• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 17 ธันวาคม 2561

    17 ธันวาคม 2561 | Economic News

• ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่ามากขึ้นทำระดับสูงสุดรอบ 19 เดือน ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่กลับเข้ามาถือครองค่าเงินที่อยู่ปลอดภัยที่สุด ท่ามกลางความกังวลทางการเมืองและทางเศรษฐกิจ ขณะที่ค่าเงินหยวนอ่อนค่าลงหลังจากที่ข้อมูลเศรษฐกิจจีนชะลอตัวลง ค่าเงินยูโรอ่อนค่าท่ามกลางเศรษฐกิจยูโรโซนส่งสัญญาณชะลอตัวมากขึ้น

ค่าเงินปอนด์อ่อนค่าลงท่ามกลาง นางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษที่ส่งสัญญาณชะลอความมั่นคงจากอียูกรณีอังกฤษถอนตัวจาก Brexit

ดัชนีดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ พ.ค. ปี 2017 ที่ระดับ 97.711 จุด ก่อนภาพรวมตลาดจะปิด +0.49% ที่ระดับ 97.536 จุด ตอบรับกับข้อมูลยอดค้าปลีกและผลผลิตภาคอุตสาหกรรมภาคการผลิตที่ออกมาดีขึ้

นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนจากคาดการณ์ประชุมเฟดสัปดาห์นี้ ขณะที่เฟดจะเพิ่มการขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้น โดยเครื่องมือ FedWatch จาก CME Group มองว่ามีโอกาส 79%

ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง 0.5% ที่ระดับ 1.12965 ดอลลาร์/ยูโร หลังข้อมูลเศรษฐกิจภาคเอกชนเยอรมนีขยายตัวต่ำสุดรอบ 4 ปีในเดือนธ.ค. ขณะที่ภาคธุรกิจฝรั่งเศสก็แย่กว่าที่คาด จึงจุดประกายความกังวลต่อเศรษฐกิจยูโรโซนว่าน่าจะกำลังชะลอตัว

ขณะที่ความไม่แน่นอนว่านายกรัฐมนตรีอังกฤษจะผ่านข้อตกลง Brexit หรือไม่ก็เป็นหนึ่งในประเด็นที่กดดันทำให้ค่าเงินปอนด์อ่อนค่าลง 0.79% ที่ 1.256 ดอลลาร์/ปอนด์ โดยภาพรวมยังทรงตัวเหนือระดับต่ำสุดรอบ 20 เดือนบริเวณ 1.2477 ดอลลาร์/ปอนด์ที่ทำไว้เมื่อวันพุธ

• นางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เตรียมกล่าวเตือนพรรคฝ่ายค้านในรัฐสภาวันนี้ ว่าการโหวตปฏิเสธแผน Brexit จะทำลายความเชื่อมั่นที่มีต่อรัฐบาลอังกฤษและจะสร้างความเสียหายต่อระบบการเมืองต่ออังกฤษอย่างไม่สามารถซ่อมแซมได้

• รายงานจากรอยเตอร์ส ระบุว่า รัฐบาลอังกฤษจะไม่ทำการลงประชามติเป็นครั้งที่ 2 สำหรับกรณี Brexit ขณะที่นางเมย์ ยังพยายามผลักดันข้อตกลงให้ผ่านรัฐสภาอังกฤษโดยมีการปรับปรุงข้อตกลงอีกเพียงไม่กี่ข้อเท่านั้น

• รัฐบาลอิตาลีระบุว่า พวกเขามีความพึงพอใจต่อ “ตัวเลขและเนื้อหา” ในแผนงบประมาณฉบับแก้ไขใหม่ที่จะยื่นเสนอต่ออียู เพื่อหลีกเลี่ยงบทลงโทษจากอียูหลังจากที่แผนงบประมาณฉบับก่อนถูกอียูปฏิเสธไป

• ราคาน้ำมันดิบปิดปรับตัวลดลงจากการร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ท่ามกลางการอ่อนตัวทางเศรษฐกิจจีนที่น่าจะส่งผลให้อุปสงค์น้ำมันลดลง ซึ่งจีนถือเป็นประเทศนำเข้าน้ำมันรายใหญ่ของโลก

น้ำมันดิบ Brent ปิดลง 1.33 เหรียญ คิดเป็น -2.16% ที่ระดับ 60.12 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ปิด -2.6% ที่ 51.20 เหรียญ/บาร์เรล

ภาพรวมตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาน้ำมันดิบ Brent ปิด -2% ขณะที่ WTI ร่วงลงไป 2.7%

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com