• Goldman Sachs มองเศรษฐกิจสหรัฐฯชะลอตัวปีหน้า!

    20 พฤศจิกายน 2561 | Economic News

Goldman Sachs ธนาคารเพื่อการลงทุนรายใหญ่ในสหรัฐฯ คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวลงอย่างมีนัยยะสำคัญในช่วงครึ่งหลังของปี 2019 ท่ามกลางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด และแรงหนุนจากนโยบายปรับลดลภาษีที่อ่อนกำลังลง

โดย Jan Hatzius หัวหน้าฝ่ายเศรษฐศาสตร์จาก Goldman Sachs ระบุว่า อัตราการเติบโตในปัจจุบันของเศรษฐกิจสหรัฐฯอยู่ที่มากกว่า 3.5% แต่มีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลงสู่ระดับ 1.75ในช่วงปลายปี 2019 โดยภาวะการคุมเข้มทางการเงินที่มากยิ่งขึ้น ประกอบกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจหลักที่อ่อนกำลังลง จะเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันการเติบโตของเศรษฐกิจ



ทางธนาคารฯมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯในไตรมาสที่ 4/2018 ขยายตัวได้ด้วยอัตรา 2.5% ลดลงจากระดับ 3.5ของไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่การเติบโตของ GDP ที่แท้จริงในช่วงไตรมาสแรกของปี 2019 คาดการณ์ไว้ที่ 2.5แต่จะเริ่มชะลอตัวลงสู่ระดับ 2.2%, 1.8และ 1.6ในช่วง 3 ไตรมาสถัดไปตามลำดับ

ทั้งนี้ ทางธนาคารฯคาดการณ์ว่า เฟดจะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งหนึ่งในเดือน ธ.ค. และอีก 4 ครั้งในปี 2019 โดยเฟดจำเป็นต้องดำเนินเช่นนั้น เพราะว่าอัตราเงินเฟ้อจะขยายตัวสู่ระดับ 2.25%ภายในช่วงสิ้นปี 2019 ท่ามกลางการขึ้นอัตราภาษีนำเข้าและอัตราค่าจ้างที่ขยายตัว อีกทั้งยังมีความเสี่ยงที่อัตราเงินเฟ้ออาจ “ขยายตัวมากเกินไป”

โดยความเสี่ยงที่อัตราเงินเฟ้ออาจขยายตัวมากเกิน อาจเป็นเพราะตลาดแรงงานมีแนวโน้มจะขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว และทางเฟดอาจลังเลที่จะหยุดยั้งการขยายตัวดังกล่าว จนกว่าจะแน่ใจว่าอัตราว่างงานจะเลิกเคลื่อนไหวในทิศทางขาลง ซึ่งน่าจะเกิดขึ้นในช่วงต้นปี 2020

อย่างไรก็ตาม ทางธนาคารฯไม่ได้คาดการณ์ว่าอัตราเติบโตของเศรษฐกิจจะเข้าสู่ระดับติดลบในเร็วๆนี้แต่อย่างใด เนื่องจากภาวะ Overheat หรือภาวะความไม่มั่นคงทางการเงิน ที่ล้วนแต่เป็นสาเหตุของภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯในอดีต ยังไม่มีสัญญาณที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ ดังนั้น การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯจึงจะดำเนินต่อไปในปีหน้า และมีแนวโน้มที่จะกลายเป็นการขยายตัวที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ


ที่มา: CNBC

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com