MTS Help Center

·         ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางสัญญาณเชิงบวกจากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ที่กลับมากดดันค่าเงินดอลลาร์ ขณะที่กระแสคาดการณ์ว่าเฟดอาจกลับมาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ในปีนี้ ยังคงกดดันไม่ให้ราคาทองคำปรับสูงขึ้นไปมากกว่านี้

ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นได้ 0.1% บริเวณ 1,324.59 เหรียญ โดยราคามีแนวโน้มปิดตลาดในแดนบวกได้ติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 2 อีกประมาณ +0.3% โดยราคามีการขึ้นไปทำระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือนในคืนที่ผ่านมา ก่อนที่ราคาจะปรับลดลง

ด้านราคาสัญญาทองคำ COMEX ค่อนข้างทรงตัวที่บริเวณ 1,327.7 เหรียญ

·         นักวิเคราะห์จาก IG Markets ระบุว่า การเคลื่อนไหวราคาทองคำในระยะสั้นจะขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวของค่าเงิน โดยเฉพาะกับค่าเงินดอลลาร์ แต่ราคาทองคำในระยะที่ยาวขึ้นมา การเคลื่อนไหวจะขึ้นอยู่กับความเคลื่อนไหวทางการเมืองและอัตราผลตอบแทนพันธบัตร โดยราคาทองคำในช่วงนี้สามารถปรับตัวสูงขึ้นมาได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากความตึงเครียดทางการเมืองทั่วโลก

ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ในภาพรวมรายสัปดาห์นี้ มีแนวโน้มปิดตลาดอ่อนค่าลง 0.3% ซึ่งจะเป็นอัตราอ่อนค่ารายสัปดาห์ที่มากที่สุดในรอบ 1 เดือน

ราคาทองคำเมื่อคืนวันพุธ มีการทำระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือนที่ระดับ 1,346.73 เหรียญ แต่รายงานการประชุมของเฟดที่มีการส่งญญาณถึงความเป็นไปได้ที่เฟดอาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้อย่าง 1 ครั้งปีนี้ ได้กดดันให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงมาจากระดับสูงสุด

·         นักวิเคราะห์จาก Phillip Futures ระบุว่า สัญญาณเชิงผ่อนคลายทางการเงินจากเฟด ได้ช่วยให้ตลาดมีความเชื่อมั่นกลับเข้ามาในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น ขณะที่กดดันปริมาณต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย หรือสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนต่ำ

·         ตลาดจะจับตาความคืบหน้าของการเจรจาการค้าระหว่างตัวแทนจากสหรัฐฯและจีนในวันนี้ ในขณะที่ทั้ง 2 ประเทศจะพยายามร่วมกันสรุปข้อตกลงทางการค้าให้ได้ ท่ามกลางเวลาที่เหลือไม่ถึง 1 สัปดาห์ ก่อนจะถึงเดดไลน์ในวันที่ 1 มี.ค.

·         บรรดาตัวแทนการเจรจาการค้าจากสหรัฐฯและจีน เริ่มมีการร่างเค้าโครงของข้อตกลงการค้าที่จะเข้ามายุติข้อพิพาททางการค้าของทั้ง 2 ประเทศ ในการเจรจาระดับสูง ณ กรุงวอชิงตัน ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นความคืบหน้าครั้งสำคัญล่าสุดของการเจรจา

·         อีกปัจจัยที่บ่งชี้ถึงปริมาณความต้องการทองคำของตลาด คือการที่กองทุน SPDR ที่เป็นกองทุนทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีการลดการถือครองทองคำลงอีก 0.63% สู่ระดับ 789.51 ตัน ไปเมื่อคืนนี้ 

จากกราฟราย ชม. จะเห็นได้ว่าเส้น RSI ราย 14 ชม. ได้เคลื่อนผ่านเส้นแนวต้านเทรนขาลง จึงประเมินว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะกลับขึ้นไปแถว 1,330 เหรียญอีกครั้ง แต่โอกาสที่จะขึ้นต่อไปจากระดับดังกล่าวได้ ดูค่อนข้างริบหรี่ เนื่องจากราคาเริ่มมีสัญญาณของการกลับตัวในเป็นทิศทางขาลงในกราฟระยะยาว

ราคาทองคำได้ปรับตัวลงถึง 1.1% ในตลาดเมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นอัตราปรับตัวลงที่มากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย. ปีก่อน ส่งผลให้เส้น RSI ราย 14 วันกลับเข้าสู่ทิศทางขาลงโดยสมบูรณ์ อย่างไรก็ตาม ราคาจะยังไม่กลับตัวเป็นขาลงหากวันนี้ปิดเหนือระดับ 1,330 เหรียญ ที่เป็นเส้นค่าเฉลี่ยราย 5 วันได้

แนวต้าน: 1353.49, 1347.48, 1335.71

แนวรับ: 1317.93, 1311.93, 1300.15

·         ด้านราคาพลาเดียมปรับตัวสูงขึ้น 0.3% แถว 1,473.00 เหรียญ หลังจากยืนเหนือระดับ 1,500 เหรียญได้เป็นครั้งแรกช่วงหนึ่งของตลาดวันที่ 20 ก.พ. สำหรับภาพรวมรายสัปดาห์ ราคาพลาเดียมมีแนวโน้มปิดตลาดในแดนบวกได้สัปดาห์ที่ 3 โดยอาจปรับขึ้นอีก 3%

·         ด้านราคาแพลทินั่มปรับสูงขึ้น 0.6% แถว 824 เหรียญ และมีแนวโน้มปิดตลาดสัปดาห์นี้ด้วยผลประกอบการที่ดีที่สุดนับตั้งแต่เดือน ม.ค.

·         ขณะที่ราคาซิลเวอร์ทรงตัวแถว 15.81 เหรียญ และมีแนวโน้มปิดตลาดในแดนลบติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 2