• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 16 มกราคม 2562

    16 มกราคม 2562 | Economic News

·         ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโรหลังจากที่ข้อมูลเศรษฐกิจเยอรมนีสะท้อนถึงภาวะชะลอตัวในปี 2018 ขณะที่ค่าเงินปอนด์อ่อนค่าลงก่อนทราบผลการลงมติข้อตกลง Brexit โดยข้อมูลจีดีพีเยอรมนีหดตัวลงแตะ 1.5% ในปี 2018 ซึ่งถือเป็นอัตราการชะลอตัวมากที่สุดในรอบ 5 ปี ขณะที่กลุ่มนักลงทุนที่กังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจโลก ท่ามกลางข้อขัดแย้งทางการค้าอันเป็นผลมาจากนโยบายกีดกันทางการค้าของประธานาธิบดีสหรัฐฯ

ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงไปทำระดับอ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 5 วันทำการที่ 1.141 ดอลลาร์/ยูโรหลังจากที่ทราบข้อมูลดังกล่าว ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ปรับขึ้นมาที่ 96.039 จุด


ค่าเงินปอนด์แข็งค่าจากที่ร่วงลงหนัก ท่ามกลางเหล่าเทรดเดอร์ที่ตอบรับกับการลงมติของรัฐสภาอังกฤษที่อาจทำให้ต้องเลื่อนข้อตกลง Brexit ออกไปได้ โดยค่าเงินปอนด์ขยับขึ้นมาที่ 1.2868 ดอลลาร์ แต่หลังจากนั้นค่าเงินก็ร่วงลงกว่า 1% ทันทีหลังทราบผลโหวต ขณะที่เหล่าเทรดเดอร์เกิดกระแสคาดการณ์ถึงความเป็นไปได้ต่อภาวะ Hard Brexit ที่กำลังปรับลดลง


·         ความล้มเหลวของการลงมติข้อตกลง Brexit ของรัฐบาลอังกฤษยิ่งสร้างความไม่แน่นอนทางการเมืองเพิ่มขึ้น โดยร่างข้อกฎหมายของนางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษถูกปฏิเสธด้วยคะแนนโหวต 230 เสียงต่อเสียงสนับสนุน 202 เสียง ซึ่งเป็นคะแนนเสียงต่อต้านมากที่สุดเป็นประวัติการณ์


สิ่งที่ตามมาคือรัฐบาลอังกฤษมีเวลาเพียง 3 วันทำการในการหาแผนข้อตกลงฉบับใหม่ ขณะที่รัฐสภาอังกฤษไม่ได้กำหนดวันให้เกิดการลงมติใหม่ในวันศุกร์นี้ ซึ่งนั่นหมายความว่าแผนฉบับใหม่จะต้องผ่านมติเห็นชอบจากทางอียู และนำเสนอต่อรัฐสภาอังกฤษให้ได้ภายในวันจันทร์ที่ 21 ม.ค.


 ขณะที่ นายเจเรมี คอร์บลิน หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านพรรคแรงงานอังกฤษมีการกำหนดการลงมติไม่ไว้วางใจต่อรัฐบาลอังกฤษในวันนี้ประมาณตี 1 ตามเวลาไทย หลังจากที่ทางรัฐสภาไม่เห็นชอบต่อข้อตกลง Brexit ของนางเมย์


ทั้งนี้ CNBC ระบุว่า ผลลัพธ์จากการโหวตไม่เห็นชอบเมื่อวานอาจนำมาซึ่ง 6 ผลลัพธ์ ดังต่อไปนี้



1. การเจรจาครั้งใหม่
นายกฯอังกฤษอาจนำข้อตกลง 
Brexit ไปเจรจาใหม่กับทางอียูอีกครั้ง แต่เนื่องจากความพ่ายแพ้อย่างราบคายในการลงมติเมื่อคืน จึงไม่อาจทราบได้ว่าบรรดา ส.ส. จะให้การสนับสนุนต่อหรือไม่

2. การเลือกตั้งทั่วไป 
หลังจากที่มีการลงมติไม่ไว้วางใจในรัฐบาลคืนนี้ ซึ่งคาดว่าจะทราบผลโหวตในช่วงเวลา 19.00น. ตามเวลาลอนดอน หรือประมาณตี 1 ตามเวลาไทย แต่ถ้าการลงมติไม่ไว้วางใจไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาได้ ก็มีโอกาสที่รัฐสภาจะพิจารณาจัดการเลือกตั้งทั่วไปแทน

3. การลงประชามติครั้งที่ 2
เริ่มมีกระแสคาดการณ์เป็นวงกว้างขึ้นเรื่อยๆว่า รัฐบาลอาจจัดการลงประชามติ 
Brexit รอบสองขึ้นได้ ท่ามกลางประชาชนที่มีมุมมองชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบของ Brexit

4. ขยายเวลามาตรา 50
จากเดิมอังกฤษมีกำหนดจะถอนตัวออกจากอียูอย่างเป็นทางการในวันที่ 29 มี.ค. นี้ อาจมีการเรียกร้องขอให้ขยายระยะเวลานั้นออกไป ซึ่งจำเป็นต้องขอความเห็นชอบจากสมาชิกอียูทั้ง 27 ประเทศ แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าพวกเขาจะตอบรับเช่นไร

5. ไม่มี Brexit

หากสัญญาณมากขึ้นเกี่ยวกับการจัดการลงประชามติรอบสอง หรือการขยายเวลาของมาตรา 50 ก็จะยิ่งทำให้กระแสคาดการณ์ว่าอังกฤษจะไม่ถอนตัวออกจากอียูมีมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งนายกฯอังกฤษได้เคยเตือนว่าจะสร้างผลกระทบที่รุนแรงต่อความเชื่อมั่นในระบอบการปกครองของอังกฤษ

6. Brexit แบบ No Deal

คือการที่อังกฤษถอนตัวออกจากอียู โดยไม่มีการลงนามร่วมกันในข้อตกลงทางการค้าใดๆเลย ซึ่งบรรดานักวิเคราะห์ รวมถึงธนาคารกลางอังกฤษเองต่างมองว่าจะเป็นผลกระทบที่เลวร้ายต่อเศรษฐกิจอังกฤษ

·         นายโดนัลด์ ทักส์ ประธานคณะกรรมาธิการสภายุโรป แนะนำบรรดาส.ส.อังกฤษให้ยกเลิกการตัดสินใจที่จะออกจากอียู ซึ่งนั่นน่าจะเป็นเพียงทางแก้ปัญหาเชิงบวกเพียงทางเดียวในขณะนี้

·         กระทรวงการคลังจีน รายงานว่า ภายในปี 2019 รัฐบาลมีแผนจะเพิ่มรายจ่ายการคลังมากขึ้น รวมถึงจะออกนโยบายปรับลดมูลค่าภาษีมากกว่าเดิม ขณะที่จะปรับลดรายจ่ายทั่วไปของรัฐบาลลงกว่า 5%

ในส่วนของธนาคารกลางจีน ได้มีรายงานว่า ทางธนาคารกลางจะมีการดำเนินนโยบายการเงินที่รอบคอบมากขึ้น ไม่คุมเข้มหรือผ่อนคลายเกินไป รวมถึงปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินที่สวนทางกับวัฏจักรเศรษฐกิจให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น

·         ราคาน้ำมันดิบปิดปรับขึ้นประมาณ 3% ควบคู่กับการฟื้นตัวของตลาดหุ้นทั่วโลก โดยตลาดได้รับอานิสงส์จากนโยบายที่จีนจะนำมาใช้สร้างเสถียรภาพในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว โดยน้ำมันดิบ WTI ปิดปรับขึ้น 1.6 เหรียญ คิดเป็น +3.2% ที่ระดับ 52.11เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ Brent ปิดปรับขึ้น 1.39 เหรียญ คิดเป็น +2.4% ที่ระดับ 60.38 เหรียญ/บาร์เรล



บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com