• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 5 พฤศจิกายน 2561

    5 พฤศจิกายน 2561 | SET News

• ตลาดหุ้นยุโรปโดยส่วนใหญ่เปิดผสมผสานกันในวันนี้ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่ตอบรับกับความแตกต่างทางเหตุการณ์การเมือง โดยดัชนี Stooxx 600 เปิดทรงตัว

ทางด้านหุ้นภาคธนาคารยุโรปยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันจากผลการทดสอบ Stresst Tests ของภาคธนาคาร โดยธนาคาร Barclays และ Lloyds มีค่าเรโรของเม็ดเงินทุนแตะระดับต่ำที่สุด และส่งผลให้หุ้นทั้งภาคธนาคารทั้ง 2 แห่งเปิดปรับตัวลงในช่วงเช้า

นักวิเคราะห์จาก Jefferies กล่าวว่า ภาคธนาคารของอังกฤษดูมีการทดสอบที่ย่ำแย่ในช่วงที่ประเทศเผชิญความเสี่ยงครั้งใหญ่จาก Brexit แต่ก็ต้องรอผลที่แน่ชัดจากทาง BoE ที่จะเปิดเผยผลการทำทดสอบของภาคธนาคารในวันที่ 5 ธ.ค.นี้

• ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลง เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มที่เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวมเร็วขึ้น และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ส่งผลให้บรรดานักลงทุนหลักเลี่ยงการถือครองสินทรัพย์เสี่ยง ขณะที่ค่าเงินปอนด์อังกฤษปรับแข็งค่าทำระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ท่ามกลางความหวังว่าการเจรจา Brexit จะสามารถประสบความสำเร็จได้ โดยดัชนี MSCI ปรับ -1.4% ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปีครึ่ง ที่บริเวณ 505.61 จุด

ทั้งนี้ การซื้อขายในตลาดส่วนใหญ่น่าจะเบาบางก่อนหน้าการเลือกตั้งกลางวาระของสหรัฐฯ ที่โพลสำรวจส่วนใหญ่คาดว่าพรรคเดโมแครตจะสามารถครอบครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ขณะที่พรรครีพับลิกันจะสามารถครอบครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา

• ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลง หลังแรงหนุนจากมุมมองว่าสหรัฐฯและจีนจะสามารถแก้ไขปัญหาทางการค้าร่วมกันได้เริ่มเบาบางลงไป ขณะที่หุ้น Fast Retailing ปรับลดลงอย่างหนักหลังรายงานผลประกอบการรายเดือนออกมาย่ำแย่ลงอย่างมาก โดยดัชนี Nikkei ปรับ -1.6% บริเวณ 21,898.99 จุด ปรับลดลงจากระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ดัชนีปรับขึ้นไปได้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

• ตลาดหุ้นจีนปิดลบเป็นวันแรก หลังเคลื่อนไหวในแดนบวกมาติดต่อกัน 4 วันทำการ ขณะที่บรรดานักลงทุนกำลังรอคอยการเลือกตั้งกลางวาระของสหรัฐฯ ที่อาจเป็นจุดเปลี่ยนของนโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐฯ โดยดัชนีShanghai Composite ปิด -0.4% ที่ระดับ 2,665.43 จุด

• จากการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในวันนี้ นักบริหารเงินประเมินว่าค่าเงินบาทสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.75 - 33.20 บาท/ดอลลาร์ ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนต่างชาติที่มีการขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 5.3 พันล้านบาท ขณะที่มีการซื้อพันธบัตร 1.52 หมื่นล้านบาท ส่วนเดือนต.ค. เงินบาทอ่อนค่าลง 2.5% โดยเป็นการอ่อนค่ามากที่สุดในภูมิภาค

สำหรับช่วง 10 เดือนแรกของปี ค่าเงินบาทอ่อนค่า 1.7% โดยน้อยกว่าสกุลเงินอื่นๆในภูมิภาค

• ม.หอการค้า เผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคไทยประจำเดือนตุลาคม 2561 ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 จากระดับ 82.3 มาอยู่ที่ระดับ 81.3 ชี้ผู้บริโภคยังมีความกังวลราคาน้ำมัน - ปัญหานักท่องเที่ยวจีนชะลอ - การเมืองของไทย และสงครามการค้า

• ธนาคาร KTB คาดว่าสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ปี 62 จะเติบโตสูงกว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยที่คาดเติบโต 4.3% จากปีนี้คาดเติบโต 2% เป็นผลมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และ จากแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐต่างๆ ประกอบกับธนาคารมีแผนเพิ่มช่องทางขยายฐานลูกค้าให้มีความหลากหลายมากขึ้น จากเดิมกระจุกตัวอยู่ในกลุ่มธุรกิจบางกลุ่มเท่านั้น โดยเฉพาะการกระจุกตัวในกลุ่มที่ไม่ได้ใช้นวัตกรรมใหม่ๆ และ การใช้แรงงานเป็นหลัก นอกจากนี้ ในช่วงไตรมาส 1/62 ธนาคารเตรียมส่งสินเชื่อออนไลน์ในการเพิ่มช่องทางการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการจัดทำ โดยสินเชื่อออนไลน์ที่ธนาคารพัฒนาขึ้นมาเบื้องต้นจะเน้นในกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอี กลุ่มรายย่อย และ กลุ่มซัพพลายเชน

• สคร. เผยผลการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสมของรัฐวิสาหกิจ 45 แห่ง ช่วง 9 เดือนปี 61 มีจำนวน 310,926 ล้านบาท โต 45% เทียบปีก่อน เร่งไตรมาสสุดท้ายเบิกจ่ายให้ได้ไม่น้อยกว่า 95%

• กระทรวงพาณิชย์ เผยสมาชิก CPTPP 6 ประเทศ ได้ให้สัตยาบันเพื่อยืนยันที่จะปฏิบัติตามความตกลง CPTPP แล้ว เริ่มนับถอยหลัง 60 วัน ก่อนที่ความตกลงจะมีผลบังคับใช้ตามเงื่อนไข ซึ่งตรงกับวันที่ 30 ธันวาคม 2561 ส่วนการเตรียมความพร้อมของไทย กระทรวงพาณิชย์อยู่ระหว่างหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อประเมินผลประโยชน์และผลกระทบ ก่อนเสนอระดับนโยบายพิจารณาการเข้าร่วมเป็นสมาชิก CPTPP ของไทยต่อไป

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com