MTS Help Center

· ค่าเงินเยนในตลาดโตเกียวเช้านี้ทรงตัวระหว่าง 110.52-110.58 เยน/ดอลลาร์ โดยภาพรวมเชิงเทคนิคกราฟราย 4 ชม. มองว่าราคาน่าจะยังเคลื่อนไหวในกรอบเป็นลักษณะค่อยๆปรับตัวลง หลังจากที่เมื่อวานนี้ไปทำระดับแข็งค่ามากที่สุดบริเวณ 110.40 เยน/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับแถวเส้นค่าเฉลี่ย 100 SMA ดังนั้น หากราคา Break ต่ำกว่าระดับ 110.40 เยน/ดอลลาร์ ลงมา มีโอกาสเห็นราคากลับมาแถว 110.00 เยน/ ดอลลาร์

แนวรับ: 110.40, 110.10 และ 109.80 ตามลำดับ

แนวต้าน: 110.90, 111.20 และ 111.45 ตามลำดับ

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 2 ปีแตะระดับต่ำสุดในรอบ 16 วัน ในช่วงต้นตลาดวันนี้ ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการที่เฟดผ่อนคลายนโยบายทางการเงินและข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ออกมาอ่อนแอ

โดยล่าสุดเคลื่อนไหวแถวระดับ 2.48% หลังจากลงไปแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 11 ก.พ.ที่บริเวณ 2.46% ซึ่งถูกกดดันจากข้อมูลสร้างบ้านใหม่สหรัฐฯประจำเดือนธ.ค.ที่ออกมาลดลงที่ระดับ 11.2% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี เคลื่อนไหวแถวระดับ 2.64%

นออกจากนี้ ยังมีแรงกดดันจากถ้อยแถลงของนายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด ที่กล่าวเน้นย้ำว่า จะอดทนต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดต่อไป

ทั้งนี้ ตลาดจับตาบริเวณแนวรับที่ระดับ 2.44% หากหลุดระดับดังกล่าว อัตราพันธบัตรรัฐบาลอาจร่วงลงไปใกล้ระดับ 2.36% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา

· นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าบีโอเจ ระบุว่า โอกาสที่อัตราเงินเฟ้อจะสามารถเติบโตถึงระดับเป้าหมายของบีโอเจภายในปีงบประมาณ 2021 มีอยู่ในระดับต่ำ

นอกจากนี้ นายคุโรดะยังกล่าวต่อรัฐสภา โดยระบุว่า การเข้าซื้อกองทุน ETF ของบีโอเจ มีความสำคัญเนื่องจากเป็นหนึ่งในแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของบีโอเจ

· นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โพสทวิตเตอร์ โดยระบุว่า เกาหลีเหนือมีความแววที่จะสามารถเจริญรุ่งเรืองได้แบบประเทศเวียดนาม หากนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ยอมที่จะยกเลิกการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์

ขณะที่ Morgan Stanley ประเมินว่า หากเกาหลีเหนือเจริญรอยตามประเทศเวียดนาม ด้วยการทยอยเปิดประเทศรับการลงทุนจากต่างชาติ เกาหลีเหนือจะมีเม็ดเงินลงทุนเข้ามาปีละ 9 พันล้านเหรียญ

· รายงานจาก Reuters ระบุว่า เครื่องบินรบสัญชาติอินเดียตกในพื้นที่แคชเมียร์วันนี้ ส่งผลให้นักบิน 2 นาย และพลเมืองอีก 1 คน เสียชีวิต ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างอินเดียและปากีสถานที่ขยายตัวรุนแรงขึ้น แม้รายละเอียดของการตกครั้งนี้ยังไม่ได้รับการเปิดเผยออกมาก็ตาม

ทั้งนี้ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา รัฐบาลอินเดียได้ระบุว่า มีคำสั่งให้เครื่องบินรบของตนทำการโจมตีค่ายของกลุ่มหัวรุนแรงในพื้นที่ปากีสถาน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนหลายคน ขณะที่ความขัดแย้งของทั้ง 2 ประเทศขยายตัวรุนแรงขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ ทางด้านปากีสถานปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับความเสียหาย แต่ได้เตือนอินเดียว่า จะมีผลของการกระทำตามมาในภายหลัง

ความขัดแย้งของทั้ง 2 ประเทศเริ่มก่อตัวขึ้นนับตั้งแต่เหตุคาร์บอมบ์ในพื้นที่แคชเมียร์ฝั่งอินเดีย ที่เป็นฝีมือของกลุ่มหัวรุนแรงสังกัดปากีสถาน ส่งผลให้มีชาวอินเดียเสียชีวิตอย่างน้อย 40 ราย ก่อนที่ความขัดแย้งจะขยายตัวขึ้นอย่างรุนแรงหลังจากเหตุการณ์โจมตีทางอากาศเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

· รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของจีน เรียกร้องให้อินเดียและปากีสถานต่างยับยั้งชั่งใจไม่ทำให้ความขัดแย้งขยายตัวไปมากกว่านี้ หลังมีรายงานข่าวว่า ปากีสถานได้ยิงสกัดเครื่องบินรบของอินเดียในวันนี้ หลังจากที่เมื่อวาน เครื่องบินรบของอินเดียได้ทำการโจมตีในพื้นที่ปากีสถานเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1971

· บทวิเคราะห์ภาพรวมระยะยาวของราคาน้ำมัน WTI ระบุว่า ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้ ได้ย่อตัวลงมากว้า 2.7% จากระดับเปิดตลาดสัปดาห์นี้ และราคาก็กำลังทดสอบแนบรับสำคัญ โดยระดับสำคัญของราคาที่ประเมินเอาไว้ จะมีดังต่อไปนี้

แนวรับระยะสั้นมองไว้ที่ 55.21/53 เหรียญ/บาร์เรล หากราคา Break หรือปิดต่ำกว่าระดับนี้ จะเปิดโอกาสให้ราคาย่อตัวลงไปถึงบริเวณ 52.23 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งเป็นเส้นค่าเฉลี่ยราย 200 สัปดาห์ และจะมีแนวรับสำคัญถัดมาที่ระดับ 48.24เหรียญ/บาร์เรล

สำหรับแนวต้านระยะสั้น มองไว้ที่ 57.14 เหรียญ/บาร์เรล ตามมาด้วยบริเวณ 59.61 – 60.06 เหรียญ/บาร์เรล ที่เป็นเส้น 50% retracement จากเทรนขาลงเดือน ต.ค. ซึ่งหากราคาสัปดาห์นี้ปิดเหนือบริเวณนี้ได้ ก็จะมีเป้าหมายต่อไปที่บริเวณ63.13/68 เหรียญ/บาร์เรล

· ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น หลังมีรายงานว่าปริมาณสต็อกน้ำมันสหรัฐฯปรับตัวลดลง ประกอบกับมาตรการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกที่ยังช่วยหนุนราคาน้ำมันอยู่ แม้จะเผชิญแรงกดดันจากประธานาธิบดีสหรัฐฯก็ตาม

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับสูงขึ้น 0.7% บริวเณ 55.89 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับสูงขึ้น 0.4% บริเวณ 65.48 เหรียญ/บาร์เรล