• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 10 ตุลาคม 2561

    10 ตุลาคม 2561 | Economic News

·         ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯที่ปรับตัวลงหลังจากที่ขึ้นไปทำระดับสูงสุดรอบ 7 สัปดาห์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ ขณะที่ค่าเงินปอนด์ปรับแข็งค่าขึ้นหลังมีรายงานว่าอาจมีความหวังที่ทางอังกฤษและอียูจะบรรลุข้อตกลง Brexit ร่วมกันได้


อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี ปรับขึ้นแตะระดับสูงสุดรอบ 7 ปีที่ 3.261ก่อนจะร่วงลงมาที่ 3.2101% จากการอ่อนตัวของราคาหุ้นและความกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก


ดัชนีดอลลาร์ปรับลงที่ระดับ 0.11% ที่ระดับ 95.651 จุด หลังไปแตะระดับสูงสุดรอบ 7 ปีที่ระดับ 96.155 จุด


ค่าเงินยูโรได้รับแรงหนุนหลังมีรายงานว่าข้อตกลงที่อังกฤษจะออกจากอียูอาจบรรลุข้อตกลงได้เร็วที่สุดในวันจันทร์นี้ โดยทั้งสองยังคงมีความคิดเห็นแตกต่างกันเพียงประเด็นพรมแดนไอริชที่ยังไม่มีทางแก้ไข โดยค่าเงินปอนด์จากที่ร่วงลงก็ปรับแข็งค่าขึ้นมา 0.41ที่ระดับ 1.3147 ดอลลาร์/ปอนด์


ค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้นหลังจากที่ร่วงลงทำระดับต่ำสุดรอบ 7 สัปดาห์ที่ระดับ 1.14325 ดอลลาร์/ยูโร โดยปิด +0.08% ที่ระดับ 1.15000 ดอลลาร์/ยูโร  


·         ไอเอ็มเอฟ ระบุว่า ความเสี่ยงต่อระบบการเงินโลกเพิ่มขึ้นในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา และอาจเพิ่มขึ้นได้อีกหากยังมีแรงกดดันในตลาดเกิดใหม่หรือภาวะความตึงเครียดทางการค้าโลกมากขึ้น

·         นายแพทริก ฮาร์เกอร์ ประธานเฟดสาขาฟิลาเดเฟีย กล่าวว่า สภาวะการจ้างงานของสหรัฐฯยังไม่มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงไปในเร็วๆนี้ ดังนั้น ตลาดแรงงานจึงจะยังค่อนข้างแข็งแกร่งอยู่


·         นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าววิจารณ์การดำเนินงานของเฟดอีกครั้ง โดยระบุกับผู้สื่อข่าวว่า เฟดกำลังขึ้นดอกเบี้ยเร็วเกินไป ในขณะที่เงินเฟ้อเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย และข้อมูลภาครัฐบาลบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ


·         นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า ในการประชุมสุดยอดผู้นำครั้งที่ 2 กับทาง นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนืออาจจะเกิดขึ้นหลังเสร็จสิ้นการเลือกตั้งของรัฐสภาสหรัฐฯในวันที่ 6 พ.ย.


·         The Times รายงานว่า นางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษกำลังมีแผนที่จะขยายเวลาการหารือเกี่ยวกับ Brexit ในการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันอังคารหน้า ด้วยความหวังที่ว่าจะหาทางประนีประนอมเกี่ยวกับข้อตกลงพรมแดนไอร์แลนด์ได้


·         ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นประมาณ 1% ท่ามกลางหลักฐานบ่งชี้ถึงยอดส่งออกน้ำมันดิบในอิหร่านที่ปรับตัวลดลง ก่อนที่มาตรการคว่ำบาตรของทางสหรัฐฯจะมีผลบังคับใช้ นอกจากนี้ ยังมีการปิดโรงผลิตน้ำมันบริเวณอ่าวเม็กซิโกจากพายุเฮอริเคนไมเคิล


ราคาน้ำมันดิบ Brent ปิดปรับขึ้น 1.09 เหรียญ ที่ระดับ 85 เหรียญ/บาร์เรล หรือคิดเป็น +1.3% หลังจากที่ในสัปดาห์ที่แล้วทำ High รอบ 4 ปีที่ 86.74  เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่เมื่อวันจันทร์ทำ Low บริเวณ 82.66 เหรียญ/บาร์เรล


ทางด้านน้ำมันดิบ WTI ปิดปรับขึ้น 67 เซนต์ คิดเป็น +0.9ที่ระดับ 74.96 เหรียญ/บาร์เรล

 

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com