• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2562

    20 กุมภาพันธ์ 2562 | Economic News

·         ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ ตามการอ่อนตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่มีท่าทีระมัดระวังก่อนทราบรายงานประชุมเฟด

ค่าเงินดอลลาร์ถูกกดดันจากความต้องการในฐานะ Safe-Haven ที่ลดน้อยลงไป จากมุมมองเชิงบวกในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ที่อาจนำมาซึ่งแนวทางการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งร่วมกันได้

ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลงไปแตะ 96.495 จุด หลังจากที่อ่อนตัวลงไปประมาณ 0.4% เมื่อคืนนี้

·         นักกลยุทธ์ค่าเงินอาวุโสจาก Daiwa Securities กล่าววว่า ค่าเงินดอลลาร์ถูกกดดันจากการปรับลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ และความเป็นไปได้ที่จะเห็นรายงานประชุมเฟดสะท้อนถึงท่าทีที่อ่อนลงต่อแนวทางการดำเนินนโยบายการเงิน

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปีปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดรอบ 11 วันทำการ ก่อนทราบรายงานประชุมเฟดคืนนี้

·         ค่าเงินเยนทรงตัวที่ 110.61 เยน/ดอลลาร์ โดยไม่ห่างจากระดับอ่อนค่ามากที่สุดวานนี้ที่ 110.825 เยน/ดอลลาร์ อันเป็นผลจากการที่ นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการบีโอเจ กล่าวว่า บีโอเจพร้อมจะใช้มาตรการเสริมหากค่าเงินเยนส่งผลกระทบเพิ่มขึ้นต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น

·         ค่าเงินยูโรทรงตัวที่ 1.1341 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากที่ปรับแข็งค่ามา 0.25% เมื่อวานนี้  โดยภาพรวมเคลื่อนไหวใกล้ระดับแข็งค่ามากที่สุดในรอบ 2สัปดาห์ที่ 1.1358 ดอลลาร์/ยูโร

·         ค่าเงินหยวนแข็งค่าขึ้นแตะ 6.74 หยวน/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับแข็งค่ามากที่สุดนับตั้งแต่ ก.พ. โดยได้รับอานิสงส์จากรายงานของ Bloomberg ที่บ่งชี้ว่า สหรัฐฯมีการร้องขอให้จีนไม่ทำการปรับลดค่าเงินหยวนเพิ่มเติมซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในข้อตกลงทางการค้า

·         ค่าเงินปอนด์วันนี้ค่อนข้างทรงตัวและมีสัญญาณอ่อนตัวลงเล็กน้อยจากระดับ 1.3000 ดอลลาร์/ปอนด์ หลังจากที่ปรับแข็งค่าขึ้นมาได้ประมาณ 150 ปิปส์เมื่อวานนี้ โดยค่าเงินปอนด์ดูจะรอคอยรายละเอียดการประชุมระหว่าง นางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ และนายฌ็อง คล็อด จุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการอียู

อย่างไรก็ดี ค่าเงินปอนด์ยังยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย Fibonacci Retracement 61.8% ที่ 1.3217 / 1.2772 ดอลลาร์/ปอนด์ และดูเหมือนในกราฟราย 4 ชม. จะมีสัญญาณ Overbought  ขณะที่ RSI ยังคงมีการปรับตัวลงจากเส้น Bullish ที่เกิดขึ้น และขณะเดียวกันราคาก็ยังยืนเหนือเส้น SMA ราย 20 ได้ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้เป็นการปรับตัวขึ้นก่อนทราบผลการประชุมดังกล่าว และความไม่แน่นอนของการเจรจาอาจนำมาให้ค่าเงินปอนด์อ่อนค่าลงมาจากระดับแข็งค่าอีกครั้ง

แนวรับ: 1.3050,  1.3010 และ 1.2970

แนวต้าน: 1.3090,  1.3140 และ 1.3185

·         ค่าเงินรูเบิลรัสเซียอ่อนค่าลงในช่วงต้นตลาดวันนี้ แต่ก็ยังทรงตัวใกล้ระดับแข็งค่ามากที่สุดรอบ 1 สัปดาห์ ท่ามกลางการรอคอยถ้อยแถลงของ นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ซึ่งเป็นการแถลงรายงานประจำปีต่อรัฐสภาฯ  โดยค่าเงินรูเบิลอ่อนค่าลงมา 0.1% ที่ 65.83 รูเบิล/ดอลลาร์ หลังจากแข็งค่าไปทำระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 13 ก.พ. ที่ 65.74 รูเบิล/ดอลลาร์

อย่างไรก็ดี คาดว่า ถ้อยแถลงของนายปูติน น่าจะกล่าวถึงภาพรวมวงกว้างทั้งภายในและภายนอกประเทศ

·         ธนาคารกลางจีน ได้ออกมาตรการ "Central Bank Bill Swap (CBS) เป็นครั้งแรกในวันนี้ ด้วยวงเงิน 1.5 พันล้านหยวน (ราว 222 ล้านเหรียญ) เพื่อสนับสนุนให้ธนาคารพาณิชย์ออกหุ้นกู้ที่ไม่กำหนดวันไถ่ถอน (perpetual bond)

โดยนาย Pan Gongsheng รองผู้ว่าการธนาคารกลางจีน  กล่าวว่า จีนจะเตรียมเครื่องมือสนับสนุน ประกอบไปด้วยการขยายแนวทางให้กับนักลงทุนในตลาดพันธบัตร และเพื่อช่วยกระตุ้นการปล่อยสินเชื่อในระบบเศรษฐกิจ

·         สัญญายางพารา TOCOM ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ปรับตัวขึ้นทำระดับสูงสุดรอบ 4 สัปดาห์ จากความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯและจีนจะบรรลุข้อตกลงทางการค้าร่วมกัน ขณะเดียวกันตลาดหุ้นญี่ปุ่นมีการฟื้นตัว รวมทั้งราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นได้ช่วยหนุนความต้องการสินทรัพย์เสี่ยง

สัญญา Rubber TOCOM ส่งมอบเดือน ก.ค. ปรับขึ้น 4.5 เยน คิดเป็น +2.5% ที่ 187 เยน/กก. หรือ 1.69 เหรียญ ถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 22 ม.ค.  ขณะที่สัญญา Rubber Shanghai ส่งมอบเดือนพ.ค. ปรับขึ้น 175 หยวน ที่ระดับ 11,815 หยวน/ตัน หรือคิดเป็น 1,7476 เหรียญ

นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์จาก Fujitomi กล่าวว่า การพุ่งขึ้นของราคายางในตลาดมาจากการปรับขึ้นของดัชนีนิกเกอิ และราคายางในไทยที่หนุนให้ราคายางในตลาด TOCOM ปรับขึ้นตาม

·         นายปีเตอร์ แพร็ท หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากอีซีบี ระบุว่า ในเร็วๆนี้อีซีบีจะมีการหารือว่าจะมีการเตรียมมาตรการเงินกู้แก่ภาคธนาคารรอบใหม่หรือไม่ แต่อาจไม่ได้เป็นการตัดสินใจในทันที เพียงแต่จะหยิบยกประเด็นดังกล่าวเข้าสู่สภาในเร็วๆนี้

·         นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงความเชื่อมั่นว่า เขาจะสามารถจัดการโน้มน้าวให้สมาชิกที่ไม่เห็นด้วยทั้ง 16 เขตของสหรัฐฯเห็นด้วยแก่การประกาศภาวะฉุกเฉินสำหรับงบก่อสร้างกำแพงพรมแดนเม็กซิโก เพราะในท้ายที่สุด เขาก็ยังมั่นใจว่าทุกอย่างจะประสบความสำเร็จด้วยเสียงสนับสนุนจากบรรดาสมาชิกทั้งหลาย

·         ตัวแทนระดับสูงของรัฐบาลจีนที่เดินทางเยือนสหรัฐฯเพื่อเจรจากันต่อ ระบุว่า สหรัฐฯควรเคารพต่อความถูกต้องของจีนในการพัฒนาที่จะนำไปสู่ผลสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการย้ำว่า จีนเปิดประเทศแก่เพื่อบ้านทั่วโลก ซึ่งทั่วโลกก็ควรเปิดกว้างเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังคงมีการเริ่มเต้นกลับมาเจรจากันรอบใหม่อีกครั้งในสัปดาห์นี้ เพื่อแก้ไขปัญหาข้อพิพาททางการค้าระหว่างกัน

·         นางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษจะทำการเดินทางเยือนอียูในวันนี้ และคาดหวังว่า นายฌ็อง คล็อด จุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการอียูน่าจะเห็นชอบมากขึ้นต่อแนวทางการแก้ไขข้อตกลง Brexit ของเธอ

·         ราคาน้ำมันปรับขึ้นแถวระดับสูงสุดของปีนี้ โดยยังได้รับอานิสงส์จากการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อย่งาโอเปก รวมทั้งการที่สหรัฐฯคว่ำบาตรอิหร่านและเวเนซุเอลาด้วย แต่ข้อมูลกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐฯ และกระแสคาดการณ์ที่ว่าเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวลงก็ดูจะเป็นปัจจัยจำกัดการเคลื่อนไหวของราคาอยุ่บ้าง

น้ำมันดิบ WTI แตะระดับสูงสุดของปีนี้ได้ที่บริเวณ 56.39 เหรียญ/บาร์เรล หรือปรับเพิ่มขึ้น 30 เซนต์ คิดเป็น +0.5% เมื่อเทียบจากระดับปิดก่อนหน้า ทางด้านน้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้น 13 เซนต์ คิดเป็น +0.2% ที่ระดับ 66.58 เหรียญ/บาร์เรล และยังเคลื่อนไหวไม่ห่างจากระดับสูงสุดของปีที่ 66.83เหรียญ/บาร์เรล ที่ทำไว้เมื่อวานนี้

·         ซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นประเทศสมาชิกกลุ่มโอเปก และผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ คาดว่าจะมีการปรับลดการขนส่งน้ำมันดิบ WTI ในเอเชียช่วงเดือนมี.ค.นี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพยายามสร้างความตึงตัวให้แก่ตลาดน้ำมัน  ขณะที่ประเทศสมาชิกนอกโอเปก อย่าง รัสเซีย ก็เห็นพ้องที่ปรับลดกำลังการผลิตลง 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน เพื่อช่วยให้อุปทานน้ำมันในตลาดปรับตัวลง

·         BNP Paribas คาดหวังว่า การปรับลดกำลังการผลิตของซาอุดิอาระเบีย จะทำให้กำลังการผลิตในช่วง เดือนแรกของปีนี้ มียอดน้ำมันน้อยกว่า10.31 ล้านบาร์เรล/วัน ตามที่สมาชิกกลุ่มโอเปกและนอกกลุ่มเห็นพ้องกันในการประชุมเมื่อ ธ.ค. และการปรับลดดังกล่าวส่งผลให้ BNP Paribas คาดว่าจะเห็นราคาฟื้นตัวต่อเนื่องในช่วง Q3 ของปีนี้ โดยที่น้ำมันดิบ Brent จะมีราคาเฉลี่ยที่ 73 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ WTI จะมีราคาเฉลี่ย 66เหรียญ/บาร์เรล

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com