• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 8 พฤศจิกายน 2561

    8 พฤศจิกายน 2561 | SET News

• ดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับขึ้น 545.29 จุด คิดเป็น +2.13% ที่ระดับ 26,180.3 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิด +2.12% ที่ 2,813.89 จุด และดัชนี Nasdaq ปิด +2.64% ที่ 7,570.75 จุด

ดัชนี CBOE VIX ซึ่งเป็นมาตรวัดความผันผวนของตลาดปรับตัวลงแตะ 16.36 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดรอบเดือน

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดปรับขึ้นได้ 2% จากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและหุ้นกลุ่มสุขภาพที่ปรับตัวขึ้น หลังทราบผลการเลือกตั้งที่พรรคการเมืองสองฝั่งสหรัฐฯแยกกันครองเสียงข้างมากในสภา และนั่นถือเป็นข่าวดีสำหรับตลาดหุ้น

ขณะที่ดัชนี S&P ปรับตัวขึ้นได้มากที่สุดจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและสุขภาพที่ปรับขึ้นกว่า 2.9% และหุ้นกลุ่มอุปโภคบริโภคปรับขึ้น 3.1% ซึ่งนักวิเคราะห์ มองว่า สภาวะการรับรู้ของนักลงทุนคือการที่จะเห็นความตั้งใจมากขึ้นในการผลักดันนโยบายการเงินกลับสู่โต๊ะเจรจา และนั่นทำให้เกิดความกังวลต่อตลาดเพียงเล็กน้อย ขณะที่การแบ่งแยกกันในสภาอาจทำให้เราเห็นการปรับนโยบายใหม่ได้ และอาจจะเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มสุขภาพมากขึ้น จึงทำให้เราเห็นความแข็งแกร่งตอบรับผลที่ตามมา และการมาของเดโมแครตในครั้งนี้ ทำให้นายทรัมป์ ประสบกับความยากลำบากมากขึ้นในการหาแรงสนับสนุนบทการสร้างกฎระเบียบใหม่ต่อบริษัท Amazon.com จึงทำให้หุ้น Amazon.com ปรับขึ้นไป 6.9%

• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดปรับขึ้นตามตลาดหุ้นดาวโจนส์และ S&P500 ที่ปิดระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์หรือดีที่สุดหลังจากที่มีการเลือกตั้งกลางเทอมนับตั้งแต่ปี 1982

ดัชนีนิกเกอิเปิด +1.89% ขณะที่ดัชนี Topix เปิด +1.72% และดัชนี Kospi เปิด +1.75%

รายงานจาก CNBC ระบุว่าต้องรอดูการเคลื่อนไหวของตลาดจีนในวันนี้ว่าจะตอบรับอย่างไร เนื่องจากบรรดาผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ผลการเลือกตั้งสหรัฐฯที่ออกมาอาจส่งผลกระทบต่อ Trade War ระหว่างสหรัฐฯและจีนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

• นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.70 - 32.90 บาท/ดอลลาร์ โดยตลาดจะติดตามผลการประชุมเฟดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในรอบนี้หรือไม่

• กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในเดือนตุลาคม 2561 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยปรับตัวลดลงไปในทิศทางของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลก จากความกังวลของผู้ลงทุนในเรื่องความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน และนำไปสู่ความกังวลต่ออัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลก

อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับสิ้นปี 2560 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยปรับตัวลดลงน้อยกว่าตลาดส่วนใหญ่ในเอเชีย ทั้งนี้ด้วยพื้นฐานทางเศรษฐกิจไทยที่ยังคงเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ ประกอบกับผลประกอบการในไตรมาส 3/2561 ของกลุ่มธนาคารเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com