• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 30 ตุลาคม 2561

    30 ตุลาคม 2561 | Economic News

• รายงานจาก BBC ระบุว่า นางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีจะยุติบทบาทของเธอเมื่อครบวาระในปี 2021 และจะไม่ยุ่งเกี่ยวทางการเมือง รวมถึงจะไม่ลงสมัครตำแหน่งหัวหน้าพรรค CDU ของเธอในเดือนธ.ค. นี้ หลังจากที่เธอดำรงตำแหน่งมาอย่างยาวนานนับตั้งแต่ปี 2000

ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโร ใกล้ระดับสูงสุดรอบ 10 สัปดาห์ที่ทำไว้ในสัปดาห์ที่แล้ว หลังข่าวว่านายกรัฐมนตรีเยอรมนีจะลงจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค CDU ของเธอ

นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์ยังได้รับแรงสนับสนุนจากข้อมูลค่าใช้จ่ายของกลุ่มผู้บริโภคที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยดัชนีดอลลาร์ปรับขึ้นมา 0.24% ที่ระดับ 96.594 จุด ใกล้ระดับสูงสุดรอบ 10 สัปดาห์ที่ทำไว้เมื่อวันศุกร์ ขณะที่ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง 0.15% แตะ 1.1384 ดอลลาร์/ยูโร

• ผู้อำนวยการนักกลยุทธ์ฝ่ายการตลาดจาก Cambridge Global Payments กล่าวว่า ตลาดค่าเงินตอบรับกับการตัดสินใจของนางแมร์เคล ซึ่งถือเป็นหญิงเหล็กแห่งยุโรป ซึ่งสิ่งนี้ไม่ดีต่อค่าเงินยูโรจากสภาวะทางการเมืองที่เกิดขึ้

อำนาจที่ลดลงของแมร์เคลอาจจำกัดขีดความสามารถของเธอในฐานะผู้นำอียูลงในช่วงที่มีการทำข้อตกลง Brexit และวิกฤตงบประมาณในอิตาลี ดังนั้น จึงควรระมัดระวังการอ่อนค่าของค่าเงินงยูโรที่จะตามมา แต่ก็ไม่อาจบอกได้ว่าประเด็นดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อค่าเงินยูโรเป็นเวลานานหรือไม่ เพราะเธอก็ยังคงอยู่ในบทบาทของนายกรัฐมนตรีเยอรมนีอยู่ และยังมีความเป็นไปได้ที่จะเห็นเธอเป็นหนึ่งในตำแหน่งของทางสภายุโรป

• รายงานจาก Bloomberg เปิดเผยรายงานจากแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยชื่อ โดยระบุว่า สหรัฐฯมีการเตรียมประกาศแผนภาษีสินค้านำเข้าจีนทั้งหมดในช่วงต้นเดือนธ.ค.นี้ หากว่าการเจรจาในเดือนหน้าระหว่าง นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายสี จิ้น ผิง ประธานาธิบดีจีนล้มเหลวในการผ่อนคลาย Trade War

อย่างไรก็ดี หลังจากที่รายงานจาก Bloomberg ถูกเผยแพร่ ก็ส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงไป 1% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ร่วงลง 1.6% รวมไปถึงหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและอินเตอร์เน็ตที่ปรับตัวลงตาม

โดยทางสหรัฐฯจะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนทั้งหมดด้วยอัตราสูงกว่า 2.57 แสนล้านเหรียญ หากการพบกันระหว่างสองผู้นำยังล้มเหลวต่อข้อเรียกร้องของสหรัฐฯ ในเรื่องการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการค้าของจีน, การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี และนโยบายสนับสนุนภาคอุตสาหกรรม

ณ ปัจจุบัน สหรัฐฯมีการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเป็นมูลค่า 2.5 แสนล้านเหรียญ ขณะที่จีนตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีสินค้าสหรัฐฯรวมมูลค่า 1.1 แสนล้านเหรียญ

• เจ้าหน้าที่ระดับสูงจาก BlackRock กล่าวว่า ความตึงเครียดที่เพิ่มมากขึ้นทางการค้า และ Trade War ระหว่างสหรัฐฯและจีนดูจะทำให้ระบบการเงินของจีนย่ำแย่ลงในการปรับเศรษฐกิจในปัจจุบัน

• รายงานจากรอยเตอร์ส ระบุว่า นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟดจะกล่าวถ้อยแถลงแนวโน้มเศรษฐกิจก่อนเข้าสู่สภาคองเกรสในการเข้าพบกับคณะกรรมาธิการร่วมทางด้านเศรษฐกิจในวันที่ 5 ธ.ค.นี้

• สหรัฐฯเรียกร้องให้สหภาพยุโรปสะท้อนจุดยืนของพวกเขาให้ชัดเจนว่าต้องการเป็นปรปักษ์ต่อนโยบายขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมของสหรัฐฯหรือไม่ รวมถึงแสดงความหวังว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาทางการค้าร่วมกับเม็กซิโกและแคนาดาได้

ทั้งนี้ นโยบายขึ้นภาษีของสหรัฐฯได้รับข้อเรียกร้องจะองค์การการค้าโลกจำนวน 7 ข้อ สำหรับการแก้ไขร่างนโยบาย รวมทั้งเสียงวิพากษ์วิจารณ์จำนวนหนึ่ง ขณะที่สหรัฐฯข่มขู่จะตอบโต้ผู้ออกเสียงวิพากษ์วิจารณ์ด้วยการดำเนินการทางกฎหมาย

ทางด้านนายเดนนิส เชีย เอกอัครราชทูตแห่งสหรัฐฯ ระบุว่า เขาไม่แปลกใจที่ประเทศจีนจะแสดงจุดยืนต่อต้านนโยบายขึ้นภาษีเหล็กและอลูมิเนียมของสหรัฐฯ เพราะว่าจีนมีปริมาณการผลิตเหล็กที่อยู่ในระดับสูงเกินไปและไม่เป็นมิตรต่อภาพรวมเศรษฐกิจโลก แต่ได้แสดงความผิดหวังต่อจุดยืนของสหภาพยุโรป

• เมื่อวานนี้ นายจาอี บอสโซนาโร ประธานาธิบดีบราซิลคนใหม่จากพรรคขวาจัด กล่าวให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยระบุว่า จะผ่อนคลายกฎเกี่ยวกับอาวุธปืนในปีนี้ และมีแผนจะเดินทางเยือนสหรัฐฯ หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯมีการโทรหาฉันท์มิตร และมีการทวิตเตอร์ถึงแผนที่จะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นทางการค้า ทางการทหารและทุกๆสิ่งร่วมกัน

ขณะที่กลุ่มนักลงทุนตอบรับกับชัยชนะของนายบอสโซนาโร และทำให้ดัชนี BVSP หรือหุ้นของบราซิลปรับขึ้นทำ All-Time High ตั้งแต่ช่วงเช้าเมื่อวานนี้ ก่อนจะอ่อนค่าลงจากแรงขายปิดทำกำไร

• รัฐสภาอิตาลีจะเริ่มต้นหารือกันถึงร่างงบประมาณรัฐบาลปี 2019 ในวันพุธนี้ โดยเป้าหมายของงบประมาณดังกล่าวมียอดขาดดุลที่ 2.4% ของจีดีพี และต้องได้รับการอนุมัติจากทางสภาล่างและสภาสูงภายในช่วงสิ้นปีนี้

• ราคาน้ำมันดิบปิดปรับตัวลดลงเมื่อวานนี้ โดยเป็นการร่วงลงรายเดือนมากที่สุดนับตั้งแต่ช่วงกลางปี 2016 หลังจากที่รัสเซียส่งสัญญาณว่า การผลิตน้ำมันจะยังอยู่ในระดับสูง ประกอบกับความกังวลต่อทิศทางเศรษฐกิจโลกที่ยิ่งสร้างความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมัน

ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวลง 28 เซนต์ ที่ระดับ 77.34 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลง 55 เซนต์ ที่ระดับ 67.04 เหรียญ/บาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวลงไปแล้วประมาณ 6.6% ในเดือนนี้ ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลงไปประมาณ 8.5% ซึ่งถือว่าการปรับตัวลงในเดือนนี้เป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่ก.ค. ปี 2016

แม้ว่าการที่สหรัฐฯคว่ำบาตรอิหร่านจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 4 พ.ย. แต่ราคาน้ำมันก็ลงมาแล้วประมาณ 10 เหรียญ นับตั้งแต่ที่ขึ้นไปทำระดับสูงสุดในรอบ 4 ปีเมื่อช่วงต้นเดือนต.ค.ที่ผ่านมา

• รัฐบาลสหรัฐฯยืนยันจะส่งทหารจำนวน 5,200 นายเข้าประจำการในบริเวณชายแดนระหว่างสหรัฐฯ-เม็กซิโก ซึ่งเป็นจำนวนทหารที่มากกว่าหลายๆฝ่ายเคยคาดการณ์เอาไว้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเฝ้าระวังชาวเม็กซิโกที่พยายามลักลอบเดินทางเข้าสหรัฐฯอย่างผิดกฏหมาย อีกทั้งจำนวนทหารที่จะเข้าประจำการในบริเวณชายแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโก จะมีจำนวนใกล้เคียงกันกับจำนวนทหารของสหรัฐฯที่ประจำการอยู่ในอิรัก

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com