• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 21 พฤศจิกายน 2561

    21 พฤศจิกายน 2561 | SET News

·        แบบสำรวจ CFO โดย CNBC ที่สอบถามความคิดเห็นของบรรดาผู้นำด้านการเงินในบริษัทรายใหญ่ของสหรัฐฯ มีมุมมองว่าการปรับร่วงลงของดัชนีดาวโจนส์ยังไม่จบ

โดยผู้ตอบแบบสำรวจมากกว่าครึ่ง ต่างมองว่าดัชนีดาวโจนส์จะปรับร่วงหลุดระดับ 23,000 จุด หรือประมาณ 2,000 จุดจากระดับปัจจุบัน ก่อนที่ดัชนีจะมีโอกาสกลับไปท้าทายระดับ 27,000 จุดอีกครั้ง และหากดัชนีปรับร่วงลงอีกประมาณ 2,000 จุด ก็จะคิดเป็น % ได้ประมาณ 8% ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ก็ได้ปรับร่วงลงมาอีก 400 จุด เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

·        ตลาดหุ้นยุโรปเปิดปรับตัวสูงขึ้น หลังจากที่ร่วงลงในช่วงก่อนหน้า ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx600 เพิ่มขึ้นประมาณ 0.4% ขณะที่ตลาดส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก

·        ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงท่ามกลางกระแสความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกที่รุนแรงยิ่งขึ้น ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับร่วงเมื่อคืนนี้ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ที่เป็น Safe-haven แข็งค่าขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ โดยดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปรับลดลง 0.45% 

·        ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดลบ ท่ามกลางแรงกดดันจากตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ปิดลบเมื่อคืนนี้ จึงส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในตลาดเอเชีย ประกอบกับราคาน้ำมันที่ปรับลดลงได้กดดันหุ้นภาคทรัพยากรและภาคอื่นๆ ส่วนดัชนี Nikkei ปิด -0.4% ที่ระดับ 21,507.54 จุด โดยระหว่างวันดัชนีย่อตัวแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ที่ 21,243.38 จุด

·        ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลง ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบางเนื่องจากเิกดแรงเทขายอย่างต่อเนื่องในหุ้นสหรัฐฯเมืือคืนที่ผ่านมา รวมทั้งการร่วงลงของราคาน้ำมันดิบจากประเด็นความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลก

ทั้งนี้ ดัชนี Shanghai Composite ลดลง 0.13% ที่ระดับ 2,642.46 จุด

·        กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผย ตัวเลขการค้าระหว่างประเทศของไทยในเดือนต.ค.61 โดยภาพรวมการส่งออก ขยายตัว 8.7% จากตลาดคาดเติบโต 3.5-4.0% คิดเป็นมูลค่า 21,757.90 ล้านเหรียญ ขณะที่การนำเข้า ขยายตัว 11.23% มีมูลค่า 22,037.5 ล้านเหรียญ ส่งผลให้ดุลการค้าขาดดุล 279.5 ล้านเหรียญ

ด้านการส่งออกในช่วง 10 เดือนปี 61 (ม.ค.-ต.ค.61) ขยายตัว 8.19% มีมูลค่า 211,487.8 ล้านเหรียญ ส่วนการนำเข้าขยายตัว 14.78% มูลค่า 208,928.9 ล้านเหรียญ ส่งผลให้ดุลการค้าเกินดุล 2,558.9 ล้านเหรียญ

·        นักบริหารการเงิน คาดว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย จะปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้น 0.25% ต่อปี ในการประชุมกนง. เดือนธ.ค.นี้  เนื่องจากตัวเลขจีดีพีที่ออกมาไม่ได้บ่งบอกว่าเศรษฐกิจได้เริ่มเข้าสู่ภาวะชะลอตัว และคาดว่าธปท.ยังคงให้น้ำหนักกับการรักษาเสถียรภาพของระบบการเงิน และต้องการเพิ่มขีดความสามารถในการทำนโยบายในอนาคต  ซึ่งสะท้อนจากการลงคะแนนในการประชุมกนง.ครั้งล่าสุด เมื่อวันที่  14 พ.ย.ที่ผ่านมา มีคณะกรรมการเห็นควรให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มจาก 2 เสียง เป็น 3 เสียง

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com