ด้านราคาสัญญาทองคำตลาด COMEX ปรับสูงขึ้น 0.3% ที่บริเวณ 1,229.5 เหรียญ
• นักวิเคราะห์จาก ANZ กล่าวว่า การที่เดโมแครตสามารถครองเสียงข้างมากในสภาล่างได้ ทำให้เกิดภาวะ Risk-off หรือภาวะที่นักลงทุนหลีกเลี่ยงการถือครองสินทรัพย์เสี่ยงในตลาดตามมา
• รายงานจาก Reuters ระบุว่า เดโมแครตครอบครองเสียงข้างมากในสภาล่าง พร้อมๆกับความไม่พึงพอใจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เนื่องจากจะเป็นการเปิดโอกาสให้ทีมบริหารของเขาถูกสอบสวนไม่ไว้วางใจได้ง่ายยิ่งขึ้น รวมถึงทำให้การดำเนินนโยบายการเมืองเป็นไปได้อย่างยากลำบาก
อนุพันธ์หุ้นสหรัฐฯและตลาดหุ้นเอเชียยังคงเคลื่อนไหวในแดนบวกจากเมื่อเช้า ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ ส่งผลให้ราคาทองคำสามารถปรับตัวสูงขึ้นมาได้
ทั้งนี้ แม้ผลการเลือกตั้งจะออกมาตามที่คาดการณ์ไว้ส่วนใหญ่ แต่การที่ตลาดยังไม่เผชิญกับแรงเทขายมากนัก เป็นเพราะว่าตลาดยังคงมีความไม่มั่นใจเกี่ยวกับทิศทางการเมืองของสหรัฐฯในอนาคต
• ขณะที่ นักวิเคราะห์จาก Wing Fung Precious Metals คาดการณ์ว่า ราคาทองคำทั้งในระยะสั้นและระยะกลาง น่าจะดำเนินต่อไปในทิศทางขาขึ้นได้
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์จาก Phillip Futures ระบุว่า ตลาดจะจับตาการประชุมเฟดที่จะเริ่มต้นขึ้นในคืนนี้ แต่จะทราบผลในคืนพรุ่งนี้ โดยคาดว่าจะยังไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือการเปลี่ยนแปลงทางการนโยบายการเงินแต่อย่างใด แต่ตลาดจะจับตาสัญญาณใดๆก็ตามที่เกี่ยวกับแนวโน้มการรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2019
นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจาก Reuters คาดการณ์ว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มจะหลุดแนวรับที่ระดับ 1,224 เหรียญ และมีแนวรับถัดไปที่ระดับ 1,114.49 เหรียญ
• ราคาซิลเวอร์ปรับตัวสูงขึ้น 0.3% บริเวณ 14.57 เหรียญ ขณะที่ราคาพลาเดียมปรับลดลง 0.1% บริเวณ 1,114.49 เหรียญ
• ด้านราคาแพลทตินั่มปรับสุงขึ้น 0.5% บริเวณ 871.5 เหรียญ หลังจากในช่วงก่อนหน้า ราคาขึ้นไปทำระดับสูงสุดที่ 875.70 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของวันที่ 25 มิ.ย.