดังกล่าวมีผลบังคับใช้จริง ซึ่งการคงอัตราภาษีเอาไว้น่าจะสร้างความสับสนให้กับตลาดได้เป็นอย่างมาก
· นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุว่า เหตุผลที่ต้องการจำกัดการซ้อมรบร่วมกันระหว่างสหรับนและเกาหลีใต้ก็เพื่อประหยัดงบประมาณเป็นมูลค่าได้กว่าหลายร้อยล้านเหรียญ และอาจช่วยลดความตึงเครียดร่วมกันเกาหลีเหนือได้อีกด้วย หลังจากที่การเจรจาร่วมกับผู้นำเกาหลีเหนือจบลงโดยไม่มีข้อตกลง และการที่กระทรวงกระทรวงได้ออกมาประกาศว่าจะระงับการซ้อมรบใหญ่ระหว่างสหรัฐฯ-เกาหลีใต้ที่จะเกิดขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิ
· รัฐบาลสหรัฐฯกำลังตรวจสอบว่า เครื่องบินรบที่ทางปากีสถานใช้โจมตีและทำลายเครื่องบินรบของอินเดีย จะเป็นเครื่องบินรบรุ่น F-16 ที่ทางสหรัฐฯเป็นผู้ผลิตหรือไม่ เนื่องจากอาจเป็นการละเมิดข้อตกลงร่วมกับสหรัฐฯได้ ขณะที่ความขัดแย้งระหว่างปากีสถานและอินเดียดูจะเริ่มผ่อนคลายลง
โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดเหตุความขัดแย้งระหว่างปากีสถานและอินเดียขึ้นในพื้นที่แคชเมียร์ โดยทางปากีสถานได้ทำลายเครื่องบินรบของอินเดียพร้อมจับกุมตัวนักบินเมื่อวันพุธ รวมถึงให้การปฏิเสธว่าทางปากีสถานไม่ใช้เครื่องบินรบรุ่น F-16 และเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทางปากีสถานได้ส่งตัวนักบินของอินเดียกลับประเทศ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความสงบสุข ทำให้ความขัดแย้งของทั้ง 2 ประเทศดูจะผ่อนคลายลงไป แม้ทั้งสองฝ่ายยังคงอยู่ในภาวะระมัดระวังก็ตาม
· รัฐมนตรีกระทรวงการต่างเทศแห่งรัสเซีย ระบุว่าทางรัสเซียพร้อมที่จะเข้าร่วมการเจรจากับสหรัฐฯ เกี่ยวกับปัญหาทางการเมืองของประเทศเวเนซุเอลา โดยในการพูดคุยทางโทรศัพท์ระหว่างรัฐมนตรีของทั้ง 2 ประเทศที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 มี.ค. ที่ผ่านมา หัวข้อหลักในการสนทนาคือประเด็นของเวเนซุเอลา
· นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้กล่าวโจมตีเฟดอีกครั้งเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยระบุว่า มาตรการคุมเข้มทางการเงินของเฟดเป็นปัจจัยที่ทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่ามากเกินไป และกดดันความสามารถในการแข่งขันทางการค้าของสหรัฐฯ
ทางด้านนายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด ได้เคยกล่าวเอาไว้ว่า เฟดจะไม่ถูกโน้มน้ามด้วยกระแสทางการเมือง และตัวนายโพเวลล์เองก็จะไม่ยอมลาออกจากตำแหน่ง แม้นายทรัมป์จะเป็นผู้เรียกร้องด้วยตัวเองก็ตาม ซึ่งนายทรัมป์เคยมีการหารือร่วมกับทีมบริหารของตนเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะสั่งปลดนายโพเวลล์หากเฟดทำการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง เมื่อช่วงกลางเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา
· รายงานจาก Bloomberg ระบุว่า ทางสหรัฐฯและจีนกำลังใกล้ที่จะสามารถบรรลุข้อตกลงที่จะมายกเลิกภาษีเกือบหรือทั้งหมดที่แต่ละฝ่ายที่การปรับขึ้นต่อกัน ตราบใดที่จีนยินยอมที่จะดำเนินมาตรการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงเข้าซื้อสินค้าจากสหรัฐฯเป็นปริมาณมากขึ้น
ขณะที่ทางจีนระบุว่า การที่สหรัฐฯยินยอมที่จะยกเลิกนโยบายภาษีเป็นมูลค่ากว่า 2 แสนล้านเหรียญ จะช่วยให้ทั้งสองฝ่ายสามารถสรุปข้อตกลงทางการค้าได้ในที่สุด
อีกประเด็นหนึ่งที่ยังคงยืดเยื้อในการเจรจาการค้า คือการยกเลิกนโยบายภาษีจะเป็นแบบมีผลทันที หรือทยอยยกเลิกเป็นช่วงระยะเวลาหนึ่ง เพื่อให้สหรัฐฯสามารถจับตาได้ว่าจีนมีการดำเนินการตามข้อตกลงจริงหรือไม่ ซึ่งมีสัญญาณว่าทางสหรัฐฯต้องการใช้ภาษีเป็นปัจจัยกดดันให้ทางจีนยอมดำเนินการตามข้อตกลง และจะยกเลิกภาษีทั้งหมดต่อเมื่อมั่นใจแล้วว่าจีนดำเนินการตามข้อตกลงทุกอย่าง
· ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางแรงหนุนจากการปรับลดกำลังผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปก และรายงานที่ว่าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนใกล้ที่จะบรรลุข้อตกลงได้ในที่สุด