• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 9 ตุลาคม 2561

    9 ตุลาคม 2561 | Economic News
·       ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 0.17% บริเวณ 95.60 จุด ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ที่ 95.78 จุด ท่ามกลางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯทีปรับสูงขึ้น ขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มที่เศรษฐกิจโลกอาจชะลอตัวลงได้กดดันปริมาณความต้องการสินทรัพย์เสี่ยง

ด้านค่าเงินเยนค่อนข้างทรงตัวเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ที่บริเวณ 113.30 เยน/ดอลลาร์ โดยบรรดานักลงทุนกำลังประเมินความเสี่ยงจาก Trade war ระหว่างสหรัฐฯ-จีน รวมถึงความตึงเครียดทางการเมืองในยุโรป

ขณะที่ค่าเงินยูโรทรงตัวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ครึ่ง ที่บริเวณ 1.1475 ดอลลาร์/ยูโร โดยค่าเงินยังคงถูกกดดันจากความกังวลว่าแผนงบประมาณของอิตาลีอาจนำมาซึ่งวิกฤติทางการเงินครั้งใหม่ในอิตาลี

·       กองทุนไอเอ็มเอฟ กล่าวเตือนว่า กรณี Trade War ของนายทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯกับจีนและยุโรปดูเหมือนจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวต่อเศรษฐกิจโลกในปีนี้และปีหน้า

โดยความตึงเครียดที่เกิดขึ้นจากนโยบายกีดกันทางการค้าของประธานาธิบดีสหรัฐฯนั้นดูจะเป็นผลกระทบที่บั่นทอนสินค้านำจากทางจีนและทำให้การขยายทางเศรษฐกิจปีนี้และปีหน้าปรับตัวลง ซึ่งผู้ที่จะได้รับผลกระทบนั้นจะรวมไปถึง ประเทศสหรัฐฯ ฝรั่งเศส เยอรมนี และจีน

ขณะที่อังกฤษถูกคาดว่าจะได้รับผลกระทบจากปัญหาข้อขัดแย้งทางการค้าดังกล่าวด้วย ตลอดจนความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการออกจากอียูหรือ Brexit ที่จะบั่นทอนแนวโน้มของเศรษฐกิจอังกฤษในปีนี้และปีหน้าด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ ไอเอ็มเอฟ ยังระบุว่า ผลกระทบจาก Trader War ของสหรัฐฯและจีนจะส่งผลให้เศรษฐกิจโลกปีนี้และปีหน้าขยายตัวได้เท่ากันที่ระดับ 3.7% จากคาดการณ์เดิมที่ 3.9% ที่เคยประเมินไว้ในเดือนเม.ย.

·       การเข้ารับตำแหน่งในศาลสูงสุดของคาวานอร์ท อาจทำให้กระแสการเลือกตั้งกลางวาระเปลี่ยนไป

เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นายเบ็ท คาวานอร์ท (Brett Kavanaugh) ได้ร่วมพีธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งเป็นคณะกรรมการอันดับที่ 114 ในศาลสูงสุดแห่งสหรัฐฯ ถึงแม้ก่อนหน้าการลงมติเลือกนายคาวานอร์ทจะดำเนินไปด้วยความกังวลเกี่ยวกับการที่เขาถูกฟ้องร้องในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศหญิงสาว ในสมัยที่นายคาวานอร์ทยังเป็นนักศึกษาอยู่ในระดับ High School

อย่างไรก็ตาม นายมิตช์ แมคคอนเนลล์ (Mitch McConnell) ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา กล่าวเตือนว่า การเข้ารับตำแหน่งของนายคาวานอร์ท อาจทำให้ฐานเสียงของพรรครีพับลิกันเกิดความไม่พึงพอใจ และตอบรับด้วยการไม่ลงคะแนนให้ตัวแทนจากรีพับลิกันได้

ขณะที่ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต แสดงความผิดหวังต่อการรับตำแหน่งของนายคาวานอร์ท โดยระบุว่า ฐานเสียงส่วนใหญ่ของรีพับลิกัน โดยเฉพาะผู้หญิง ยังคงมีความไม่พึงพอใจต่อการที่นายคาวานอร์ทหลุดพ้นจากข้อกล่าวหาว่าเขาได้ล่วงระเมิดนางคริสทีน เบรสซี่ ฟอร์ด (Christine Blasey Ford) ในสมัยที่ทั้งคู่ยังเป็นวัยรุ่น ถึงแม้นายคาวานอร์ทจะให้การปฏิเสธข้อกล่าวหามาโดยตลอดก็ตาม

นอกจากนี้ นายเจอโรลด์ แนดเลอร์ (Jerrold Nadler) ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต ที่จะได้รับตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการด้านการยุติธรรมแห่งสภาผู้แทนราษฎร หากพรรคเดโมแครตชนะการเลือกตั้ง ยืนยันว่าเขาจะดำเนินการสืบสวนนายคาวานอร์ทอีกครั้ง หากเดโมแครทชนะการเลือกตั้งกลางวาระ

·       กลุ่มประชาชนผู้หญิงที่ร่วมชุมนุมต่อต้านการเข้ารับตำแหน่งเป็นคณะกรรมการประจำศาลสูงสุดแห่งสหรัฐฯ ของนายเบ็ท คาวานอร์ท ยืนยันจะต่อต้านการเข้ารับตำแหน่งดังกล่าวต่อไป พร้อมเตือนพรรครีพีบลิกันว่าพวกเขาอาจได้รับผลกรรมที่ทำไว้ในการเลือกตั้งการวาระที่จะเกิดขึ้นในเดือน พ.ย.

นักวิเคราะห์บางส่วนระบุว่า การเข้ารับตำแหน่งของนายคาวานอร์ท ที่ปัจจุบันถือว่าเป็นกรรมการในศาลสูงสุดแห่งสหรัฐฯที่มีคะแนนความนิยมต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ  อาจนำไปสู่การสูญเสียที่นั่งในรัฐสภาของพรรครีพับลิกัน

·       ยอดส่งออกของเยอรมนีปรับลดลงผิดคาดในเดือน ส.ค. ซึ่งเป็นสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ว่าอุตสาหกรรมเยอรมนีเริ่มชะลอตัวลง

โดยข้อมูลจากกระทรวงสถิติระบุว่า การส่งออกของเยอรมนีชะลอตัวลง 0.1% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 0.3% ขณะที่การส่งออกลดลง 2.7% มากกว่าที่คาดการณ์ว่าจะลดลง 0.2% จึงส่งผลให้ยอดเกินดุลการค้าของเยอรมนีขยายตัวสู่ระดับ 1.53 หมื่นล้านยูโร จากเดิมในเดือน ก.ค. ที่ 1.51 หมื่นล้านยูโร

·       สมาชิกอาวุโสประจำพรรคอนุรักษ์นิยมของนางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ คาดการณ์ว่ามีสมาชิกในพรรคไม่น้อย 40 คน ที่พร้อมจะโหวตไม่ให้การสนับสนุนนโยบายเจรจา Brexit ของนางเมย์ หากแผนการเจรจาของเธอยังคงทำให้อังกฤษถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปแบบ ครึ่งๆกลางๆ

·       นายมัตเตโอ ซาลวินี รองนายกรัฐมนตรีแห่งอิตาลี กล่าวยืนยันว่ารัฐบาลอิตาลีจะยังเดินหน้าแผนปรับลดเป้าหมายยอดขาดดุลการค้าสำหรับปีหน้าต่อไป เนื่องจากแผนดังกล่าวจะช่วยจำกัดอัตราว่างงานและกระตุ้นรายได้ให้เข้าสู่ประเทศ

·       รายงานจากสำนักข่าวประจำรัฐบาลจีนระบุว่า รัฐบาลจีนจำเป็นต้องใช้นโยบายเศรษฐกิจทีมี่ความเข้มข้นในการกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจจีน หลังจากที่ธนาคารกลางจีนได้มีการประกาศลดเพดานถือครองเงินสดสำรองสำหรับภาคธนาคาร (Reserve Requirement Ratios :RRRs) เมื่อวานนี้

โดยการประกาศลด RRRs เมื่อวานนี้ ถือเป็นครั้งที่ 4 ภายในปีนี้ โดยจีนมีจุดมุ่งหมายเพื่อลดข้อจำกัดทางเครดิต กระตุ้นภาคธุรกิจ และลดความผันผวนของตลาดที่เกิดจากความกังวลเกี่ยวกับ Trade war กับสหรัฐฯที่มีแนวโน้มจะรุนแรงยิ่งขึ้น

·       ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น หลังมีรายงานว่าปริมาณส่งออกน้ำมันของอิหร่านยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องท่ามกลางการคว่ำบาตรของสหรัฐฯที่จะมีผลบังคับใช้ในเดือนหน้า ประกอบกับรายงานข่าวเกี่ยวกับพายุเฮอริเคนที่กำลังเคลื่อนตัวผ่านอ่าวเม็กซิโก

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับสูงขึ้น 0.5% บริเวณ 84.36 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่ปรับตัวลดลงแตะระดับ 82.66 เหรียญ/บาร์เรล ในช่วงตลาดก่อนหน้า โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบ Brentทำระดับสูงสุดในรอบ 4 ปีที่ 86.74 เหรียญ/บาร์เรล

ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับสูงขึ้น 0.5% บริเวณ 74.70 เหรียญ/บาร์เรล

·       วิเคราะห์ราคาน้ำมัน WTI ทางเทคนิค: ราคาน้ำมันติดแนวรับที่ $73.00 และรีบาวน์กลับขึ้นมาอีกครั้ง

นักวิเคราะห์จาก FX Street ระบุว่า ราคาน้ำมัน WTI ยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางขาขึ้น เหนือเส้นค่าเฉลี่ยราย 50100 และ 200 วัน ที่ต่างก็เคลื่อนไหวขึ้นเช่นเดียวกัน

โดยราคามีการย่อตัวลงไปเมื่อคืนนี้ แต่ชนกับแนวรับที่ระดับ $73.00 ซึ่งเปรียบเสมือนการปรับฐานของราคา ดังนั้นราคาจึงรีบาวน์กลับขึ้นไปบริเวณ 73.00 – 73.50 และเป้าหมายของทิศทางขาขึ้นวันนี้จะอยู่บริเวณ $75.24 และ $76.00

ในขณะเดียวกัน หากราคาย่อตัวหลุดระดับ $73.00 ลงไป ก็จะเป็นการลบล้างสัญญาณของทิศทางขาขึ้น

ทิศทางหลัก: ขาขึ้น

แนวต้าน: 74.0075.2475.88

แนวรับ: 73.0072.0071.45

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com