• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 5 ตุลาคม 2561

    5 ตุลาคม 2561 | Economic News

·         ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโรและค่าเงินเยน แต่ยังทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดเมื่อไม่นานมานี้จากการที่นักลงทุนประเมินว่า ผลกระทบจากความผันผวนของพันธบัตรรัฐบาลทั่วโลกได้ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯทำสูงสุดรอบ 7 ปี


ค่าเงินดอลลาร์ยังได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ ประกอบกับถ้อยแถลงของประธานเฟดในมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจ ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศขนาดใหญ่อย่างยูโรโซนยังอยู่ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้


·         นักลงทุนกำลังจับตาสัญญาณเงินเฟ้อสหรัฐฯที่กำลังเพิ่มขึ้นในส่วนของภาคบริษัท ไม่ว่าจะเป็นบริษัท Amazon, การปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ และข้อมูลจ้างงานสหรัฐฯในเดือนที่ผ่านมา หลังจากที่ข้อมูลในเดือนส.ค.นั้นขยายตัวได้มากที่สุดในรอบเกือบ 9 ปี ซึ่งข้อมูลจ้างงานรัฐบาลสหรัฐฯคืนนี้จะเป็นตัวที่ให้สัญญาณใหม่ๆเกี่ยวกับการขยายตัวของค่าแรง รวมไปถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน


·         ดัชนีดอลลาร์ปรับขึ้นแตะ 96.1 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 20 ส.ค. และใกล้ระดับสูงสุดนับตั้งแต่กลางเดือนส.ค. ปีนี้ที่ 96.99 จุด โดยล่าสุดตลาดอ่อนตัวลงมาเล็กน้อยมาเคลื่อนไหวที่ 95.79 จุด

·         อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปีปรับขึ้นมาแตะ 3.23ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่กลางเดือน 2011 หลังจากที่ข้อมูลจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐฯออกมาแข็งแกร่งกว่าคาด


·         ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงแตะ 114.54 เยน/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับอ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 11 เดือน ก่อนจะกลับแข็งค่าลงมาเล็กน้อยที่ 113.79 เยน/ดอลลาร์


·         ค่าเงินยูโรแข็งค่ากลับขึ้นมาเล็กน้อยจากที่ลงไปทำระดับต่ำสุดรอบ 6 สัปดาห์เมื่อเทียบค่าเงินดอลลาร์หลังจากที่หลุดแนวรับสำคัญทางเทคนิค 1.15 ดอลลาร์/ยูโร

·         ผลประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯเมื่อวานนี้ออกมาดีขึ้น ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลงใกล้ระดับต่ำสุดรอบ 49 ปี จึงยิ่งตอกย้ำถึงความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ ตามที่ประธานเฟดได้กล่าวย้ำไว้

·         นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เตรียมลงนามในคำสั่งประธานาธิบดีเกี่ยวกับกฎหมายการบิน โดยจะอนุมัติให้รัฐบาลสามารถยิงทำลายโดรนที่ตรวจสอบพบว่าเป็นภัยคุกคาม อนุมัติให้สายการบินสามรถใช้โดรนในการส่งพัสดุ รวมถึงสั่งห้ามสายการบินยกเลิกที่นั่งของผู้โดยสาร เพื่อเป็นการปกป้องสิทธิของผู้โดยสาร

·         รัฐบาลสหรัฐฯประกาศคว่ำบาตรบริษัท SIA Falcon International Group สาขาตุรกี รวมถึงผู้บริหารและผู้จัดการสาขาของ บริษัทดังกล่าว และนักการทูตของเกาหลีเหนือ ภายใต้ข้อกล่าวหาว่าบริษัทฯมีการค้าอาวุธและสินค้าอื่นๆร่วมกันเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของ U.N.

·         รัฐบาลสก็อตแลนด์ยื่นเรื่องเรียกร้องต่อศาลยุติธรรมแห่งสหภาพยุโรป ให้ศาลพิจารณาอนุมัติให้รัฐบาลอังกฤษสามารถตัดสินใจยกเลิกการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปได้ โดยไม่จำเป็นต้องรอความยินยอมจากสหภาพยุโรป

ขณะที่รายงานจากรอยเตอร์ส ระบุว่า ตัวแทนการเจรจา Brexit จากสหภาพยุโรปได้รับทราบถึงข้อเสนอใหม่เกี่ยวกับพรหมแดนไอร์แลนด์จากรัฐบาลอังกฤษ ซึ่งส่งผลให้เกิดกระแสคาดหวังว่าข้อเสนอใหม่จากอังกฤษจะสามารถทำให้การเจรจา Brexit ดำเนินไปต่อได้ หลังจากที่ติดขัดกับปัญหาพรหมแดนกับไอร์แลนด์มาโดยตลอด

·         ค่าใช้จ่ายภาคครัวเรือนของญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นเกินคาดในเดือนส.ค.เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และย้ำว่าการขยายตัวช่วง 2 เดือนยังแข็งแกร่ง และบ่งชี้ว่าข้อมูลตลาดแรงงานยังแข็งแกร่งและขยายเศรษฐกิจได้อย่างทรงตัวจึงช่วยหนุนการเข้าซื้อภาคครัวเรือน

·         ราคาน้ำมันดิบปิดปรับตัวลงจากโอกาสที่ผลผลิตน้ำมันดิบจากประเทศซาอุดิอาระเบียและรัสเซียที่ทำให้เกิดแรงเทขายทำกำไรเข้ามา หลังจากที่สัญญาน้ำมันดิบปรับขึ้นไปทำระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี


ราคาน้ำมันดิบ Brent ปิดลดลง 1.71 เหรียญ คิดเป็น -1.98ที่ระดับ 84.58  เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่ไปทำระดับสูงสุดช่วงปลายปีที่ระดับ 86.74 เหรียญ/บาร์เรล


ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดลง 2.08 เหรียญ ที่ระดับ 74.33 เหรียญ/บาร์เรล คิดเป็น -2.72%


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com