• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 25 ธันวาคม 2561

    25 ธันวาคม 2561 | Economic News
• ดัชนีดอลลาล์เมื่อคืนนี้อ่อนค่าลง 0.46% ที่บริเวณ 96.511 จุด โดยเป็นการอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ทำระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีครึ่งที่ระดับ 97.711 จุด เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ที่ผ่านมา ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะ Shutdown ของสหรัฐฯที่กดดันความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงและลดความต้องการในค่าเงินดอลลาร์ลง

ขณะที่ปริมาณการซื้อขายเมื่อคืนนี้ค่อนข้างเบาบาง เนื่องจากตลาดญี่ปุ่นปิดทำการและตลาดส่วนใหญ่เริ่มเตรียมตัวเข้าสู่วันหยุดในช่วงเทศกาลคริสต์มาสในคืนวันอังคารนี้

• นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้กล่าวโจมตีเฟดอีกครั้งเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยกล่าวว่า เฟดเป็นปัญหาต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯเพียงหนึ่งเดียว ขณะที่ตลาดหุ้นยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความกังวลว่านายทรัมป์และบรรดาเจ้าหน้าที่คนสนิทกำลังหาหนทางไล่นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด ออกจากตำแหน่ง

• สำหรับความคืบหน้าเกี่ยวกับภาวะ Shutdown นายทรัมป์และบรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของพรรคเดโมแครตเมื่อคืนนี้ ยังคงถกเถียงและกล่าวโทษกันไปมาว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของอีกฝ่าย โดยที่นายทรัมป์ยังคงยืนยันที่หางบประมาณในการก่อสร้างกำแพงป็นมูลค่า 5 พันล้านเหรียญจากสภาคองเกรสให้ได้ และยังไม่มีท่าทีว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถหาจุดยืนร่วมกันได้แม้แต่น้อย

ขณะที่ที่ปรึกษาคนสนิทของนายทรัมป์ได้กล่าวเตือนเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ว่าภาวะ Shutdown อาจยืดเยื้อออกไปถึงวันที่ 3 ม.ค. ซึ่งเป็นวันที่จะเกิดการเปลี่ยนที่นั่งในสภาคองเกรส และพรรคเดโมแครตจะเข้ามาครองเสียงข้างมากในสภาล่างแทน

• บรรดากองทุนอนุพันธ์อัตราดอกเบี้ย (Interest Rate Futures) เริ่มมีมุมมองว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดได้จบสิ้นลงแล้ว และจะไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในปี 2019 และมีความเป็นไปได้ที่เฟดจะพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยลงภายปี 2020 ท่ามกลางความกังวลของการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกที่กดดันมุมมองกาปรรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเฟด

ขณะที่บรรดาเจ้าหน้าที่เฟดได้มีการออกคาดการณ์แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดออกมา โดยหน่วยที่ทำการรวบรวมข้อมูลได้สรุปว่า บรรดาเจ้าหน้าเฟดส่วนใหญ่มองว่าเฟดจะสิ้นสุดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2019 และจะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตั้งแต่ 2 ครั้งขึ้นไป เพื่อให้อัตราดอกเบี้ยอยู่แถวบริเวณ 2.75 – 3%

• ปริมาณการนำเข้าเมล็ดถั่วเหลืองจากสหรัฐฯของจีนปรับลดลงสู่ระดับ 0 ในเดือน พ.ย. ซึ่งเป็นครั้งแรกที่จีนไม่มีการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ นับตั้งแต่ Trade war ระหว่างทั้ง 2 ประเทศเริ่มต้นขึ้น

ในทางกลับกัน จีนได้เพิ่มปริมาณการนำเข้าเมล็ดถั่วเหลืองจากบราซิลแทนที่สหรัฐฯ คิดเป็นปริมาณ 5.07 ล้านตันในเดือน พ.ย. เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 80% ที่ระดับ 2.76 ล้านตัน

• ราคาน้ำมันดิบปรับร่วงเกือบ 7% แตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปีครึ่ง โดยเป็นการปรับร่วงลงตามมูลค่าของตลาดหุ้นทั่วโลกที่เกิดจากความตึงเครียดทางการเมืองในสหรัฐฯและการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก

โดยราคาสัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิด -6.7% หรือ -3.06 เหรียญ/บาร์เรล ที่ระดับ 42.53 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของวันที่ 21 มิ.ย. 2017 โดยเคลื่อนไหวห่างจากระดับต่ำสุดของปี 2017 ที่ 42.05 เหรียญ/บาร์เรล เพียงแค่ 30 เซนต์

ขณะที่ราคาสัญญาน้ำมันดิบ Brent ปิด -6.2% หรือ -3.35 เหรียญ/บาร์เรล ที่ระดับ 50.47 เหรียญ ทำระดับต่ำสุดในรอบ 16 เดือน

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com