• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 4 ตุลาคม 2561

    4 ตุลาคม 2561 | Economic News

• ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ ท่ามกลางถ้อยแถลงของนายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯยังมีทิศทางเชิงบวก และทำให้เฟดยังคงเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยได้

• นักกลยุทธ์ค่าเงินจาก CIBC Capital Markets กล่าวว่า ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวยังค่อยเป็นค่อยไปจากโอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย

• ค่าเงินยูโรมีการทดสอบแนวรับสำคัญทางเทคนิคที่ 1.1510 – 1.1508 ดอลลาร์/ยูโร ซึ่งเป็นการทำระดับต่ำสุดชั่วคราวในเดือนมิ.ย. ซึ่งหาค่าเงินยูโรทรงตัว และหากต่ำกว่าระดับดังกล่าวก็มีโอกาสเห็นทองคำทดสอบ 1.13 ดอลลาร์/ยูโร ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดรอบ 1 ปีในเดือนส.ค.

• ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวขึ้นมาทรงตัวที่ 96.035 จุด โดยใกล้ระดับสูงสุดเมื่อคืนนี้

• ผลการประกาศข้อมูลจ้างงานสหรัฐฯภาคเอกชนขยายตัวขึ้นเกินคาดในเดือนก.ย. ที่ระดับ 230,000 ตำแหน่ง

• เมื่อคืนนี้ นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด ยังคงกล่าวย้ำถึงระดับดอกเบี้ยที่ยังอยู่ห่างจากระดับปกติ หรือ “Neutral” ของเฟด ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯเชิงบวกที่เห็นได้ถึงการขยายตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง

• ISM ประกาศข้อมูลดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการ โดยจะเห็นได้ว่ามีการปรับขึ้นทำระดับสูงสุดรอบ 21 ปี ในเดือนก.ย. เพราะได้รับแรงหนุนจากการจ้างงานในภาคบริษัทต่างๆ จึงสะท้อนถึงสัญญาณความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯในช่วงไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมา

• วุฒิสภาสหรัฐฯมีมติผ่านร่างกฎหมายฉบับยกเครื่องต่อแนวการให้ยืมของรัฐบาลสหรัฐฯเพื่อการพัฒนาต่างประเทศเป็นมูลค่า 6 หมื่นล้านเหรียญฯ เพื่อตอบรับการการขยายตัวที่ทรงอิทธิพลของประเทศจีน

• นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตีกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า เขามีมุมมองเชิงบวกต่อแผนการเดินทางเยือนไปเกาหลีเหนือของเขาในสัปดาห์นี้ และอาจมีความคืบหน้ามากขึ้นในการประชุมสุดยอดผู้นำครั้งที่ 2 ระหว่าง นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ในการหาแนวทางปลดอาวุธนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ

• ข้อมูลล่าสุดจากทางอียู เผยว่า อังกฤษอาจเรียกร้องช่องทางการเงินมากกว่าที่อียูคาดไว้ หลังจากที่อังกฤษออกจากอียูไปแล้ว เนื่องจากระดับหนี้สินของอียูจะถูกขับเคลื่อนจากค่าใช้จ่ายเงินบำนาญ ที่สูงขึ้นและการรับประกันทางการเงิน

• นายกุยเซปเป้ คอนติ นายกรัฐมนตรีอิตาลี กล่าวว่า อิตาลีจะทำการปรับลดเป้าหมายงบประมาณขาดดุลจากปี 2020 และปรับลดระดับหนี้ในช่วง 3 ปี จึงช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับนโยบายการเงินของอิตาลีลงไปในตลาด

• เยอรมนีและสหรัฐฯมีความเห็นพ้องกันในการจำเป็นต้องร่วมกันเพื่อหาความเป็นไปได้ในการยุติการใช้อาวุธเคมีในซีเรีย

• ราคาน้ำมันดิบ Brent ปิดปรับขึ้นในรอบเกือบ 2% หลังจากที่ขึ้นไปทำระดับสูงสุดรอบ 4 ปี ท่ามกลางตลาดที่ให้น้ำหนักความสนใจไปยังการที่สหรัฐฯจะคว่ำบาตรอิหร่าน ขณะเดียวกันตลาดก็เมินการปรับตัวขึ้นของสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯประจำสัปดาห์ที่เพิ่มขึ้นเกินคาดและรายงานที่ว่าซาอุดิอาระเบียนและรัสเซียมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น

น้ำมันดิบ Brent ปิดปรับขึ้น 1.4 เหรียญ คิดเป็น +1.8% ที่ระดับ 86.29 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากไปทำระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 30 ต.ค. ปี 2014 ที่ 86.74 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ปิดขึ้น 1.18 เหรียญ คิดเป็น +1.6% ที่ระดับ 76.41 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากไปแตะระดับสูงสุดที่ 76.9 เหรียญ/บาร์เรล

โดยน้ำมันดิบทั้ง 2 ชนิดปรับขึ้นได้แม้ว่ารัฐบาลสหรัฐฯจะเปิดเผยข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ที ปรับตัวสูงขึ้น

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com