• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 2 มกราคม 2562

    2 มกราคม 2562 | SET News

• ดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับตัวลงในคืนวันศุกร์ท่ามกลางสัปดาห์สุดท้ายของสัปดาห์ โดยภาพรวมดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 76.42 จุด ที่ระดับ 23,062.40 จุด โดยระหว่างวันมีการปรับขึ้นไปได้กว่า 243.06 จุด ก่อนจะปรับตัวลงมาประมาณ 155.26 จุด ทางด้านดัชนี S&P500 ปิด -0.1% ที่ระดับ 2,485.74 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดขึ้น 0.1% ที่ 6,584.52 จุด สำหรับสัปดาห์ที่แล้วยังคงเป็นสัปดาห์ที่หุ้นสหรัฐฯสามารถปรับขึ้นได้ 2.75% และนับเป็นสัปดาห์แรกในรอบ 4 สัปดาห์ที่ดัชนีปรับขึ้นได้

โดยภาพรวมเดือนธ.ค. อาจเรียกได้ว่าหุ้นหลักของสหรัฐฯมีการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 1931 โดยดัชนี S&P 500 ปรับตัวลงไปกว่า 9.9% ขณะที่ดาวโจนส์เดือนเดียวร่วงลงไป 9.7%

• ขณะที่วันจันทร์ที่ผ่านมาซึ่งเป็นวันสุดท้ายของปี 2018 ดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับขึ้นได้กว่า 265.06 จุด คิดเป็น +1.15% ที่ระดับ 23,327.46 จุด ทางด้านดัชนี S&P500 ปิด +0.85% ที่ 2,506.85 จุด และดัชนี Nasdaq ปิด +0.77% ที่ 6,635.28 จุด โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯได้รับแรงหนุนแม้ว่าจะมีปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง โดยตลาดดูจะตอบรับกับความคาดหวังครั้งใหม่ที่จะเห็นทางแก้ไขข้อขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนได้ หลังจากที่นายทรัมป์ ทวิตเตอร์ข้อความถึงความคืบหน้าในการหารือความเป็นไปได้ทางการค้ากับจีน

• หุ้นยุโรปปิดปรับขึ้นได้ในวันสุดท้ายของปี 2018 แต่ภาพรวมตลาดยังคงทรุดตัวมากที่สุดในรอบทศวรรษ โดยดัชนี Stoxx600 ปิด +0.38% ขณะที่ FTSE100 ปิดลง 0.2%และดัชนี CAC ของฝรั่งเศสขยับขึ้นได้กว่า 1%

ทั้งนี้ หุ้น FTSE ของอังกฤษปรับตัวร่วงลงไปกว่า 12% จากช่วงต้นปี เพราะได้รับผลกระทบตลอดช่วงหนึ่งจากความไม่แน่นอนของ Brexit ที่ทำให้เราเห็นดัชนีร่วงลงมากที่สุดนับตั้งแต่ที่เกิดวิกฤตการเงินเมื่อปี 2008

• ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดตลาดด้วยท่าทีระมัดระวังในการเปิดทำการวันแรกของปี 2019 หลังจากที่ผันผวนมาตลอดปี 2018 ท่ามกลางตลาดหุ้นส่วนใหญ่ที่มีภาพรวมเป็นแดนลบ ขณะที่ดัชนี ASX ของออสเตรเลียเปิดขยับขึ้นเพียง 0.11%

สำหรับตลาดหุ้นญี่ปุ่นยังคงปิดทำการในวันนี้ ขณะที่ตลาดหุ้นเกาหลีใต้จะเปิดทำการเวลา 09.00น. ในวันนี้ตามเวลาฮ่องกง

• ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสัปดาห์นี้ไว้ระหว่าง 32.30-32.70 บาท/ดอลลาร์ฯ โดยจุดสนใจของตลาดในประเทศช่วงต้นสัปดาห์ น่าจะอยู่ที่ตัวเลขเงินเฟ้อของไทยในเดือนธ.ค. 61 ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตาม ได้แก่ สัญญาณเกี่ยวกับแนวโน้มนโยบายการเงินของสหรัฐฯ จากถ้อยแถลงของประธานเฟด สถานการณ์ชัตดาวน์ของสหรัฐฯ และประเด็นเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญในระหว่างสัปดาห์ ประกอบด้วย ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการ ข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนเดือนธ.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com