• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 5 พฤศจิกายน 2561

    5 พฤศจิกายน 2561 | Economic News

• ดัชนีดอลลาร์ค่อนข้างทรงตัวที่บริเวณ 96.50 จุด โดยค่าเงินมีแรงหนุนจากกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด

ขณะที่ค่าปอนด์อังกฤษแข็งค่าทำระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่บริเวณ 1.3062 ดอลลาร์/ปอนด์ หลังสำนักข่าว Sunday Times รายงานว่า ข้อตกลงจากการเจรจา Brexit จะถูกเขียนลงในสนธิสัญญาของการเจรจาระหว่างทั้ง 2 ฝ่าย ส่งผลให้ตลาดมีมุมมองที่ดีขึ้นต่อการเจรจา Brexit

ขณะที่ค่าเงินเยนทรงตัวที่บริเวณ 113.22 เยน/ดอลลาร์ ส่วนค่าเงินหยวนแข็งค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ที่บริเวณ 6.9123 หยวน/ดอลลาร์

ด้านค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้นจากมุมมองที่ดีขึ้นต่อกรณี Brexit ก่อนที่จะย่อตัวกลับลงมาในช่วงบ่าย ทำให้ภาพรวมระหว่างวัน ค่าเงินยูโรค่อนข้างทรงตัวที่บริเวณ 1.1385 ดอลลาร์/ยูโร

• รายงานจาก BBC ระบุว่า การเลือกตั้งสภาสูงและสภาล่างของคองเกรสโดยส่วนใหญ่น่าจะเป็นพรรครีพับลิกันของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯคนปัจจุบัน แต่หากพรรคเดโมแครตสามารถควบคุมเสียงข้างมากได้ในสภาผู้แทนราษฎรหรือวุฒิสภาก็อาจจำกัดความสามารถในการทำงานของนายทรัมป์ได้ในช่วง 2 ปีสุดท้ายในการดำรงตำแหน่งของเข

ขณะที่นักวิเคราะห์ มองว่า เก้าอี้ส่วนใหญ่ในสภาฯอาจมีการเปลี่ยนแปลง จากปัจจุบันที่เสียงส่วนใหญ่เป็นสมาชิกพรรครีพับลิกัน

• โพลสำรวจจาก NBC News และ Wall Street Journal ต่างพบว่า พรรคเดโมแครตมีคะแนนความนิยมนำหน้าพรรครีพับลิกันอยู่ที่ 50% ต่อ 43% ซึ่งปรับลดลงมา 9% จากผลสำรวจเมื่อเดือนที่ผ่านมา

• จีน ญี่ปุ่น และเยอรมนี ทั้ง 3 ประเทศต่างมียอดเกินดุลการค้าร่วมกันกับสหรัฐฯกว่า 2 ใน 3 จากขาดดุลการค้าของสหรัฐฯทั้งหมด 6.524 แสนล้านเหรียญ ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2018 นักวิเคราะห์จึงคาดการณ์ว่า ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและประเทศที่กล่าวว่าข้างต้นมีแนวโน้มที่จะขยายตัวและดำเนินเป็นระยะเวลายาวนาน ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่กดดันการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ

• นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ประกาศว่า จีนจะปรับลดอัตราภาษีนำเข้าและขยายตลาดให้เข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยนายจิ้นผิงได้กล่าวถ้อยแถลงในงาน China International Import Expo ที่จัดขึ้นวันนี้

ทั้งนี้ นายสี ยังให้คำมั่นในเรื่องการเปิดกว้างทางการศึกษา, การติดต่อสื่อสาร และสินค้าในกลุ่มสินค้าวัฒนธรรมของประเทศ ขณะเดียวกันก็จะมีการปกป้องผลประโยชน์ของบริษัทต่างชาติและเพิ่มบทลงโทษสำหรับการละเมิดลิขสิทธิ์ทางปัญญา

นอกจากนี้ นายสี ยังย้ำถึงภาวะความตึงเครียดทางการค้าระหว่างจีนกับประเทศคู่ค้าบางแห่ง โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่จีนยังคงถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้ามูลค่า 2.5 แสนล้านเหรียญ ขณะที่จีนตอบโต้ด้วยมูลค่า 1.1 แสนล้านเหรียญ ขณะที่การจัดงาน Import Expo ในครั้งนี้ มีขึ้นเพื่อให้เห็นว่าจีนต้องการสนับสนุนการค้าเสรีของโลก และเปิดกว้างทางนโยบายการค้า พร้อมทั้งไม่เห็ฯด้วยกับการใช้นโยบายทางการค้าใดๆ

• นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าบีโอเจ ยังคงยืนยันว่าทางบีโอเจไม่มีแนวคิดที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นแต่อย่างใด เนื่องจากการดำเนินการดังกล่าวอาจทำให้แนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจญี่ปุ่นต้องหยุดชะงักลง

• รัฐบาลเกาหลีใต้รายงานว่า เกาหลีใต้ได้รับการยกเว้นจากนโยบายคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน เป็นระยะเวลา 180 วัน หลังนโยบายคว่ำบาตรมีผลบังคับใช้ในวันนี้ ขณะที่สหรัฐฯได้ระบุว่าจะมีประเทศได้รับการยกเว้นจากนโยบายคว่ำบาตรอิหร่านจำนวนทั้งหมด 8 ประเทศ แต่ไม่ได้ระบุว่ามีประเทศใดบ้าง นอกเหนือจากเกาหลีใต้ แต่คาดว่าน่าจะเป็นบรรดาประเทศทวีปเอเชีย ที่มีการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านเป็นปริมาณมาก

• นายฮัสสัน โรฮานี ประธานาธิบดีอิหร่าน ประกาศว่าอิหร่านจะต่อต้านนโยบายคว่ำบาตรของสหรัฐฯ และดำเนินการส่งออกน้ำมันต่อไป แม้การคว่ำบาตรจากสหรัฐฯจะมีผลบังคับใช้ในวันนี้ก็ตาม

• ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงท่ามกลางมาตรการคว่ำบาตรยอดส่งออกน้ำมันดิบในอิหร่านที่เริ่มลดน้อยลง แม้จะมีการละเว้นต่อกลุ่มผู้ซื้อน้ำมันรายใหญ่ของอิหร่าน ขณะที่อิหร่านประกาศจะละเมิดมาตรการคว่ำบาตรสหรัฐฯ ด้วยการขายน้ำมันดิบต่อไป

น้ำมันดิบ Brent ปรับลง 30 เซนต์ ที่ระดับ 72.53 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ปรับลง 30 เซนต์ ที่ 62.84 เหรียญ/บาร์เรล

ทางด้านราคาน้ำมันดิบสองชนิดมีการร่วงลงมาแล้วประมาณ 15% นับตั้งแต่ที่ขึ้นไปทำระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนต.ค. ขณะที่บรรดาเฮดจ์ฟันด์มีการปรับลดสถานะการถือครองน้ำมันดิบลงแตะระดับตำ่สุดรอบ 1 ปี


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com